สถานการณ์น้ำ 14 พ.ย.68 ภาคเหนือ กลาง และ กทม.ยังมีฝนหนักบางพื้นที่ช่วง 16-19 พ.ย. ขณะที่ 4 เขื่อนใหญ่ลุ่มเจ้าพระยาก็ลดการระบายน้ำต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เขื่อนเจ้าพระยาต้องระบายน้ำเพิ่ม ขณะเดียวกัน เตือนระวังฝนตกหนักภาคใต้เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน เผยจับตาฝนหนักจาก "พายุคัลแมกี" สั่งการพร่องน้ำในอ่างฯ รับมือน้ำหลาก หลัง 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยาความจุอยู่ที่ 98% ล่าสุดเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มอัตราการระบายเป็น 2,700 ลบ.ม./วินาทีแล้ว
กรมชลประทาน รายงานพบปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักและแม่น้ำสาขามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และมีแนวโน้มพื้นที่ตอนเหนือจะมีฝนตกหนัก จึงเพิ่มการระบายของเขื่อนเจ้าพระยาเป็น 2,400 ลบ.ม./วินาที และจะหน่วงน้ำเหนือเข้าระบบชลประทาน 2 ฝั่ง เพื่อลดผลกระทบให้มากที่สุด
ปภ. เดินหน้าระดมกำลังเร่งระบายน้ำช่วยพื้นที่ประสบภัยลุ่มเจ้าพระยาทั้งพระนครศรีอยุธยา และ ปทุมธานี กำชับพื้นที่เสี่ยงติดตาม - เตรียมรับมือฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุ “แมตโม”
กรมชลฯ มุ่งบริหารจัดการน้ำสอดคล้องกับสถานการณ์ ควบคู่กักเก็บกักพร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยล่าสุด อ่างเก็บน้ำขนาดกลางและใหญ่ทั่วประเทศมีปริมาณความจุรวม 56% โดย 4 เขื่อนลุ่มเจ้าพระยามีน้ำกักเก็บรวม 53%
กรมชลประทาน กำชับโครงการชลประทานทั่วประเทศ ให้บริหารจัดการน้ำฤดูแล้งปี 2568 ตามแผนอย่างเคร่งครัด เน้นน้ำอุปโภคบริโภคต้องเพียงพอตลอดปี เฉพาะพื้นที่ลุถ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก มีปริมาณน้ำรวม 59%
ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน เผยข้อมูลน้ำกักเก็บในเขื่อนขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศมีรวม 69% ของความจุหรือกว่า 52 ล้าน ลบ.ม.สามารถบริหารเพื่อจัดสรรน้ำกินน้ำใช้ได้เพียงพอตลอดฤดูแล้งปี 2568 นี้