ปภ.เตือน 57 จว.ทั่วไทย เตรียมรับมือน้ำท่วม ดินถล่มคลื่นลมแรงจาก "พายุบัวลอย"
by Trust News, 28 กันยายน 2568
ปภ. แจ้ง 57 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง ดินถล่ม และคลื่นลมแรง ช่วงวันที่ 28-30 กันยายน 68 เร่งประสานพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือมืออิทธิพลจาก "พายุบัวลอย"
เมื่อเวลา 11.45 น.วันที่ 28 ก.ย. 68 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง ดินถล่ม และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 28-30 ก.ย. 68 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง
ปภ.โดยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 3 (264/2568) ลงวันที่ 27 กันยายน 2568 เวลา 11.00 น. แจ้งว่า พายุโซนร้อนกำลังแรง “บัวลอย” บริเวณทะเลจีนใต้ จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามตอนบน ในวันที่ 29 กันยายน 2568 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ ซึ่งจากอิทธิพลของพายุ “บัวลอย” จะส่งผลให้ในช่วงวันที่ 28 - 30 กันยายา 2568 ร่องมรสุมกำลังแรงจะพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงด้านรับมรสุมในภาคกลางและภาคใต้ฝั่งตะวันตกสำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยยังคงมีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ดังนี้

พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินโคลนถล่ม
ภาคเหนือ จำนวน 17 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ปางมะผ้า ปาย ขุนยวม แม่ลาน้อย และอำเภอแม่สะเรียง) เชียงใหม่ (อำเภอเมืองเชียงใหม่ แม่อาย ฝาง เชียงดาว แม่แตง และอำเภอพร้าว) เชียงราย (อำเภอเมืองเชียงราย แม่สาย ขุนตาล เชียงของ ดอยหลวง เทิง เวียงแก่น แม่จัน แม่ลาว พาน และอำเภอเวียงป่าเป้า) ลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน) ลำปาง (อำเภอเมืองลำปาง วังเหนือ งาว แจ้ห่ม และอำเภอเมืองปาน) พะเยา (อำเภอภูซาง เชียงคำ ปง จุน และอำเภอดอกคำใต้) แพร่ (อำเภอสอง ลอง และอำเภอร้องกวาง) น่าน (อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ทุ่งช้าง สองแคว เชียงกลาง ท่าวังผา บ่อเกลือ ปัว ภูเพียง แม่จริม และอำเภอเวียงสา) อุตรดิตถ์ (อำเภอน้ำปาด บ้านโคก และอำเภอฟากท่า) ตาก (อำเภอท่าสองยาง และอำเภอแม่ระมาด) สุโขทัย(อำเภอศรีสัชนาลัย และอำเภอสวรรคโลก) กำแพงเพชร (อำเภอพรานกระต่าย) พิษณุโลก(อำเภอนครไทย บางระกำ และอำเภอชาติตระการ) พิจิตร (อำเภอเมืองพิจิตร) เพชรบูรณ์ (อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ หล่มเก่า หล่มสัก วิเชียรบุรี) นครสวรรค์ (อำเภอเมืองนครสวรรค์) และจังหวัดอุทัยธานี (อำเภอบ้านไร่)
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 16 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเลย (อำเภอภูกระดึง ภูเรือ ภูหลวง ด่านซ้าย และอำเภอวังสะพุง) หนองคาย (อำเภอเมืองหนองคาย และอำเภอโพนพิสัย) บึงกาฬ (อำเภอเซกาและอำเภอบึงโขงหลง) หนองบัวลำภู (อำเภอสุวรรณคูหา) อุดรธานี (อำเภอเมืองอุดรธานี บ้านผือ และอำเภอเพ็ญ) สกลนคร (อำเภอเมืองสกลนคร โคกศรีสุพรรณ เต่างอย โพนนาแก้ว ภูพาน และอำเภออากาศอำนวย) นครพนม (อำเภอนาแก นาทม นาหว้า บ้านแพง และอำเภอศรีสงคราม) ชัยภูมิ (อำเภอเมืองชัยภูมิ เกษตรสมบูรณ์ คอนสวรรค์ และอำเภอคอนสาร) ขอนแก่น(อำเภอเมืองขอนแก่น บ้านแฮด ภูผาม่าน แวงน้อย และอำเภอแวงใหญ่) กาฬสินธุ์ (อำเภอคำม่วง) มุกดาหาร (อำเภอเมืองมุกดาหาร ดงหลวง นิคมคำสร้อย และอำเภอหนองสูง) ร้อยเอ็ด (อำเภอโพนทอง) ยโสธร (อำเภอเมืองยโสธร และอำเภอเลิงนกทา) อำนาจเจริญ (อำเภอเมืองอำนาจเจริญ ชานุมาน และอำเภอลืออำนาจ) นครราชสีมา (อำเภอปากช่อง พิมาย และอำเภอคง) และจังหวัดอุบลราชธานี (อำเภอเมืองอุบลราชธานี นาจะหลวย และอำเภอวารินชำราบ)
ภาคกลาง จำนวน 14 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอสังขละบุรี) ราชบุรี (อำเภอบ้านคา) ชัยนาท (อำเภอเมืองชัยนาท) ลพบุรี (อำเภอเมืองลพบุรี) สระบุรี (อำเภอแก่งคอย) นครนายก (อำเภอเมืองนครนายกปากพลี และอำเภอบ้านนา) ปราจีนบุรี (อำเภอเมืองปราจีนบุรี ประจันตคาม กบินทร์บุรี และอำเภอนาดี) สระแก้ว (อำเภอเมืองสระแก้ว) ฉะเชิงเทรา (อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา และอำเภอบ้านโพธิ์) ชลบุรี (อำเภอบางละมุง พนัสนิคม และอำเภอพานทอง) ระยอง (อำเภอบ้านค่าย) จันทบุรี (อำเภอเมืองจันทบุรี ขลุง ท่าใหม่ เขาคิชฌกูฏ นายายอาม และอำเภอแหลมสิงห์) ตราด (อำเภอเมืองตราด เขาสมิง คลองใหญ่ บ่อไร่ และอำเภอแหลมงอบ) และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (อำเภอบางสะพาน และอำเภอบางสะพานน้อย)
ภาคใต้ จำนวน 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร (อำเภอท่าแซะ สวี และอำเภอพะโต๊ะ) สุราษฎร์ธานี (อำเภอพุนพิน พระแสง และอำเภอเวียงสระ) นครศรีธรรมราช (อำเภอเชียรใหญ่ ลานสกา ถ้ำพรรณรา และอำเภอทุ่งใหญ่) พัทลุง (อำเภอปากพะยูน กงหรา และอำเภอควนขนุน) ระนอง (อำเภอเมืองระนอง กะเปอร์ กระบุรี และอำเภอละอุ่น) พังงา (อำเภอเมืองพังงา คุระบุรี ตะกั่วป่ากะปง และอำเภอท้ายเหมือง) ภูเก็ต (ทุกอำเภอ) ตรัง (อำเภอสิเกา กันตัง ห้วยยอด รัษฎา และอำเภอวังวิเศษ) และสตูล (อำเภอควนโดน ทุ่งหว้า และอำเภอมะนัง)
พื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง
ภาคใต้ จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดระนอง (อำเภอเมืองระนอง สุขสำราญ และอำเภอกะเปอร์) พังงา (อำเภอเกาะยาว ตะกั่วทุ่ง ท้ายเหมือง ตะกั่วป่า และอำเภอคุระบุรี) ภูเก็ต (ทุกอำเภอ) และจังหวัดกระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ คลองท่อม เกาะลันตา เหนือคลอง และอำเภออ่าวลึก)
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้ โดยได้กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด
นอกจากนี้ ขอให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤติ (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด
ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews
ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป.
You might be intertested in this news.
Mostview
รีวิวหนัง “one battle after another” หนังสนุกมาก (ก.ล้านตัว)
“One Battle After Another” หนึ่งศึก ครั้งแล้ว ครั้งเล่า เป็นหนังอีกเรื่องที่เห็นชื่อนักแสดง อย่าง ฌอน เพนน์, เดล โตโร และ ดิคาปิโอ ที่มารวมตัวกัน ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก ก็ต้องตีตั๋วเข้าดูแล้ว
เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา (ชมคลิป)
เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา (PART1)
แม้ไม่มีไทย เขมรก็อยู่ได้ สนามบินเตโชช่วยได้จริงหรือ? (ชมคลิป)
แม้ไม่มีไทย เขมรก็อยู่ได้ สนามบินเตโชช่วยได้จริงหรือ? PART2 (ชมคลิป)
24 กันยายน หลุมยุบยักษ์ใน กทม. กับ 35 ปี แก๊สระเบิด ถนนเพชรบุรี
24 กันยายน 2568 เกิดเหตุหลุมยุบ กลางเมือง ในกทม. และไม่น่าเชื่อในวันเดียวกันเมื่อ 35 ปี ก่อน กับเหตุการณ์ รถแก๊สคว่ำ และเกิดระเบิด ที่ถนนเพชรบุรี ...
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(23ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากำไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(23ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากำไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
