เมื่อเข้าสู่ภาวะดอกเบี้ยขาลง ลงทุนตลาดหุ้นไทยแบบไหนดี?
by Trust News, 23 กันยายน 2568
เมื่อเข้าสู่ภาวะดอกเบี้ยขาลง ลงทุนตลาดหุ้นไทยแบบไหนดี?
ภายใต้ภาวะวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง ซึ่งจากสถิติในอดีตบ่งชี้ว่าส่วนใหญ่ SET จะตอบสนองเชิงบวกและยังช่วยหนุน Valuation ของ SET ผ่านการ re-rate Fwd PER เนื่องจาก Cost of Equity ที่ลดลงและ Earning Yield Gap ที่กว้างขึ้น (Bond Yield ลดลง)
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำรจากภาวะดอกเบี้ยขาลง จึงแนะนำให้ทยอยซื้อสะสมสำหรับ...
1) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE
2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น แนะนำ AP MTC TIDLOR และ
3) หุ้นใหญ่ที่มีโอกาสได้อานิสงส์จาก Fund flow ชะลอการขายหรือกลับมาไหลเข้า โดยเลือกหุ้น SET50 ที่เป็นผู้นำอุตสาหกรรมและกำไรมั่นคง อีกทั้งจ่ายปันผลสม่ำเสมอ แนะนำ CPALL PTT BDMS
หลังเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 25 ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ “เฟด” มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ 4.00–4.25% ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งแรกตั้งแต่ ธ.ค. 24 อีกทั้ง DotPlot ใหม่ของเฟดยังบ่งชี้ว่ามีโอกาสลดดอกเบี้ยลงอีก 50bps ปีนี้และอีก 25bps ในปีหน้า
สอดคล้องกับที่ คาดเอาไว้ว่า ปี 2025 เฟด จะปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง (ลดไปแล้ว 1 ครั้งในการประชุมเมื่อวันที่ 17 ก.ย.นี้) สู่ 3.63% (ช่วงคาดการณ์ที่ 3.50-3.75%) และปี 2026 คาดเฟดอาจลดได้อีก 1 ครั้ง สู่ 3.38%
ส่งผลให้ดอกเบี้ยนโยบายจะต่ำกว่า “เงินเฟ้อ” สะท้อนชัดว่านโยบายการเงินกำลังเคลื่อนไปสู่โหมด Accommodative stance เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตและเสถียรภาพราคา
ส่วนภาวะดอกเบี้ยในไทย คาดปี 2025 กนง. จะลดดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้ง (ในการประชุมวันที่ 8 ต.ค.) และปี 2026 ปรับลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง (ภายใน 1Q26 และ 2Q26 ไตรมาสละ 1 ครั้ง) รวม 75bps แรงหนุนจากภาวะเศรษฐกิจไทย 2H25 ยังอ่อนแรง การท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว เกิดภาวะการเงินตึงตัวจากเงินบาทแข็งค่าและสินเชื่อหดตัวต่อเนื่อง
แม้การปรับลดดอกเบี้ยจะส่งผลลบต่อกำไรของกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ แต่ยังถูกชดเชยได้ด้วยกำไรที่ดีขึ้นของกลุ่มอื่นๆ ทำให้กำไรรวมของ SET ไม่ได้ลดลงจากเดิมอย่างมีนัย
ขณะที่จากสถิติปี 2001-2024 เมื่อมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายพบว่าส่วนใหญ่ SET จะตอบสนองเชิงบวก โดยดัชนีจะปรับขึ้นเฉลี่ย 5.3% ใน 1 เดือนหลังปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรก และจะปรับขึ้นเฉลี่ย 25.8% (เฉลี่ย 1.8% ต่อเดือน) ในช่วงวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง
อีกทั้ง SET ยังปรับขึ้นต่อได้หลังสิ้นสุดวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงไปแล้ว 1 เดือน และ 3 เดือน โดยปรับขึ้นเฉลี่ย 2.7% และ 10.5% (หรือ 3.5% ต่อเดือน) ตามลำดับ เพราะหลังผ่านดอกเบี้ยขาลง เศรษฐกิจและกำไร บจ. จะเริ่มฟื้นตัว อีกทั้ง Fund Flow จะไหลเข้าตลาดสินทรัพย์เสี่ยงแทนตลาดพันธบัตรที่ให้ Yield ต่ำ
นอกจากนี้ การปรับลดดอกเบี้ยยังช่วยหนุน Valuation ของ SET ผ่านการ re-rate Fwd PER ได้เฉลี่ย 6.6% ต่อการลดดอกเบี้ย 25bps ทำให้แม้ INVX คาดกรณีฐาน (Fwd PER 14 เท่า) เป้า SET ปี 2025 และปี 2026 จะอยู่ที่ 1242 และ 1316 จุด ตามลำดับ
แต่หาก กนง. ปรับลดดอกเบี้ยตามคาด ภายใต้กำไรของ SET ที่ยังเติบโตได้ Valuation SET มีโอกาส re-rate Fwd PER ไปสู่ระดับ 16 เท่า ทำให้เป้า SET มีโอกาสอยู่ที่ 1419-1504 จุดในปี 2026
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์
You might be intertested in this news.
Mostview
เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา
เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา (PART1)
อีนางคำดวง อาชีพ “นายฮ้อย” กับเรื่องจริงการค้าควาย สมัย ร.5
จากละคร สู่เรื่องจริง อาชีพ "นายฮ้อย" และการค้าขายควาย ในสมัย ร.5 สาเหตุที่เฟื่องฟู กับปัญหาการขโมยและปล้นควาย...
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(23ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากำไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(23ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากำไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(22ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากําไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(22ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากําไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(17ก.ย.68) เก็งกําไรในกรอบ
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(17ก.ย.68) เก็งกําไรในกรอบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
