วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 23, 2568

รีวิวหนัง “28 years Later” 28 ปีให้หลัง เชื้อเขมือบคน

by Trust News, 22 ตุลาคม 2568

“28 years Later” หนังซอมบี้ ต้นทุนไม่สูง ที่มีภาคต่อมาแล้ว 3 ภาค ตั้งแต่ 28 วัน 28 สัปดาห์ จนกระทั่ง ถึง 28 ปี

ภาคนี้ เป็นเรื่องราวของ “จิมมี่” และ สไปด์”

ที่เปิดเรื่องด้วย “จิมมี่” เด็กที่เจอเหตุการณ์ “ไวรัสระบาด” ตั้งแต่ “ช่วงเริ่มต้น” และโผล่มาอีกที ก็คือตอนใกล้จะจบ

ขณะที่ สไป ด์ คือตัวแทนของเด็ก ที่เกิดมายุคหลังโลกล่มสลายแล้วไปแล้ว

เรื่องราวเริ่มที่หมู่บ้านหนึ่ง บนเกาะ ที่ลี้ภัย “ซอมบี้”

สไปด์ เด็กวัย 13 ปี ต้องออกเผชิญโลก “ซอมบี้” ครั้งแรก ด้วยการเดินข้าม ทะเล ผ่านทางเดินที่ ต้องรอ “น้ำขึ้นน้ำลง” และเขาเรียกอีกฝั่งว่า “แผ่นดินใหญ่”

เนื้อเรื่องมาพีค ตอนที่ “เขา” ผ่านการผจญภัยครั้งแรกมาแล้ว

คนบนเกาะจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองให้กับ สไปด์ พ่อของสไปด์ ปั้นแต่งเรื่องวีรกรรมสไปด์ ดั่งวีรบุรุษ

สไปด์ไม่สบายใจกับเรื่องที่พ่อเขาเล่า เพราะความเป็นจริง เขายิงซอมบี้ ได้แค่ตัวเดียว ที่คลานช้าๆ อยู่กับพื้น ซึ่งโลกของ “ซอมบี้” ของหนังภาคนี้ เล่าผ่านการต่อสู้ของ สไปด์ โดยเหมือนพาผู้ชมไปทำความรู้จักซอมบี้ หลังผ่าน “28 years Later” โดยแบ่งออกเป็น 3 แบบ

แบบแรก คือ “ซอมบี้สโลว์” ตามชื่อ คือ ซอมบี้เชื่องช้า ตัวใหญ่ คลานกับพื้น หาหนอนกิน

แบบที่สอง คือ ซอมบี้ ธรรมดา ที่วิ่งไล่กัดคน

และแบบสุดท้าย คือ ซอมบี้ โอเมก้า ที่เชื้อไวรัส เปรียบเสมือนสตอรอยด์ ทำให้ “ซอมบี้โอเมก้า” นี้ตัวใหญ่ แรงเยอะ ชอบกระชากหัว… ซึ่งนี่อาจจะคล้ายๆ “ซอมบี้จ่าฝูง” ใน i am legend หนังของ “วิล สมิธ”

การออกผจญภัยครั้งแรก สไปด์ เจอกับซอมบี้ทั้ง 3 แบบ นอกจากนี้ ระหว่างที่เขาหลบซ่อน เขาก็เห็นแสงจาก “กองไฟ”

เมื่อเขาถามพ่อเขาว่า “นั่นคืออะไร” พ่อเขากลับเลือกที่จะไม่พูดอะไร…

ในงานเลี้ยงคืนนั้นเขายังแอบเห็นพ่อเขา เล่นชู้กับหญิงอื่น ทั้งที่ “แม่สไปด์” เองกำลังป่วยหนัก มีอาการสับสน ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นอะไร

แต่ด้วยสัญชาติญาณของความเป็นมนุษย์ “สไปด์” รู้ว่า “แม่เขา” อาจอยู่ได้ไม่นาน

คืนนั้น เขามีโอกาสได้คุยกับปู่ และได้เล่าเรื่อง “แสงไฟ” ให้ปู่ฟัง ปู่จึงบอกว่า “แสงไฟ” ดังกล่าว อาจจะมาจาก “หมอ” คนหนึ่ง

แต่ “หมอคนนี้” มีความ “แปลก” ที่ไม่เหมือนคนอื่น…

แต่ขึ้นชื่อว่า “หมอ” แสงแห่งความหวังในการช่วยเหลือแม่จึงเกิดขึ้น เขาจึงออกอุบาย แอบพาแม่ ออกไปหาหมอ

นี่คือ เรื่องราวการปูเรื่องให้ สไปด์​ ต้องออกเดินทางอีกครั้ง

โดยตัวหนัง จะค่อยๆ เชลยปมต่างๆ ที่เป็นข้อสงสัย ที่เนื้อเรื่องค่อยๆ ปล่อยออกมา

เช่น โลกนี้ล่มสลายไปแล้วหรือไม่..? หรือ เพราะอะไร ที่ทำให้คนที่นี่ อาศัยบนเกาะแบบคนยุคก่อน ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีแม้แต่ “หมอ” จึงเป็นต้องไปหวังพึ่งหมอคนสุดท้าย หรือแม้แต่ “องค์ความรู้” ต่างๆ นั้น ถูกทำลายด้วย “กาลเวลา” ที่ผ่านไป 28 ปี

สำหรับ หนังเรื่องนี้ ถือว่าเป็นหนังเกรด B ไม่ใช่การทุ่มงบสร้างมหาศาล ตัวละครมีไม่มาก แม้แต่เหล่าซอมบี้ ก็มีไม่มาก

ที่ติดใจ คือ การออกแบบ “ท่าวิ่งไล่” ของซอมบี้ ในภาคนี้ ดูแปลกๆ ถ้าใครเคยดู Anime เรื่อง “Attack on Titan” นี่คือ “ไททันวิปริต” ยังไงอย่างงั้นเลย แถมซอมบี้ นี่สมจริงขนาด ไม่มีเสื้อผ้าใส่…

โดยรวมเรื่องนี้ ถือว่า ดูได้สนุก เหมือนพยายามแทรก “ปรัชญา” ผ่านการบอกเล่าในชีวิตสไปด์ แต่ในเชิงของความเข้มข้นของเรื่อง ความกดดัน ที่เคยมี ในหนังภาคก่อนๆ นั้น รู้สึกว่า “ลดน้อย” ลงไป โดยเฉพาะ “ฉากเปิดเรื่อง” ที่ภาคก่อนๆ นี่ซอมบี้วิ่งไล่แบบสุดระทึก แต่ภาคนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้น

ใครที่เป็น “คอหนังซอมบี้” นี่ก็เชื่อว่าไม่น่าพลาดกันนะครับ


You might be intertested in this news.

Mostview

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (17ต.ค.68) ยังคงเป็นขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (17ต.ค.68) ยังคงเป็นขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้(22ต.ค.68) คาด Sideway

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้(22ต.ค.68) คาด Sideway

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (21ต.ค.68) ยังเป็นขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (21ต.ค.68) ยังเป็นขาขึ้น

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ต.ค.2025)


7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ต.ค.2025)


รีวิว WENT UP THE HILL หลอนสวมร่าง

WENT UP THE HILL หลอนสวมร่าง หนังที่ดูเหมือนจะหลอนมีผี แต่กลับไม่มีให้เห็น เพราะเป็น “ผี” แนวเข้าสิงร่าง สลับคนไปมา ค่อนข้างออกแนว จิต ๆ หน่อย

TrustNEws Line