วันอังคาร, สิงหาคม 26, 2568

เขาคือใคร...จาก เกรียงไกร สู่ อลงกต โกงเงินบุญ สวมบัตรผี ซ่อนอดีตทำไม..?

by Trust News, 26 สิงหาคม 2568

จริงๆ เรื่อง “วัดพระบาทน้ำพุ” ก็ตะหงิดๆ แต่แรก ว่าจะเกี่ยวข้องกับ “หมอบี” เพียงคนเดียวหรือไม่

เนื่องจากเริ่มต้น ความไม่ชอบมาพากล เกี่ยวกับ “เงินบริจาค” และโครงการต่างๆ ที่ “หมอบี” ทำนั้น มันผูกชื่อตัวเองเข้าไป

และทุกครั้งที่ให้สัมภาษณ์ ก็มักชี้เป้าไปที่ “หลวงพ่ออลงกต” ซึ่งความจริงเชื่อว่า คงไม่ได้มีแค่ หลวงพ่ออลงกต

เป็นไปได้หรือ ว่าหากทำกันในลักษณะแบบนี้ จะมีผู้เกี่ยวข้องเพียง 2 คน ไม่ได้มีแค่พระกับโยม

แต่นั่นก็เป็นหน้าที่ของตำรวจ ที่ต้องไปตรวจสอบ..?

แต่ด้วยที่เราเห็นว่ามี “เจตนาดี” จึงทำให้เรา “มองข้าม” หรือ "ละเลย" สิ่งที่สำคัญที่สุดไป นั่นก็คือ ความถูกต้อง โปร่งใส และการถูกต้องตามกฎหมาย และเหนือสิ่งอื่นใด ก็คือ ความดีงาม ที่คนทั่วประเทศ ให้ความศรัทธา นับถือ ในฐานะ นักบุญ

ในช่วง ตี 2 วันนี้ 26 สิงหาคม 2568 ปฏิบัติการ ของ กองปราบได้เริ่มขึ้น ด้วยการบุกจับ
พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ของศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่ จ 81/2568 ลง 22 ส.ค.2568

ด้วยมีหลักอันสมควรเชื่อว่า พระราชวิสุทธิประชานาถอลงกต ทุจริตยักยอกเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ, เบียดบังทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยทุจริต ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน

นอกจากนี้ กองปราบ ยังบุกค้นพื้นที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 17 จุด โดย มีการควบคุมตัว หมอบี หรือ นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาตามหมายจับด้วย

อย่างไรก็จาตาม ช่วงบ่ายที่ผ่านมา มีรายงานว่า “หลวงพ่ออลงกต” ได้เต็มใจ “ลาสิกขา” แล้ว เพื่อเตรียมต่อสู้คดี จากการเกลี้่ยกล่อมจาก “บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.


ย้อนไทม์ไลน์ จาก "เกรียงไกร" สู่ "พระอลงกต" (ที่มาข้อมูล :ไทยพีบีเอส)

จากข้อมูลของทะเบียนราษฎร์ ระบุว่า เด็กชายไกร ชื่อเล่นจอร์จ เกิดเมื่อปี 2503 และแจ้งเปลี่ยนชื่อเป็นนายเกรียงไกร ตอนอายุ 24 ปี ขณะนั้นยังไม่บวช และไม่มีข้อมูลการทำบัตรประชาชน แต่มีชื่อในทะเบียนบ้าน พร้อมเลข 13 หลัก

เขาเรียนที่ชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ซึ่งมีรายงานว่านายเสริมวิทย์ พ่อของนายอลงกต ข้าราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เสียชีวิตไปแล้ว "เคยเป็น ผอ.ที่โรงเรียนนี้" อยู่ระยะหนึ่ง, ปี 2517-2520 เรียนมัธยมศึกษาที่โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย จ.ขอนแก่น

ซึ่งลูก 3 คนของนายเสริมวิทย์ รวมทั้งนายอลงกต เรียนที่นี่เช่นเดียวกัน, ปี 2521-2523

นายเกรียงไกรเรียน ปวช.ที่เกษตรบ้านกร่าง จ.พิษณุโลก หรือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ในปัจจุบัน

หลังจากนั้นไม่มีข้อมูลของนายเกรียงไกรปรากฏอีกเลย

กระทั่งปี 2529 นายเกรียงไกร อุปสมบท แต่กลับใช้ชื่อ "พระอลงกต" โดยไม่ทราบสาเหตุที่ไม่ใช้ชื่อตนเอง และใช้เลข 13 หลัก ที่ไปตรงกับนายอลงกต ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา จึงมีคำถามว่าช่วงเวลาที่หายไป 6 ปี

"นายเกรียงไกร หรืออลงกต อยู่ที่ไหน ทำอะไร และเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเขา"

มีข้อมูลว่าปีสุดท้ายที่เรียนไม่จบ ปวช. คือปี 2523 ตรงกับกับข้อมูลของอดีตโค้ช ที่ระบุว่า เกรียงไกรติดทีมฟุตบอลเยาวชนฯ จ.ขอนแก่น

ในช่วงเวลา 6 ปีที่ไม่มีใครได้ข่าว พบว่าปี 2527 เปลี่ยนชื่อจาก "ไกร" เป็น "เกรียงไกร" ก่อนอุปสมบท และมาทำบัตรประชาชนในปี 2552 ในชื่อ "นายเกรียงไกร เพ็ชร์แก้ว" โดยใช้เลข 13 หลักของตัวเอง

จากข้อมูลทั้งหมด มีข้อสังเกตหลายอย่าง เช่น ตั้งแต่เกิด ไม่ได้ทำบัตรประชาชน ทั้งที่มีชื่อมีเลข 13 หลักในทะเบียนบ้าน และมาแจ้งเปลี่ยนชื่อตอนอายุ 24 ปี และทำบัตรประชาชนครั้งแรกเมื่อปี 2552 ในขณะที่เป็นพระอลงกตแล้ว หากเรียงไทม์ไลน์ทั้งหมด ก็มีคำถามเกิดขึ้นในหลายช่วงเวลา

ช่วงวัยเด็กชั้นประถมศึกษา เด็กชายไกรเรียนโรงเรียนเอกชนที่นายเสริมวิทย์ พ่อของอลงกต ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา เคยเป็นครูในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ไม่แน่ชัดว่าเป็นช่วงเวลาเดียวกันหรือไม่

ช่วงมัธยมศึกษาที่โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย เด็กชายไกรเรียนที่เดียวกับลูก 3 คนของนายเสริมวิทย์ ซึ่งรวมถึงนายอลงกตด้วย แต่หากดูจากปีเกิดแล้ว นายอลงกตน่าจะเป็นรุ่นน้องประมาณ 2 ปี

หนึ่งในเพื่อนร่วมรุ่นที่วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา วิทยาเขตพิษณุโลก หรือที่เรียกกันว่า "เกษตรบ้านกร่าง" บอกว่า เกรียงไกรน่าจะอยู่ห้องต้น ๆ เพราะสมัยนั้นแบ่งห้องเรียนตามตัวอักษรชื่อ หลังจากเรียนจบก็ไม่มีใครทราบข่าวของเกรียงไกรอีกเลย

มทร.ล้านนา พบข้อมูล "เกรียงไกร" เคยเรียน แต่ไม่จบ

นายบุญฤทธิ์ สโมสร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหาร มทร.ล้านนา คนปัจจุบัน ตรวจสอบใบระเบียนสะสมการเรียนระดับ ปวช.ของนายเกรียงไกร พบข้อมูลตรงกันทั้งวันเดือนปีเกิด เคยเรียนที่แก่นนครฯ จึงเชื่อว่า "เป็นเกรียงไกรเดียวกัน" โดยพบว่าเรียนระดับ ปวช.ที่นี่จริง แต่เรียนไม่จบ และไม่มีใครรู้ว่านายเกรียงไกร คือ พระอลงกต

มหาวิทยาลัยฯ นิมนต์พระอลงกต มาบรรยายเกี่ยวกับโรคเอดส์ทุกปี รวม 28 ครั้ง โดยพระอลงกตไม่เคยบอกว่าเคยเรียนที่วิทยาลัยแห่งนี้

อดีตโค้ชเล่า "เกรียงไกร" เคยเป็นนักฟุตบอลเยาวชน

ปีสุดท้าย นายเกรียงไกรเรียนไม่จบ ปวช. ในปี 2523 ขณะเดียวกันมีข้อมูลจากอดีตผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมเยาวชน ที่นำภาพถ่ายมายืนยันว่า นายเกรียงไกร เพ็ชรแก้ว ติดทีมเยาวชน ในปี 2523 โดยโค้ชเป็นผู้เรียกตัวนายเกรียงไกร จาก จ.พิษณุโลก มาร่วมทีม เพราะเห็นในความสามารถ จึงมีข้อสังเกตอีกประเด็นว่า เขาเรียนไม่จบ ปวช.เทอมสุดท้าย เนื่องจากไปแข่งฟุตบอล

อดีตผู้ฝึกสอน เปิดเผยว่า ทุกคนในทีมเรียกเกรียงไกรว่า "จอร์จ" ไม่ได้ชื่ออลงกต และหลังจบการแข่งขันก็ไม่พบนายเกรียงไกรอีกเลย

สืบค้นประวัติ "เกรียงไกร เพ็ชรแก้ว"

ผู้บริหารของโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย ระบุว่า สันนิษฐานว่า พระอลงกตเป็นศิษย์เก่า รุ่นที่ 8 โดยพระอลงกตเดินทางมายังโรงเรียนทุกปี ช่วงครบรอบวันสถาปนาโรงเรียน 16 กันยายน และบางปียังมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียน

ข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์ พบว่า บ้านเดิมของพระอลงกตอยู่ในซอยอำพล หรือซอยม้าใหญ่ บ้านบะขาม อ.เมืองขอนแก่น ซึ่งชาวบ้านให้ข้อมูลว่า บ้านพักถูกปล่อยทิ้งร้างมานานเกือบ 20 ปี ไม่มีคนอาศัย

การเปลี่ยนแปลงชื่อ เป็นปิดบังตัวตนตรงนี้หรือไม่ ที่ทำให้ “หลวงพ่ออลงกต” บอกว่าตัวเองความจำขาดหายไป 10%

หลวงพ่ออลงกต เคยบอกว่า ในอดีตท่านเคยประสบอุบัติเหตุร้ายแรง ทำให้ความทรงจำบางส่วนได้รับผลกระทบและไม่สามารถจดจำรายละเอียดในชีวิตได้อย่างชัดเจนทั้งหมด" 


ท่านระบุว่า ไม่ได้จบจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ตามที่มีข่าว แต่เคยไปเตะฟุตบอลที่นั่น และไม่ได้จบปริญญาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์หรือออสเตรเลีย ตามที่หลายคนเข้าใจ เพียงแต่มีความใฝ่ฝันอยากไปเรียนที่นั่นจริงๆ

หลวงพ่ออลงกตชี้แจงว่าท่านจบการศึกษาในระดับมัธยมปลายจากโรงเรียนแก่นนคร จังหวัดขอนแก่น และไม่ได้เรียนต่อในระบบ แต่หันมาศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองจนพบทางธรรม

ซึ่งตรงนี้ ก็ถือว่า มีข้อมูลใกล้เคียงกันที่ ทาง ไทยบีเอสไปสืบค้น...

สาเหตุ “สวมบัตรผี” เปิดบัญชีรับบริจาค

เรื่องนี้ สาเหตุที่ถูกเปิดเผย มาจากการตรวจสอบ “เลขบัตรประชาชน” พบว่า มีการนำเลขบัตรประชาชน ของข้าราชการคนหนึ่ง ที่ชื่อ “คล้าย” หลวงพ่อ ก็คือ นายอลงกต พลมุข มาเปิดบัญชี “พร้อมเพย์” กองทุนอาทรประชานาถ ขณะที่ ตัวหลวงพ่อ ใช้ชื่อ “อลงกต พูลมุข”

อย่างไรก็ตาม จากการยืนยันของ “ธนาคาร” ก็พบว่า พระอลงกต ได้นำใบสุทธิมาใช้เป็นหลักฐานประกอบการเปิดบัญชี ซึ่งในใบสุทธิ มีเลข 13 หลักของนายอลงกต พลมุข อดีตข้าราชการที่เสียชีวิต แต่ทางธนาคารไม่ทราบเรื่องดังกล่าว จึงเปิดบัญชีให้ตั้งแต่ปี 2540 กระทั่งมีการรณรงค์ให้ใช้พร้อมเพย์ในปี 2561 หลวงพ่อได้เชื่อมบัญชีดังกล่าวเข้ากับพร้อมเพย์

แต่เมื่อปรากฏข่าวกรณีนี้ ธนาคารได้ตรวจสอบย้อนหลัง พบว่าเลข 13 หลักดังกล่าวเป็นของผู้อื่น จึงได้อายัดบัญชีและยุติการใช้พร้อมเพย์เมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) ทำให้การเชื่อมพร้อมเพย์บัญชีดังกล่าวถูกระงับ แต่ยังโอนเงินเข้าบัญชีได้ตามเดิม แต่ถอนเงินไม่ได้จากกระบวนการอายัด

ขณะที่ ใบสุทธิของพระอลงกต ถูกทำครั้งแรก เมื่อตอนบวช เมื่อปี 2529

สรุปง่ายๆ คือ การสวมเลขบัตรประชาชน ถูกทำครั้งแรกในตอนบวช ซึ่งการบวชนั้น เลขบัตรอาจมีการกรอกข้อมูลไม่ตรงความเป็นจริงมาก็ได้

กระทั่งต่อมา ได้ใช้ใบสุทธิ นำทาง นำไปสู่การทำบัตรประชาชน ในปี 2552

ขณะที่ การเปลี่ยนชื่อ นั้น จะมาจากสาเหตุเรื่องการ “หนีทหาร” หรือไม่ เรื่องนี้ ยังเป็นข้อสันนิษฐาน

ขณะเดียวกัน หลังจากนี้ คงต้องให้ตำรวจตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมด
“เงิน” ที่รับบริจาคทุกวัน อยู่ที่ไหน…
เงินที่หมอบี ถวายไป อยู่ไหน
เงินที่ใช้ซื้อที่ดิน หรือ อสังหาริมทรัพย์ เป็นเงินจากอะไร ใช้ประโยชน์ในทางธรรมจริงหรือไม่ ใครได้ประโยชน์สูงสุดในเรื่องนี้
มีใคร...นอกจาก อดีตพระอลงกต และ หมอบี ที่สมรู้ร่วมคิดเรื่องนี้หรือไม่
และสุดท้าย กระบวนการยุติธรรม ผ่านชั้นตำรวจ อัยการ และศาล คงจะให้คำตอบในอนาคต

ว่า ท่านเป็น “นักบุญ” จริงหรือไม่…

 

 

 


You might be intertested in this news.

Mostview

5 ปมสั่งตาย “แคล้ว ธนิกุล” เจ้าพ่อนครบาลกับพระสมเด็จวัดระฆัง ที่หายไป?

เบื้องหน้า เบื้องหลัง 117 นัด ดับ เจ้าพ่อนครบาล “แคล้ว ธนิกุล” 5 ปมสั่งตาย กับพระสมเด็จวัดระฆัง กับข่าวลือเรื่องหนังเหนียว …

เปิดประวัติตู้แช่เวียดนาม การต่อสู้ที่อาจมาถึงจุดจบ

เปิดประวัติตู้แช่เวียดนาม การต่อสู้ที่อาจมาถึงจุดจบ

รีวิว “Eden สวรรค์คนบาป” ดิบ ดิ่ง เร้าร้อน ล่อลวง

รีวิว “Eden สวรรค์คนบาป” ดิบ ดิ่ง เร้าร้อน ล่อลวง

พายุไต้ฝุ่น “คาจากิ” จ่อถล่มไหหลำ-ฮานอย เตือน! ไทยเจอฝนหนัก 24-27 ส.ค.

เตือน พายุไต้ฝุ่น “คาจากิ” (ปลาญี่ปุ่น) ถล่ม ไหหลำ ต่อ ด้วยฮานอย ส่วนไทย จะโดนอิทธิพลและคาดว่าฝนจะตกหนัก 24-27 ไล่ตั้งแต่ภาคกลาง อีสาน และเหนือ…

เมื่อความรู้ลงถึงชุมชน ช่วยเกษตรกร "บ้านกูแบสีรา" ทำจริงขายได้ มีกินมีใช้

"ทำจริงทำได้ ขายได้มีกินมีใช้" ตัวอย่าง "บ้านกูแบสีรา" จ.ปัตตานี หลังขยายผลองค์ความรู้สู่ชุมชน ช่วยเกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รายได้เพิ่ม 500 บาท/สัปดาห์ จากการทำเกษตรผสมผสาน ปลูกผักอินทรีย์ส่งขายตลาดชุมชนใกล้เคียง เสริมการทำนาข้าว สวนยางพารา และไม้ผล

TrustNEws Line