วันศุกร์, ธันวาคม 19, 2568

อว.-สกสว. ชูใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ววน.รับมือแผ่นดินไหว-ภัยพิบัติแบบทันท่วงที

by Trust News, 1 เมษายน 2568

อว.พร้อมระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วน บูรณาการเครื่องมือ ววน. ทุกแขนง เพื่อตอบสนองสถานการณ์ทันท่วงที พร้อมให้ กองทุน ววน.โดย สกสว.หนุนงบประมาณการวิจัยสร้างนวัตกรรมและพัฒนาเทคโนโลยีรับมือภัยพิบัติ

นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. กล่าวว่า จากสถานการณ์แผ่นดินไหวขนาด 8.2 ในประเทศเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 กระทรวง อว. ได้เร่งระดมสรรพกำลัง ทั้งนักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยงานในสังกัด เพื่อนำผลงานวิจัย นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) ผ่าน สกสว. ได้รับผิดชอบการจัดทำแผนวิจัยที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาประเทศ และแก้ไขปัญหาที่ท้าทายของไทย และได้จัดสรรงบประมาณสนับสนุนการวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีและองค์ความรู้เพื่อรับมือภัยพิบัติแผ่นดินไหว

กระทรวง อว. ได้ส่งทีมหุ่นยนต์ iRAP Robot (ไอ-แล็ปโรบอท) ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) และหุ่นยนต์ตรวจการณ์เก็บกู้วัตถุระเบิดขนาดเล็ก D-EMPIR V.4 (ดี-เอ็มไพร์ เวอร์ชันโฟร์) ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย บริเวณอาคารที่ทำงานสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินที่ถล่ม พร้อมจัดตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือด้านการตรวจสอบอาคารและการแพทย์ (ศปก.อว.) มีการใช้ Traffy Fondue ให้ประชาชนแจ้งเหตุ เพื่อส่งทีมเข้าประเมินความเสี่ยงจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ขณะที่ GISTDA ได้ใช้ภาพถ่ายดาวเทียม THEOS-2 ประเมินความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเปรียบเทียบก่อนหลัง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา กองทุน ววน. ได้มีการจัดสรรงบฯ เพื่อดำเนินการในแผนงานสำคัญด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านภัยพิบัติทางธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการบริหารจัดการภัยทางธรรมชาติแบบบูรณาการ อาทิ

1) “InSpectra-01” เทคโนโลยีที่นำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการตรวจจับและวัดขนาดรอยร้าวในโครงสร้างอย่างแม่นยำและรวดเร็ว ช่วยลดต้นทุนในการตรวจสอบและเพิ่มประสิทธิภาพในการประเมินความเสียหายของโครงสร้าง ด้วยระบบ Agentic.AI โดย รศ.ดร.พรหมพัฒน ธัญสิริชัยศรีศูนย์วิจัยตรวจสอบโครงสร้างและเฝ้าระวัง ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

2) “เครื่องวัดแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวราคาประหยัด
” เซนเซอร์ตรวจวัดอาคารเป็นอุปกรณ์ที่วัดค่าความเร่ง สามารถวัดค่าความสั่นสะเทือนและแจ้งเตือนผ่านเซนเซอร์นี้ โดยลดต้นทุนการนำเข้าจากหลักแสน เหลือเพียงหลักหมื่นบาท ทำให้ “ผู้ใช้” ซึ่งเป็นวิศวกรดูแลอาคาร และผู้บริหารโรงพยาบาลตัดสินใจความปลอดภัยของอาคารได้หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดย รศ.ดร.ธีรพันธ์ อรธรรมรัตน์ ภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ กรมอุตุนิยมวิทยา



3) “หุ่นตรวจการและเก็บกู้วัตถุระเบิด รุ่น D-EMPIR V.4” ถูกออกแบบสำหรับการปฏิบัติงานเก็บกู้วัตถุระเบิด และสามารถซ่อมบำรุงได้ง่ายเมื่อเกิดความเสียหาย โดยในช่วงสถานการณ์วิกฤตหุ่นยนต์ D-EMPIR V.4 ได้ถูกนำมาลงพื้นที่เพื่อเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ ณ ถ.กำแพงเพชร เขตจตุจักร กทม. ที่มีผู้บาดเจ็บและสูญหายเป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยหุ่นยนต์มีขนาดเล็ก มีความคล่องตัวสูง มีการติดตั้งแขนกลพิเศษ สามารถเข้าพื้นที่แคบได้โดยใช้แขนกลหยิบจับสิ่งของและปีนป่ายทางต่างระดับได้อย่างคล่องตัว โดย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร และสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (DTI)



4) “แพลตฟอร์ม Traffy Fondue” ทราฟฟี ฟองดูว์ เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ถูกพัฒนาเพื่อรองรับการแจ้งเหตุและบริหารจัดการปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งประชาชนสามารถแจ้งปัญหาและร้องขอความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วผ่านช่องทางออนไลน์ ช่วยให้ข้อมูลถูกส่งตรงไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติ ลดระยะเวลาในการประสานงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม ได้มีการนำแพลตฟอร์ม Traffy Fondue เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการภัยพิบัติแผ่นดินไหวให้กับประชาชน โดยปัจจุบันมีการแจ้งข้อมูลกว่า 5,000 กรณี โดย ห้องปฏิบัติการระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะ (ITS) กลุ่มวิจัยการสื่อสารและเครือข่าย (CNWRG) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

น.ส.ศุภมาส กล่าวอีกว่า นอกจากหุ่นยนต์กู้ภัย จากมหาวิทยาลัย ที่เข้าไปช่วยในการสำรวจวางแผนกู้ภัยอาคารที่ถล่ม ตัวกองทุน ววน.ก็สำคัญมาก ทาง สกสว.เตรียมงบไว้สนับสนุนแผนงานแก้ปัญหาแผนรับมือภัยพิบัติ เพราะเห็นว่า เหตุการณ์แบบนี้ สร้างความเสียหายรุนแรง แล้วการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าได้ไม่นาน ทั้งน้ำท่วม แผ่นดินไหว เมื่อเกิดภัยพิบัติทุกคนก็มาขอ อว.ช่วยเหลือ เพราะเรามีนักวิชาการ มีเทคโนโลยี จากมหาวิทยาลัยไปช่วย แม้แต่ล่ามภาษาพม่า ก็ได้อาจารย์ ม.สยามไปช่วยในการสื่อสาร ที่จำเป็นจริง คือ การตรวจสอบลอาคารเพื่อลดความวิตกกังวลแก่ประชาชน และเข้าไปฟื้นฟูช่วยผู้ประสบภัย หรือแม้แต่ที่พักพิงชั่วคราว โดยเราเปิดที่พักช่วยเหลือ รวมทั้งอาหารการกิน ดูแลผู้ประสบภัย

"กระทรวง อว. เราส่งทีมวิศวกรอาสาที่เป็นอาจารย์ด้านวิศวกรรมจากมหาวิทยาลัยหลักๆ ทั่วประเทศ ไปช่วยตรวจสอบอาคาร ที่ได้รับความเสียหาย ประชาชนสามารถขอความช่วยเหลือตรวจอาคารได้ เพียงแจ้งทางอินบ็อกซ์เฟซบุ๊กของ กระทรวง อว. จะมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องไว้ นอกจากนี้ยังแจ้งผ่าน ทราฟฟี ฟองดูว์ ที่ ขณะนี้ เปิดรับเรื่องขอความช่วยเหลือตรวจอาคารที่เสียหายในกรุงเทพและปริืมณฑล ไปแล้วหลายหมื่นเคส จนอัปเดตล่าสุดมีการเปิดโหมดแผ่นดินไหว และบริการการแพทย์ ทั้งนี้ ผลการดำเนินงาน ทีมได้ประเมินอาคารไปแล้วกว่า 7 พันเคส ผ่านทราฟฟี ฟองดูว์ของ สวทช." รมว.อว. กล่าว

ด้าน ศ.ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวถึงนโยบายการจัดสรรงบประมาณวิจัยเพื่อรองรับภัยพิบัติ โดยมีแผนงาน (P16) ที่มุ่งเน้นการพัฒนานโยบายและต้นแบบเพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยใช้วิทยาศาสตร์ การวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรม (ววน.) โดยแบ่งเป็นสองภาคส่วนหลัก คือ “ภาคการเกษตร” มุ่งเน้นการรับมือกับผลกระทบจาก Climate Change โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้วยระบบเตือนภัย การปรับปรุงพันธุ์และการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงภัยแล้ง การระบาดของแมลง และการกัดเซาะชายฝั่ง

ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวต่อว่า ขณะที่ “ภาคเมืองและอุตสาหกรรม” มุ่งเน้นการรับมือแผ่นดินไหว สึนามิ วาตภัย น้ำท่วม/น้ำแล้ง ภัยจากความร้อน ดินโคลนถล่ม โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อ Biodiversity ความมั่นคงทางน้ำและสุขภาพและสัตว์เศรษฐกิจ รวมถึงมีแผนงาน (P24) แก้ไขปัญหาและตอบสนองภาวะวิกฤติเร่งด่วนของประเทศ ทำให้ประเทศไทยมีความสามารถในการจัดการและฟื้นตัวอย่างมีประสิทธิภาพ (Resilience) มีศักยภาพในการพึ่งตนเองด้านความรู้ กำลังคนและโครงสร้างพื้นฐานด้าน ววน.

ศ.ดร.สมปอง กล่าวอีกว่า สกสว. มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ โดยเน้นการนำ ววน. มาใช้ในการรับมือภัยพิบัติ และสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน เพื่อลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้
1. จัดสรรงบประมาณวิจัย: ภายใต้แผนงานเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตระดับประเทศ เช่น แผ่นดินไหวและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
2. ร่วมกับ สอวช. ทบทวนและยกระดับแผนด้าน ววน. ของประเทศ: เพื่อให้ตอบโจทย์ปัญหาท้าทายทางสังคมและสิ่งแวดล้อม


3. นำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมไปสนับสนุนหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการสาธารณภัย: เพื่อให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพและทันต่อสถานการณ์
4. สนับสนุนภารกิจด้านการสร้างความตระหนักรู้ การป้องกัน และการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติในทุกระดับ: ทำให้ประชาชนมีความรู้และทักษะในการรับมือภัยพิบัติ
5. ขับเคลื่อนบทบาทของ อว. และ สกสว. ให้เป็นกลไกลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน: เน้นย้ำเป้าหมายหลักคือการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

"สกสว.พร้อมรับนโยบาย กระทรวง อว. ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ การรวมกลุ่มของวิศวกรรมร่วมใจ อววน. ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญและศูนย์กลางด้านความรู้ (Hub of Talents & Knowledge) ระบบที่เชื่อมต่อประชาชนกับภาครัฐเพื่อประเมินความเสี่ยงจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว (Al-Enable Traffy Fondue โดยกองทุน ววน.) และที่สำคัญคือการร่วมงานเครือข่ายกับต่างประเทศสร้างความรู้เชิงระบบเตือนภัยกับประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น โดยความร่วมมือนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าขาดการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยรับประมาณ" ผอ.สกสว.กล่าว.


You might be intertested in this news.

Mostview

ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น

ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ

6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)

6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)

TrustNEws Line