เวลาผมดูหนังสักเรื่อง เมื่อก่อนมักจะหาข้อมูลมานิดหน่อยก่อนเข้าโรงหนัง แต่ปัจจุบันนี้ แทบไม่ได้ดู และไม่ได้อ่านเรื่องย่อเลย

การตัดสินใจเข้ามาดูหนังเรื่อง “Eden สวรรค์คนบาป” ส่วนหนึ่งมาจาก “นักแสดง” ของเรื่อง โดยเฉพาะ ตัวนำที่อยู่บนโปสเตอร์ ก็คือ จู๊ด ลอว์ พระเอกทรงเสน่ห์ ที่ผ่านหนังดังๆ มามากมาย วาเนสซ่า เคอร์บี ที่ผ่านหนังฟอร์มยักษ์ hob & shaw หนังนตระกูล Fast & Furious หรือ จะเป็น อนา เดอ อาร์มัส  สาวสวยสุดเซ็กซี่ ในหนังยิงแหลก จากหนัง ballerina จากจักรวาล John Wick

ยอมรับว่า ตอนเข้ามาดูตอนช่วงแรก คิดในใจ ว่า “หนังอะไรว่ะ” (เพราะไม่ได้อ่านเรื่องย่อ)

ตัวหนังเล่าเรื่องราว ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ ในปี 1920 โดย มี ดร.ฟรีดริช (จู๊ด ลอว์) และ โดร่า (วาเนสซา เคอร์บี)

2 ผัวเมีย ที่หนีภัยสงครามมาใช้ชีวิต ในวิถีธรรมชาติ และเขียนเรื่องราว บนเกาะร้าง “กาลาปากอส” โดย อดีตพ่อมหาเสน่ห์ จู๊ด ลอว์ นั้น ได้เขียนบันทึกการใช้ชีวิตที่นี่ และส่งไปให้ หนังสือพิมพ์ตีพิมพ์ ซึ่ง เกาะนี้ ถือว่าห่างไกลจากชายฝั่ง “เอกวาดอร์” นับ 1,000 กิโลเมตร นานๆๆๆ จะมีเรื่องสักลำผ่านมา ส่งเสบียงและของใช้จำเป็น และ ดร.ฟรีดรีช ก็ตั้งตู้จดหมาย และตีหน้าซอง ส่งเรื่องราวไปให้ นสพ. เพื่อตีพิมพ์

คนผัว ต้องการทดลองใช้ชีวิต เป็นเกาะร้าง เพื่อ “ค้นหา” สัจธรรม กินมังสวิรัติ ขณะที่ คนเมียเองก็มีอาการป่วย “ปลอกประสาทเสื่อม” ใช้ธรรมชาติ ใช้สมาธิในการเยียวยา

เมื่อเรื่องของเขาถูกตีพิมพ์ จึงเป็นการดึงดูดให้มี “หมู่คณะคน” เดินทางมาอีก 2 ระลอก เรื่องราวของหนังจึงเกิดขึ้น…

ความโหดร้ายของธรรมชาติ บนเกาะนี้ ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะเป็น “เกาะ” มีสิ่งมีชีวิต “เฉพาะถิ่น” จำนวนมาก ทั้ง เต่ายักษ์กาลาปากอส อิกัวน่าทะเล ส่วนสภาพอากาศ แม้จะไม่โหดร้าย แต่การอาศัยบนเกาะที่ไกลผู้คนขนาดนี้ โดยมี “น้ำ” จำกัด มันก็อยู่ไม่ง่าย ขณะที่ “สัตว์ต่างๆ” ทั้ง “แมลง” รวมไปถึง “หมา”

ใช่ “หมาป่า” ที่ไม่คุ้นกับ “คน” นั้น ก็คือ “อันตราย” ใกล้ตัว

คนคณะสองที่ตามเข้ามา คือ ครอบครัววิตต์เมอร์  ที่มีเป้าหมายในการเยียวยา “ลูกชาย” ที่ป่วยและหนีภัยสงครามมา

ครอบครัวแรกที่เข้ามา ก็ต่อสู้ชีวิต จากอาศัยอยู่ในถ้ำ จนกลายเป็นบ้าน พยายามเพาะปลูก และอาศัยเสบียงเดิม พวกเนื้อกระป๋อง ใช้อย่างประหยัด

แต่... ความวุ่นวาย ได้มาถึง เมื่อคณะของ “เอโลอีช” (อนา เดอ อาร์มัส) ได้เข้ามา ซึ่งเธอ สวย และทรงเสน่ห์มาก ขึ้นเกาะพร้อม สามี 2 คน เป้าหมายเพื่ออยาก “รวย” และ “หวัง” จะสร้างรีสอร์ตสุดหรู

แม้สภาพการใช้ชีวิตบนเกาะ ที่ดูเหมือนจะโหดร้ายแล้ว แต่ “จิตใจ” มนุษย์นั้นกลับ “ต่ำช้า” ยิ่งกว่าสัตว์ เดรัจฉาน สันดานดิบของมนุษย์ นั้น ยิ่งกว่าธรรมชาติ และสัตว์ทุกตัวบนโลก

สิ่งที่เราจะเห็นในหนัง นั้น คือ ความดิบเถื่อน ทั้งความคิด การกระทำ โดยเฉพาะจาก “เธอ” ผู้ทรงเสน่ห์ พร้อมใช้เรือนร่าง ล่อหลอก ปั่นหัว คนใกล้ชิด หรือแม้แต่เพื่อนร่วมเกาะ เพื่อให้ประโยชน์สูงสุดของตัวเอง

คำพูดที่ออกมาจากปาก เหมือนน้ำผึ้งที่เคลือบยาพิษ ร่างกายที่สวยงาม เร้าร้อน แต่อยู่ภายในจิตใจของ “ซาตาน”

หลายๆ ฉากนั้น “ดิบ เถื่อน” เอาเป็นว่า เราจะได้เห็น “ธรรมชาติ” ที่ โคตรธรรมชาติ จริงๆ บางฉาก ถึง กับ “ตะลึง” ไม่คิดว่า ผู้กำกับอย่าง “รอน ฮาวเวิร์ด” ผู้ที่เคยทำหนังอย่าง "A Beautiful Mind จะปล่อยฉากนี้ออกมา แย้มนิดหนึ่งว่า เกี่ยวกับ “จู๊ด ลอว์” โดยเราจะเห็นเพียง “เสี้ยววินาที”

ขณะที่ “อนา เดอ อาร์มัส” ก็โอ้โห…เร้าร้อนมาก ซึ่งไม่แปลกเลย ทำไมเธอ ถึงถูกเสนอให้รับบทนี้

ขณะที่ตัวละคร คนอื่นๆ นั้น ก็มีบุคคิก ที่แตกต่างกัน เหมือนเป็นตัวแทน ของความรัก โลภ โกรธ หลง ซื่อตรง เหลี่ยมจัด ไม่มั่นคงต่อสิ่งยั่วยุ ความดำมืดในจิตใจมนุษย์

บอกตรงๆ ว่า “หนังเรื่องนี้” ไม่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะ “เด็กๆ” หรือ ถ้าใครที่ไม่ชอบหนังแนวดราม่า ที่เล่นกับจิตใจมนุษย์ แนะนำให้ผ่านเรื่องนี้ไปได้เลย

ซึ่งกว่าเนื้อเรื่องจะเข้มข้นนั้น ก็น่าจะผ่าน 30-40 นาทีไปแล้ว

หนังเรื่อง “EDEN” นั้น ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “เรื่องจริง” ที่เคยเกิดขึ้น ซึ่งท้ายเครดิต เราจะได้เห็น “วิดีโอ” ของจริงที่ถูกบันทึกไว้ ว่าแต่ละคนมีตัวตนจริง

ซึ่งสิ่งที่ประทับใจ คือ “การแก้ไขสถานการณ์” ของ “มาร์กาเร็ต” ซึ่งผู้ที่รับบทนี้ คือ “ซิดนีย์ สวีนีย์” ซึ่งเป็นจุดไคลแม็กซ์ของเรื่อง ซึ่ง “มาร์กาเร็ต” นั้น ก็คือ หนึ่งคนที่มีตัวตนจริง

ซึ่งหากใครได้ดูนั้น เราจะได้เห็น “ภูมิหลัง” ของเธอ ผ่านการแสดงออกของคาแร็คเตอร์นี้ โดยไม่ต้องบรรยายเป็นคำพูด ขณะที่ตัวหนังนั้น ก็จะดูมืดๆ ทะมึนๆ เหมือนบ่งบอกถึงจิตใจมนุษย์

โดยรวมขอให้คะแนน 3.5 คะแนน เต็ม 5 คะแนน (สำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบดูหนังแนวนี้) แต่ถ้าใครชอบ ก็แนะนำให้ไปดูครับ ช่วงกลางถึงท้ายเรื่อง ถือว่าสนุกดี...