6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (6พ.ย.2568)

1. ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับขึ้นรับผลประกอบการและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง

หุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นหลังผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนและข้อมูลการจ้างงานออกมาดีกว่าคาด โดย S&P 500 โต 0.37%, Nasdaq เพิ่ม 0.65%

ขณะที่หุ้นกลุ่ม Semiconductor (SOX) ดีดกลับ 3% และหุ้น AMD ปิดบวก 2.5% จากการปรับประมาณการณ์รายได้เพิ่ม ส่วน Amgen รายงานกำไรสูงกว่าคาด หุ้นบวก 7.8% ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี พุ่งแตะ 4.159% หลังข้อมูลเศรษฐกิจแข็งแกร่ง

ด้าน Bitcoin ฟื้นตัว 3% หลังร่วงแรงวันก่อน น้ำมันดิบปรับลงจากความกังวลอุปทานล้นเกิน แม้ดีมานด์สหรัฐฯ แข็งแกร่ง นักลงทุนจับตาคดีศาลสูงเรื่องการขึ้นภาษีของทรัมป์

2. Service PMI สหรัฐฯ เดือน ต.ค. เร่งตัวขึ้น ด้าน ADP เปิดเผยการจ้างงานสูงกว่าคาด

ดัชนี ISM Services PMI ของสหรัฐฯ เดือนตุลาคม 2025 ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 52.4 จาก 50.0 ในเดือนกันยายน สะท้อนการฟื้นตัวของกิจกรรมภาคบริการและออเดอร์ใหม่เพิ่มขึ้นจากอุปสงค์ที่ยังคงแข็งแกร่ง โดยรายงานระบุว่าราคาสินค้าและบริการยังขยายตัวแต่ในระดับที่ชะลอลงตามแนวโน้มเงินเฟ้อที่ผ่อนคลาย

ด้าน ADP รายงานว่าภาคเอกชนของสหรัฐฯ เพิ่มการจ้างงานขึ้น 42,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม 2025 ดีดตัวจากเดือนที่แล้วซึ่งมีการจ้างงานลดลงและสูงกว่าที่คาด 32,000 ตำแหน่ง สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวในบางกลุ่มธุรกิจ แต่โดยรวมยังถือว่าตลาดแรงงานมีความอ่อนแอ

3. ศาลฎีกาสหรัฐฯ ตั้งข้อสงสัยความถูกต้องในการขึ้นภาษีของทรัมป์

ศาลฎีกาสหรัฐฯ เปิดพิจารณาคดีเกี่ยวกับการขึ้นภาษีนำเข้าของทรัมป์ โดยมีรัฐมนตรีคลังและ รัฐมนตรีพาณิชย์เข้าร่วมรับฟัง ขณะที่รัฐบาลอยู่ในช่วง government shutdown ศาลฯ ตั้งข้อสงสัยต่อความถูกต้องตามกฎหมายของการขึ้นภาษีนำเข้า ภายใต้กฎหมายปี 1977 ซึ่งจะต้องถูกนำมาใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินของประเทศ (national emergency) เท่านั้น

โดยธุรกิจและ 12 รัฐที่ได้รับผลกระทบได้ยื่นฟ้องและชนะในศาลชั้นต้น ผู้พิพากษาหลายรายชี้ว่าการเก็บภาษีนำเข้าในครั้งนี้เป็นการเก็บภาษีจากประชาชนอเมริกัน ซึ่งเป็นอำนาจของ รัฐสภา (Congress) ไม่ใช่ฝ่ายบริหาร หากศาลตัดสินให้การขึ้นภาษีนำเข้าของทรัมป์ผิดกฎหมาย อาจต้องคืนเงินที่เก็บไปแล้วให้กับธุรกิจและผู้บริโภค

4. เศรษฐกิจยุโรปส่งสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง Composite PMI สูงสุดในรอบ 2 ปี

เศรษฐกิจยูโรโซนในเดือนตุลาคม 2025 ขยายตัวเร็วที่สุดในรอบกว่า 2 ปีตามผลการสำรวจของ HCOB Eurozone Composite PMI ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 52.5 จาก 51.2 ในเดือนกันยายน สะท้อนแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน

โดยการขยายตัวเกิดจากภาคบริการที่มีความแข็งแกร่งชัดเจน ขณะที่คำสั่งซื้อใหม่ในภาคบริการแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง นอกจากนี้การจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในธุรกิจบริการ ส่วนด้านต้นทุนเงินเฟ้อเริ่มผ่อนคลาย ส่วนธนาคารกลางยุโรปคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2% สะท้อนเสถียรภาพเงินเฟ้อและเศรษฐกิจโดยรวม

5. จีนสั่งให้ใช้ AI chip ภายในประเทศสำหรับ data centre ที่ได้รับเงินทุนรัฐ

รัฐบาลจีนออกคำแนะนำให้ data centre โครงการใหม่ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล (state funding) ใช้เฉพาะ AI chip ที่ผลิตในประเทศเท่านั้น ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิต chip สหรัฐฯ อย่าง Nvidia, AMD และ Intel การสั่งแบนนี้ครอบคลุมทั้ง chip รุ่น H20, B200 และ H200 แม้บางรุ่นจะยังมีใน grey market จีนพยายามผลักดันผู้ผลิตชิปในประเทศ เช่น Huawei, Cambricon, MetaX, Moore Threads และ Enflame เพื่อพึ่งพาตนเองด้านชิป AI (AI chip self-sufficiency)

ขณะที่มาตรการนี้อาจเพิ่มช่องว่างด้านการประมวลผล AI (AI computing power) ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่ยังลงทุนหนักใน data centre ด้วยชิปขั้นสูง

6. เงินเฟ้อไทย หดตัว -0.76% YoY ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 แต่เงินเฟ้อพื้นฐานยังคงเป็นบวก

เงินเฟ้อไทยเดือนตุลาคม 2568 หดตัว -0.76% YoY ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ สะท้อนแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำ สาเหตุหลักมาจากราคาสินค้ากลุ่มพลังงานและอาหารสดลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐ เช่น ราคาน้ำมันและค่าไฟฟ้าที่ลดลง

ประเมินว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะยังติดลบต่อเนื่องไปถึงพฤศจิกายน ผลพวงจากราคาน้ำมันและอาหารที่ปรับลดลงต่อ รวมถึงนโยบายลดภาระค่าครองชีพ ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานยังเป็นบวกชี้ว่าเศรษฐกิจยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด โดยต้องจับตาการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี เช่น โครงการ “คนละครึ่งพลัส

ประเด็นที่ต้องติดตาม :

การประชุม BoE คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.00%

อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์