กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีความจุ 99% เพียงพอบริหารใช้ในช่วงหน้าแล้ง ขณะที่ปริมาณน้ำเหนือเบาลงต่อเนื่อง ทำให้เขื่อนเจ้าพระยาลดการระบายเหลือ 1,600 ลบ.ม./ วินาที คาดว่าจะลงถึง 700 ลบ.ม./วินาทีช่วงวันที่ 17-18 ธ.ค.68
นายกฯ เตือนใจ สั่ง จนท.เทศบาลเมืองอ่างทอง สร้างแนวคันกั้นน้ำสูง 1.5 ม. ริมถนนสวนน้ำฯ ยาวกว่า 2 กม.หวังกันน้ำจาก อ.อินทร์บุรี และ พรหมบุรี ข้ามมาท่วมเมืองอ่างทอง ขณะเดียวกันก็เสริมกระสอบทรายตลอดแนวแม่น้ำเจ้าพระยา ปกป้องเขตเศรษฐกิจเมืองอ่างทองเต็มกำลัง
เทศบาลเมืองอ่างทองเร่งวางแบริเออร์ริมถนนอ่างทอง-สิงห์บุรีสายเก่า พร้อมเสริมแนวกั้นแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อรับมือมวลน้ำจาก จ.สิงห์บุรี ที่ไหลบ่าลงมา ล่าสุด ระดับน้ำเจ้าพระยาเมื่อช่วงเย็น หน้าที่ทำการเทศบาลเมืองอ่างทอง น้ำห่างจากขอบเขื่อนเพียงแค่คืบเดียว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ จ.อ่างทอง - อยุธยา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ รับฟังปัญหาจากชาวบ้าน พร้อมมอบถุงยังชีพ กำชับหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน
กรมชลประทาน แจ้งเพิ่มการระบายเขื่อนเจ้าพระยาเป็น 2,900 ลบ.ม./วินาที หลังน้ำที่นครสวรรค์ไหลอัตราใกล้ 3,000 ลบ.ม./วินาที ชี้ กระทบหนักที่ลุ่มท้ายเขื่อน และพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และลำน้ำสาขา แนะบ้านนอกแนวกั้น รีบขนของ เครื่องไฟฟ้าขึ้นที่สูงด่วน
กนช. มีมติเห็นชอบ กรมชลประทาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา 2,000 – 2,500 ลบ.ม./วินาที เพื่อรับมือฝนตกหนักต่อเนื่องลงแม่น้ำเจ้าพระยาทำให้ท้ายเขื่อนระดับน้ำสูงขึ้น 40-60 ซม. อาจกระทบพื้นที่ จ.ชัยนาท สิงหืบุรี อ่างทอง และ พระนครศรีอยุธยา