กรมชลประทาน อัปเดตสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท หลังน้ำเหนือมีแนวโน้มลดลง จึงลดการระบายน้ำเหลือ 2,800 ลบ.ม./วินาที พร้อมทั้งบริหารน้ำออก 2 ฝั่งระบบชลประทาน เพื่อลดผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา
กรมชลประทาน เผย สถานการณืฝนตกจากพายุคัลแมกี ในภาคเหนือตอนบนเริ่มลดลง ทำให้น้ำเหนือทยอยไหลงมาถึงแม่น้ำเจ้าพระยาต่อเนื่อง โดยมีการบริหารระบายออก 2 ฝั่งระบบชลประทานแล้วเร่งสูบเพื่อปล่อยออกสู่อ่าวไทย ตามจังหวะขึ้นลงของน้ำทะเล ลดความเดือดร้อนของประชาชน
รองนายกฯ ธรรมนัส มั่นใจ สถานการณ์น้ำคุมอยู่ เดินหน้าผันแม่น้ำเจ้าพระยา ออก 2 ฝั่งระบบชลประทานทั้งซ้ายและขวาเพื่อระบายลงอ่าวไทยเมื่อพ้นทะเลหนุน พร้อมสั่งจับตาน้ำเหนือ กับเตรียมรับมือฝนภาคใต้ พร้อมเร่งบรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องประชาชน
กรมชลประทาน รายงานว่า ฝนจากพิษพายุคัลแมกี ทำให้น้ำจากแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน ทะลักรวมที่ปากน้ำโพ ไหลจ่อหน้าเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มสูงต่อเนื่อง ต้องปรับการระบายเป็น 2,800 ลบ.ม./วิ แต่มีน้ำทะเลหนุนช่วงนี้ทำให้การระบายช้า กระทบพื้นที่นอกคันกั้นกว่าเดิม
10 จังหวัดภาคกลาง ต้องเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น สั่งเจ้าหน้าที่ ปภ.เฝ้าระวังพร้อมออกช่วยประชาชน ทั้งสองฝั่งแม่น้ำและพื้นที่ลุ่มตลอด 24 ชม. หลังเขื่อนเจ้าพระยาปรับการระบายเป็น 2,700 ลบ.ม./วินาที
ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน เผยจับตาฝนหนักจาก "พายุคัลแมกี" สั่งการพร่องน้ำในอ่างฯ รับมือน้ำหลาก หลัง 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยาความจุอยู่ที่ 98% ล่าสุดเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มอัตราการระบายเป็น 2,700 ลบ.ม./วินาทีแล้ว
กรมชลประทาน รายงานพบปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักและแม่น้ำสาขามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และมีแนวโน้มพื้นที่ตอนเหนือจะมีฝนตกหนัก จึงเพิ่มการระบายของเขื่อนเจ้าพระยาเป็น 2,400 ลบ.ม./วินาที และจะหน่วงน้ำเหนือเข้าระบบชลประทาน 2 ฝั่ง เพื่อลดผลกระทบให้มากที่สุด