วันพุธ, กรกฎาคม 23, 2568

ข้อความและการจากลา รำลึก “โจ้ วงพอส” ศิลปินผู้เปราะบาง

by Trust News, 23 กรกฎาคม 2568

ย้อนรอย รำลึก การจากลาของ "โจ้" อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ นักร้องนำวงพอส คดีความการเสียชีวิต และข้อความต่างๆ จากญาติ คนรัก และครอบครัว และรายละเอียดเชิงลึกของคดี ...

ผมเป็นคนยุค 90 ซึ่งแน่นอนว่า “ยุคนี้” เหมือนยุคเปลี่ยนผ่านอะไรหลายๆ อย่าง ทั้ง เริ่มต้นจาก การสื่อสารที่ยังไม่ค่อยดี ใช้เพจ เลี้ยงทามาก๊อท ได้เรียนรู้และจับต้องอุปกรณ์ที่เป็นวิวัฒนาการแห่งยุคนี้ จนมาถึง “สมาร์ทโฟน” ที่สร้างความสะดวกสบายอย่างทุกวันนี้

แน่นอน ว่าด้วย ที่เป็นคนยุค 90 สื่อบันเทิง ที่เราได้ผ่าน และเป็นเพื่อนที่ดียามเหงาก็คือ การฟังเพลง และ หนึ่งในเพลง ที่เรายังได้ยินจนทุกวันนี้ ก็คือ เพลงของ “พี่โจ้” วงพอส

เพลงที่ผมฟังประจำ และยังฟังอยู่ คือ ที่ว่าง และ ข้อความ โดยเฉพาะ เพลง “ข้อความ” ผมเปิดดู MV ของพี่โจ้ แล้วรู้สึกมีความสุขทุกครั้ง

ซึ่ง มันทำให้ผมคิดถึงเค้า...

ตอนที่พี่โจ้ จากไป ตอนนั้น ผมยังไม่ได้ทำข่าว ยังเป็นเพียงนักศึกษาวารสาร แต่ก็ติดตามข่าว ก็รับรู้ว่า มันมีปริศนาหลายอย่างที่เกิดขึ้น เท่าที่จำความได้ คือ ตอนนั้นญาติก็ค้างคาใจ ถึงสาเหตุการเสียชีวิต แต่ในที่สุด ตำรวจ ก็สรุปคดีนี้ ว่า เป็นการ ฆ่าตัวตาย

ดังนั้น เพื่อย้อนเหตุการณ์การเสียชีวิต ผมได้ค้นข้อมูลข่าว และอยากจะเอามาเล่าให้ฟังกันครับ ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร แม้จะมีบทสรุปของคดีนี้แล้วก็ตาม

เหตุการณ์วันนั้น เกิดขึ้นในเวลา 04.00 น. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2545 ตำรวจ สน.พระโขนง รับแจ้งพบศพคนถูกยิงในลิฟต์ แมนชันแห่งหนึ่ง ในซอยสุขุมวิท 50 แขวงพระโขนง คลองเตย กรุงเทพมหานคร

ตำรวจจึงรายงานผู้เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่ก็ลงพื้นที่ตรวจสอบ

ภายในลิฟต์ ชั้น 1 เจ้าหน้าที่พบศพ นายอัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ หรือ โจ้ วงพอส ตอนนั้น พี่โจ้ อายุ 31 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน อยู่ที่ ต.อุทัยใหม่ อ.เมืองอุทัยธานี

สภาพศพนั้งเหยียดขา อยู่ที่มุมขวาของลิฟต์ สวมเสื้อสีขาว คอวี กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ผมสั้นคล้ายเพิ่งสึกออกมา มีบาดแผล จากการถูกยิงด้วยปืน ขนาด 9 มม. บริเวณขมับขวาทะลุซ้าย 1 นัด ตรงปลายเท้าซ้าย มีปืนขนาด 9 มม. ที่มีชื่อผู้ตาย เป็นเจ้าของขึ้นทะเบียนเป็นผู้ครอบครองตกอยู่

นอกจากนี้ ยังพบปลอกกระสุน ขนาดเดียวกันตกอยู่ 1 ปลอก พวงกุญแจห้อง ซึ่งเป็นของผู้ตายตกอยู่อีก 1 พวง

รปภ.แมนชันที่เกิดเหตุ เล่าว่า พี่โจ้ อาศัยที่ห้องพัก 1714 ชั้น 7 ตอนประมาณ ตี 3.15 น. เห็นผู้ตายเดินเข้ามากับเพื่อนผู้ชาย ตอนนั้น ใส่กางเกงขายาวลูกฟูกสีเหลือง เสื้อยืดคอวี ส่วนเพื่อนที่มา ไม่ทราบชื่อ สวมเชิ๊ตสีขาว กางเกงยีนน้ำเงิน ผิวดำแดง ผมสั้น

คาดว่าไปห้องผู้ตาย จากนั้น 20 นาที เพื่อนของโจ้ก็ลงลิฟท์มาคนเดียว จากนั้นก็ขับรถออกไป

ช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน โจ้ ก็ลงลิฟท์ตามมา แต่ไม่เจอเพื่อน จากนั้นก็กลับขึ้นไป

จากนั้น ไม่นาน ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งจากแมนชัน เดินลงมาบอกว่า ลิฟต์ค้างอยู่ที่ชั้น 7 จากนั้น จึงพยายามกดเรียก กระทั่งลิฟต์ลงมา เมื่อลิฟต์เปิดประตู ก็เจอภาพ การเสียชีวิตของ โจ้...

จากการตรวจสอบหลักฐาน ภายในห้อง โจ้ พบ ปืนขนาด .38 อีก 1 กระบอก กระสุน 9 มม. อีก 1 กล่อง และเครื่องดนตรี คือ คีย์บอร์ด กีตาร์ไฟฟ้า และ โน้ตเพลง ชื่อเพลง “เพียงหนึ่งคำ” โดยระบุว่า มอบให้กับผู้หญิงที่ชื่อ “ป้อม”

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบทุกอย่างภายในห้อง ไม่พบสัญลักษณ์ หรือ สัญญาณบอกเหตุแต่อย่างใด

ด้าน วิยะดา โกมารกุล นักร้องชื่อดัง และเจ้าของร้านอาหารที่ “โจ้” ไปร้องเพลงเป็นประจำ บอกว่า ระยะหลังรู้สึกว่าโจ้ มีอาการเครียด เคยใช้ปืนยิงมือซ้ายของตัวเองจนทะลุ

จากนั้น เค้าก็ไปบวช และเพิ่งสึกออกมา เมื่อตอนปีใหม่ ซึ่งเวลาผ่านมาจนถึงวันเกิดเหตุก็เกือบ 2 เดือน และทราบว่า โจ้ มักใช้ยากล่อมปราสาทเป็นประจำ

เรื่องที่เกิดขึ้น น่าจะมาจากความเครียด...

พล.ต.ต.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วย ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในขณะนั้น เผยว่า ในชั้นนี้ ตำรวจเองยังไม่ปักเชื่อ เรื่องการ ฆ่าตัวตาย ต้องตรวจสอบให้แน่ชัด อย่างเช่น เขม่าดินปืนในมือผู้ตาย

นอกจากนี้ ยังมีพยานพบว่า มีผู้หญิงชื่อ “โจ้” ชื่อเดียวกับพี่โจ้ มาหาบ่อยครั้ง อาจจะมีเรื่องชู้สาว มาเกี่ยว… และต้องตามหา เพื่อนผู้ตาย ที่มาหาเป็นคนสุดท้าย…

น้องสาวของ “โจ้” ที่อายุห่างกัน 2 ปี กล่าวว่า หลังจากนี้จะรับศพไปทำพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด จ.อุทัยธานี

“พี่โจ้เป็นคนเงียบๆ รักสันโดษ เพิ่งย้ายมาอยู่แมนชั้นนี้เพียง 1 ปี สำหรับครอบครัวเรา เพิ่งเสียน้องชายไปเมื่อ 2 ปีก่อน มาครั้งนี้ต้องสูญเสียพี่สุดที่รักไปอีก รู้สึกเสียใจจริงๆ”

ขณะที่ แฟนสาวของโจ้ ที่คบหากัน 1 ปี บอกว่า เมื่อคืนยังโทรหากันตอนตี 3 บอกว่า “พี่เป้” (คือเพื่อนที่อยู่ด้วยกันเป็นคนสุดท้าย) จะมานอนด้วย

และยังบอกว่า 11 โมงเช้าให้โทรปลุก กลัวจะตื่นสายเพราะต้องไปธุระ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของโจ้ ไม่ทราบจริงๆ และไม่อยากพูดอะไรมาก

ขณะที่ “ตุ๊ก วิยะดา” ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า สนิทกับโจ้มานานแล้ว เพราะโจ้เป็นนักร้องประจำร้าน ยังร่วมทุนเปิดร้านด้วยกัน

ส่วนสาเหตุการจบชีวิตนั้น ไม่ทราบจริงๆ แต่ที่ผ่านมา โจ้ชอบบ่นให้ฟังว่า กลัวผลงานจะออกมาไม่มีคุณภาพ

ทำให้เพื่อนๆ ในวงไม่อยากให้เค้าอยู่คนเดียว กลัวจะเกิดการทำร้ายตัวเอง และเมื่อปีที่แล้วเคยทำปืนลั่นใส่มือตัวเอง... เป้เป็นคนพาส่งโรงพยาบาล

โจ้เป็นคนดีมาก ไม่เคยคิดทำร้ายใคร ขนาดเงินเดือนที่ได้รับ ยังเคยบอกว่าให้มากไปหรือเปล่า เพราะเป็นคนเกรงใจคน

ส่วนเรื่องการพนัน ขอยืนยันได้เลยว่าโจ้ไม่ชอบ อย่างฟุตบอล ยังไม่ค่อยดูเลย เรื่องที่เกิดขึ้น อาจจะมาจากไม่พอใจตัวเอง หรือน้อยใจตัวเอง เป็นกังวลมากถึงขนาดไปบวชเพื่อค้นหาตัวเองและทดแทนคุณให้กับพ่อแม่

เท่าที่ทราบ โจ้ กำลังจะเซ็นสัญญากับ “แกรมมี่” ด้วย…

เชื่อหรือไม่เหตุผลเพียงเท่านี้ หนักแน่นพอ ทำให้โจ้คิดทำอะไรแบบนั้น ตุ๊ก วิยะดา ตอบว่า หนักแน่นเพียงพอสำหรับโจ้

เพราะแบบนี้ จึงไม่อยากให้โจ้อยู่คนเดียว

เป้ เคยเล่าให้ฟังว่า โจ้ ชอบเล่นปืน และทำท่าหวาดเสียว...

พล.ต.ต.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในขณะนั้น เผยว่า คดีนี้ ตั้งปมไว้ 2 ประเด็น

คือ การฆาตกรรม กับ การทำร้ายตัวเอง

ประเด็นการฆาตกรรม นั้น แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ชิงทรัพย์ กับจ้างวาน

การชิงทรัพย์ ตอนนั้น โจ้ ไม่มีทรัพย์สินมีค่า จึงไม่มีสิ่งล่อตาล่อใจ

ขณะที่เงินสดในห้องพัก ก็พบเพียง 2 หมื่นบาท และยังอยู่ครบ

นอกจากนั้น คนร้ายคงไม่มาลงมือที่ชั้น 7 เพราะการหลบหนีทำได้ยากลำบาก ประเด็นนี้จึงมีน้ำหนักน้อย

ขณะที่ ประเด็นการจ้างวาน ที่เกิดเหตุพบอาวุธตกที่บริเวณปลายเท้า ถ้ามีคนร้าย ก็น่าจะมีใช้ปืนของตัวเอง และคงไม่ทิ้งปืนไว้ที่เกิดเหตุ

ดังนั้น น้ำหนักของคดีนี้ จึงให้น้ำหนักไปเรื่อง การทำร้ายตัวเอง...

ส่วนสาเหตุจะมาจากเรื่องอะไร กำลังมีการสอบสวนคนใกล้ชิดอยู่ ว่ามีปัญหาที่พูดกับใครไม่ได้หรือไม่..

ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน โจ้ ได้ไปสภากาชาด เพื่อขอเปลี่ยนแปลงที่อยู่ เป็นที่อยู่ปัจจุบัน หลังได้ทำหนังสือบริจาคร่างกาย เอาไว้

ซึ่งเรื่องนี้ เป็นเพียงข้อสังเกต ยังไม่ได้สรุปคดี

นักข่าวถามถึงการพนัน และ ยาเสพติด พล.ต.ต.จงรัก ตอบทันทีว่าไม่มีเรื่องนี้ แต่โจ้ มีการกินยานอนหลับ และเป็นคนค่อนข้างเครียด และไม่เล่าให้ใครฟัง

เมื่อปีที่แล้ว เค้าเคยรักผู้หญิงคนหนึ่ง และผู้หญิงไปมีแฟนใหม่ โจ้ ใช้อาวุธในที่เกิดเหตุ ลั่นไก ใส่มือ โดยมีการใช้หมอนอุด เพื่อลดเสียงมาแล้ว จากนั้นได้โทรหาเป้ เพื่อนสนิท และช่วยนำส่งโรงพยาบาล

เย็น วันเดียวกัน ผลชันสูตรเบื้องต้น พบว่า มีร่องรอยกระสุน ที่ขมับขวา ทะลุซ้าย ส่วนตามตัวไม่มีบาดแผลอื่น

ส่วนร่างกายมีสารอื่นๆ หรือไม่ ต้องรอการตรวจผลเลือดและปัสสะวะ อีก 1 สัปดาห์

ขณะที่ความตั้งใจเรื่องการบริจาคร่างกาย นั้น อาจทำได้ยาก เพราะ เป็นการตายผิดธรรมชาติ จึงนำไปศึกษาเรียนรู้ได้น้อย..

ด้าน “เป้” มือคีย์บอร์ด ร้านของ “วิยะดา” เผยว่า รู้จักกับโจ้มานับ 10 ปี แต่ไม่ได้ร่วมวงพอส

โจ้เป็นคนดีที่มีจิตใจอ่อนไหว แต่ไม่ค่อยมั่นใจตัวเอง มักบ่นเรื่องการร้องเพลงอยู่เสมอ ชอบถามคนใกล้ชิดว่าร้องดีหรือยัง กลัวว่าผลงานของตัวเองจะไม่ดี

โจ้เป็นคนคิดมาก เซื่องซึม และขอยืนยันว่าโจ้ไม่เล่นการพนัน หรือ ยาเสพติด

ช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ

เมื่อคืนหลังจากร้านเลิก ได้ดื่มกันนิดหน่อย จากนั้น ได้ขับรถมาส่ง เนื่องจากบ้านอยู่ทางเดียวกัน และ โจ้ก็ขับรถไม่เป็น

เมื่อถึงผมกับโจ้ขึ้นไปบนห้อง หลังจากโจ้ทำธุระส่วนตัวแล้ว ออกมานั่งกินน้ำเปล่า 1 แก้ว ส่วนผมดื่มไป 1แก้ว และแคบหมู น้ำพริกหนุ่ม

ตอนแรกผมตั้งใจจะค้างที่ห้องโจ้ แต่เปลี่ยนใจ กลับบ้าน โดยลงลิฟต์มาคนเดียว มาทราบภายหลังว่า โจ้ตามลงมา แต่ไม่ทัน จากนั้นก็ทราบข่าวการเสียชีวิต

ระหว่างทางได้พูดคุยอะไรกัน มีสัญญาณอะไรหรือไม่ เป้ เพื่อนสนิท บอกว่าโจ้ มีลักษณะเซื่องซึม ไม่มีสัญญาณบ่งบอกว่าจะเกิดเหตุร้าย

ส่วนปืน โจ้ก็ซื้อไว้นานแล้ว แต่ทราบว่า ช่วงที่บวช โจ้นำปืนไปฝากไว้กับพ่อที่ จ.อุทัยธานี หลังจากนั้นก็ไม่ทราบ…

คดีนี้ ทางตำรวจได้ลงพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง และได้ทำการ “จำลองเหตุการณ์” ด้วย

ด้าน พี่เอ เพื่อนร่วมวงพอส บอกว่า ทราบเรื่องตอนตี 4 จากนั้นก็ไม่ได้นอนเลย คุยกันครั้งล่าสุด ประมาณ 2 ชั่วโมง โจ้ มีความรู้สึกว่าอยากหยุดร้องเพลงที่ร้าน และมุ่งหน้าทำเพลง

นักข่าวถามความเป็นไปได้ในการกระทำสลด เอ เพื่อนร่วมวงพอส ยอมรับว่าเป็นไปได้ และอาจจะคิดว่าเป็นอารมณ์ชั่ววูบ แต่เราก็พูดอะไรไม่ได้

“ผมได้คุยกับเป้ เป้เองก็ยังช็อก ส่วนตัวโจ้ ไม่ได้มีศัตรูที่ไหนกับใคร และไม่ได้มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย หรือ ยาเสพติด หรือแม้แต่เรื่องการพนันก็ตาม”

ส่วนเรื่องแฟน ก็ไม่น่าเกี่ยว เพราะแฟนเขาบอกว่าโจ้โทรหา เมื่อคืนให้ปลุกตอนเช้า..

ผู้ตายเป็นคนดื่มไหม พี่เอ บอกว่า เมื่อก่อนดื่ม แต่เดี๋ยวนี้ดื่มนิดเดียวก็เมาแล้ว ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะดื่มก่อนเกิดเหตุทำให้มีอารมณ์ชั่ววูบ

นอกจากนี้ บิลลี่ โอแกน นักร้องรุ่นพี่ ที่สนิทกับโจ้ ก็บอกว่า โจ้เป็นคนเงียบขรึม อ่อนไหว เราก็ไม่รู้ว่าเขามีปัญหาอะไร เขาเป็นคนไม่ค่อยพูด

“เสียดายการจากไปของเค้า เพราะเค้าคือนักร้องที่ร้องเพลงเพราะ เสียดายวงดนตรีที่ต้องสูญเสียนักร้องที่ีมีความสามารถคนนี้ไป”บิลลี่ กล่าว


ด้านการสืบสวนของตำรวจ ก็ได้มีการตรวจสอบที่ัเกิดเหตุอย่างละเอียด พิสูจน์รอยเลือดที่กระเซ็น แต่ก็เชื่อว่า แต่สุดท้ายก็ยังคงเชื่อว่า ตอนเกิดเหตุ ไม่มีคนอื่น

ด้าน พ.ต.ท.ประสาท ไชยศิริ รองผู้กำกับ สน.พระโขนง เปิดเผยความคืบหน้าต่อมาว่า 80% ยังเป็นไปในทิศทางเดิม เพราะจากการตรวจสอบต่างๆ รวมถึงหลักฐาน คราบเขม่าดินปืน รอยเลือดที่สาดกระเซ็น ท่าทางการเสียชีวิต ก็เชื่อว่า จะเป็นการทำร้ายตัวเอง

ขณะหลักฐานในห้องโจ้ พบกระดาษ ที่เขียนไว้บนจานอาหาร ที่ไม่ใช่จดหมายลา แต่เป็นเหมือนสัญญาที่ให้กับแฟนคนปัจจุบันว่า จะไม่นอนตื่นสาย โดยเขียนว่า

“ผมจะตื่นก่อน 10 โมงเช้าทุกวัน นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ถ้าผมแพ้พนันคุณ หรือผิดสัญญา ขอให้ไม่สบาย รักษาไม่หาย ตายโดยเร็ววัน ปล.ผมตื่นแล้วจะไม่นอนต่อ ยกเว้นผมได้รับอนุญาตจากคุณ ผู้ร่างสัญญา”

ส่วนเรื่องเขม่าดินปืน จากกาารตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ก็พบแต่ในมือ ที่หัวบริเวณบาดแผล ของโจ้ ดังนั้น คดีนี้ จึงสรุปได้แล้ว คือเป็นอย่างที่ตำรวจตั้งปมไว้แต่ต้น... คือ ฆ่าตัวตาย 


ขณะเดียวกัน แม่ของโจ้ กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าโจ้จะทำแบบนั้น เพราะก่อนหน้านี้ วันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา เพิ่งไปหา เขายังดีใจ ตื่นเต้น และบอกกับแม่ว่าเขาจะไม่ทำการ ทำร้ายตัวเอง แน่นอน

เขารู้ว่า แม่เสียใจมามากแล้ว เพราะแม่ต้องเสียน้องชายไป โจ้รักน้องชายมาก และยังแต่งเพลงให้น้อง 1 เพลง คือ “รักเธอทั้งหมดของหัวใจ” โดยมี บอย โกสิยพงษ์ ช่วยเสริมเนื้อเพลง

“แม่ยังเตือนเค้าว่า ถ้ามีใครเรียกให้ระวังตัว เค้าเคยพูดว่า อายุมากขึ้น เสียงไม่ค่อยดี และอยากกลับมาอยู่ที่อุทัย เขาคิดแต่เรื่องอนาคต แล้วเขาจะทำแบบนั้นทำไม เชื่อแค่ 30% ส่วนเรื่องแฟน ก็ไม่เห็นมีอะไร เห็นเข้าใจกันดี ส่วนปัญหาส่วนตัวอื่นๆ ไม่ทราบเรื่องเลย เพราะโจ้ไม่เล่าให้ฟัง ไม่เคยบอกว่ามีปัญหา”

ขณะที่ น้องสาวโจ้ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า เมื่อพิสูจน์แล้วว่าเป็นอย่างนั้น ก็ไม่ติดใจสงสัยอะไร เพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ไม่เอาเรื่องกับใคร

ชีวิตวัยเด็กของ โจ้...

คำพูดจาก “น้องสาว” เล่าว่า โจ้เค้าเป็นคนคล่องแคล่วว่องไว ทำอะไรรวดเร็ว เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาครั้งหนึ่งแล้ว ตอนสูญเสียน้องชาย จากอุบัติเหตุ เมื่อ 4 ปีก่อน

พ่อเค้ายังทำใจไม่ได้ ยังต้องบอกกับพ่อเลย ว่าพ่อต้องมีชีวิตอยู่ เพราะมีลูกอีก 2 คน เรายังต้องทำงาน แก้ปัญหา มีบางคนเค้ายิ่งกว่าเราอีก เราต้องอยู่

ตอนที่รับศพพี่ชาย รู้สึกเสียใจ ทำใจไม่ได้ และต้องตอบคำถามมากมาย รวมทั้งการสอบสวนของตำรวจ ทำให้เกิดความเครียด พูดไม่ออก จากอาเจียน

การเสียชีวิตของพี่ ใครจะคิดอย่างไร คงไม่ห้าม สำหรับ พี่น้องมีความสนิทสนม อยู่ด้วยกันมานาน รู้ดีว่าเราต่างก็มีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น

เชื่อว่าพี่อาจ ฆ่าตัวตาย ส่วนเกิดปัญหาอะไรนั้น คงพูดกันยาก เพราะคนในครอบครัวค่อนข้างอ่อนไหวง่าย

พี่เขาเป็นคนที่มีความใฝ่ฝันสูง พยายามทำทุกอย่างให้สำเร็จ มีหลายครั้ง พ่อแม่อยากจะไปดูโจ้ร้องเพลง แต่โจ้ห้ามไว้ บอกสังคมกลางคืนมันไม่ดี

“ส่วนตัวพี่เขาเป็นคนชอบปืน เคยบอกว่าจะหาปืนเล็กๆ ให้เราใช้ แต่เราบอกว่าถ้าเป็นของเถื่อนเราไม่เอา เคยไปหัดยิงอยู่”

ก่อนหน้าที่พี่จะเสีย ไม่ได้คิดอะไร แต่มันก็เหมือนมีลางบอกเหตุ เพราะก่อนหน้าพี่โจ้โทรม บอกว่า เขาโอนเงินค่าโทรศัพท์ให้แล้ว น้องไม่ต้องจ่าย ยังคิดในใจเลยว่า ได้ใช้โทรศัพท์ฟรีอีกแล้ว

วันหนึ่ง พี่เขาโทรมา บอกว่า อยากไปเรียนภาษาอังกฤษด้วยจัง ฉะนั้น จึงไม่เชื่อเลยว่าพี่เขาจะเสีย เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ก็ถามว่า “พี่โจ้ ทำไมทำแบบนี้” แต่เขาตอบเราไม่ได้แล้ว เขาคิดเร็ว ตัดสินใจเร็ว

ก่อนหน้านี้พี่เขาคิดถึงบ้านมาก ได้กลับมาบวชก่อนวันเกิดเขา วันที่ 14 ตุลาคม 2544 (โจ้เกิดวันที่ 14 ตุลาคม 2514)

พ่ออยากให้โจ้ บวช 1 พรรษา แต่โจ้บวชนานขนาดนั้นไม่ได้ จำเป็นต้องสึก เมื่อวันที่ 11 พฤษจิกายน 2544

ด้านพ่อของโจ้ ยอมรับว่ายังทำใจไม่ได้ มีลูกชาย 2 คน ก็เสียชีวิตหมด ศพน้องชายโจ้ ยังเก็บไว้อยู่ ว่าจะจัดให้เรียบร้อยหลังงานโจ้ เหตุการณ์มันเกิดขึ้นแล้วไม่รู้จะทำยังไง ตำรวจก็บอกแล้ว ก็ต้องยอมรับสภาพ

ก่อนหน้านี้ก็เคยโทรหา คุยกัน โจ้ บอกว่าพักนี้ไม่รู้เป็นอะไร รู้สึกอารมณ์ร้อน ระหว่างร้องเพลง โดนแซวก็จะมีเรื่อง ก็เลยบอกให้เค้าใจเย็นๆ ส่วนเรื่องปืน นั้น ก่อนหน้านี้เค้าไม่มีปืน แต่ว่า มีเพื่อนมายืมเงินเค้าไป พอไปทวงเค้าก็ไม่ยอมคืน และข่มขู่ เค้าเลยกลับมาซื้อปืน

เคยไปหาเค้าที่ห้อง เห็นวางอยู่บนหัวนอน ยังบอกให้เค้าเก็บดีๆ รวมถึงเอกสารทะเบียนปืนด้วย

ส่วนเรื่องการทำศพนั้น ตั้งใจจะทำการเผาวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และจะเก็บไว้ทำบุญอีก 100 วัน

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายคดีนี้ ทางตำรวจ สรุปว่าเป็นฆ่าตัวตาย โดยสาเหตุของการกระทำดังกล่าว ยังคงเป็นปริศนา แต่ให้น้ำหนักไปในเรื่องของความรัก กับกรณีแฟนเก่า ที่มีการตัดขาดกัน แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นอื่น ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว

ส่วนการติดใจของญาตินั้น ส่วนใหญ่ก็เชื่อว่าเกิดเหตุแบบนั้นจริงๆ มีเพียงพ่อเท่านั้นที่ยังติดใจ

- ทำไมต้องมาก่อเหตุแบบนั้นในลิฟต์ ทั้งที่อยู่บนห้องก็ได้
- ทำไมต้องพกปืนมาส่งเพื่อน หากไม่มีคนปองร้าย
- ลูกชายไม่เกี่ยวข้องกับการพนันและยาเสพติด
- ส่วนเรื่องแฟนสาวก็ไม่เคยมีปัญหาเช่นกัน

เคยมีคนพูดว่า ชีวิตคนเราตายได้ 2 ครั้ง ครั้งแรก คือ การหมดลมหายใจ และอีกครั้ง คือ การหายไปจากความทรงจำ แต่สำหรับโจ้ นั้น เหมือนกับว่า ชีวิตที่สองของเค้า ยังอยู่กับเราเสมอ แม้วันเวลาจะผ่านมานานแค่ไหนแล้วก็ตาม เพราะเรายังได้ยินเสียงเพลงของเค้าอยู่

 


You might be intertested in this news.

Mostview

พลาดพลั้ง สู่การกำเนิดใหม่ ชีวิตที่พลิกผัน ของ อูโก้ เอกิติเก้ (ชมคลิป)

พลาดพลั้ง สู่การกำเนิดใหม่ ชีวิตที่พลิกผัน ของ อูโก้ เอกิติเก้ (ชมคลิป)

โคล พาลเมอร์ เรียนรู้ที่ แมนฯซิตี้ เพื่อไปประสบความสำเร็จกับเชลซี (ชมคลิป)

โคล พาลเมอร์ เรียนรู้ที่ แมนฯซิตี้ เพื่อไปประสบความสำเร็จกับเชลซี (ชมคลิป)

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(22ก.ค.68) ระวังแรงขายระยะสั้น

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(22ก.ค.68) ระวังแรงขายระยะสั้น

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (23ก.ค.68) ทยอยขายทํากําไร

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (23ก.ค.68) ทยอยขายทํากําไร

8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ก.ค.2025)

8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ก.ค.2025)

TrustNEws Line