แนวโน้มSETวันนี้ (7พ.ย.2568) พักตัว…ปัจจัยภายนอกกดดัน
by Trust News, 7 พฤศจิกายน 2568
แนวโน้มSETวันนี้ (7พ.ย.2568) พักตัว…ปัจจัยภายนอกกดดัน
คาดตลาดไซด์เวย์/พักตัว เมื่อวานนี้ DELTA กลับมาหนุนตลาดเป็นหลัก ขณะที่ นลท. ต่างชาติยังขายสุทธิแม้ตลาดปรับตัวขึ้น ติดตามผลประกอบการ 3Q68 โค้งสุดท้ายสัปดาห์หน้า
ปัจจัยภายนอก การปิดหน่วยงานราชการสหรัฐฯ ทำสถิติใหม่เป็นวันที่ 38 ส่วนความกังวลเรื่องฟองสบู่หุ้น AI ยังเป็นปัจจัยเฝ้าระวังในระยะกลาง วันนี้ติดตามตัวเลขส่งออกจีนที่อาจมีผลต่อตลาดเอเชีย ทางเทคนิคตลาดยืนเหนือ 1300/1305 ทำให้กลับมาขึ้นแต่การขึ้นคาดยังไม่ผ่าน 1320 การพักอย่าลงหลุด 1300 อีก
ประเด็นสำคัญ :
1. รมว. คลังเผยถึงกรณีศาลฎีกาสหรัฐฯ ไต่สวนการเก็บภาษีตอบโต้ของ ปธน. ทรัมป์ ว่าไทยจะคงเดินหน้าการเจรจากับสหรัฐฯ ต่อตามขั้นตอน ส่วนการเจรจารายละเอียดจะมอบหมายให้ รมว. พาณิชย์ดำเนินการ
2. บริษัทที่ปรึกษาด้านการจ้างงาน Challenger, Gray & Christmas Inc. เผยมีการปลด พนง. สหรัฐฯ ใน ต.ค. 2568 จำนวน 153,074 ตำแหน่ง สูงขึ้นเกือบ 3 เท่าจากปีก่อนและทำระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี จากการปรับฐานหลังการจ้างงานสูงหลังช่วงโควิดและมีการปรับใช้ AI ขณะที่ต้นทุนมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ยอดปลด พนง. สะสมทั้งปีนี้ทะลุ 1 ล้านตำแหน่ง สะท้อนตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ สวนทางกับมุมมองของประธานเฟดที่ประเมินตลาดแรงงานจะเย็นตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
3. รมว. คมนาคมสหรัฐฯ สั่งลดจำนวนเที่ยวบินลง 10% ในกว่า 40 สนามบินขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ เนื่องจากความกังวลความปลอดภัยทางการบิน หลังสหรัฐฯ Shutdown ยาวนานที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ ทำให้ จนท. ที่เกี่ยวข้อง 63,000 ราย ต้องทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง
4. ปธน. ทรัมป์เผยข้อตกลงระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับบริษัทยาชั้นนำ Eli Lily และ Novo Nordisk เพื่อลดราคายาควบคุมน้ำหนัก และอาจเปิดทางให้โครงการ Medicare และ Medicaid ขยายความคุ้มครองสำหรับผู้ป่วยบางกลุ่มมากขึ้น
5. การประชุมนโยบายการเงิน BoE มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.00% ด้วยคะแนนเสียง 5-4 ผิดจากที่ตลาดคาดว่าจะลดดอกเบี้ยลง 25bps สู่ 3.75% เนื่องจากกังวลตลาดแรงงานที่อ่อนแอ ขณะที่เงินเฟ้อชะลอตัวลง
กลยุทธ์การลงทุน :
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1280-1345 จุด ปัจจัยในประเทศติดตามการเข้าสู่ฤดูกาลประกาศงบ 3Q68 ของ บจ. กลุ่ม Real Sector หลังงบหุ้นธนาคารส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าตลาดคาด และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล อาทิ มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย โดยจะรับซื้อหนี้ที่ไม่มีหลักประกันและค้างชำระไม่เกิน 1 แสนบาทต่อราย ขณะที่เงินเฟ้อไทย ต.ค. 2568 ติดลบมากกว่าที่ตลาดและเราคาดไว้ ปัจจัยภายนอกที่ต้องติดตาม ได้แก่...
1) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น การจ้างงาน ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ และดุลการค้า ต.ค. 2568 หากออกมาแย่ ตลาดจะให้น้ำหนักเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงต่อใน ธ.ค. นี้
2) การประชุม BoE คาดมีมติคงดอกเบี้ยนโยบาย
3) งบ 3Q68 ของ บจ. ขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ที่คาดจะดีกว่าตลาดคาด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :
ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ ตลาดติดตามการรายงานผลประกอบการ 3Q68 กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีมหลักและ 4 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้...
1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาดผลการดำเนินงานปกติ 3Q68 จะยังเติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY และเราแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดีและราคาหุ้นยังมี Upside ได้แก่ ADVANC BCP LHSC OR PTT TRUE
2. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งในช่วง 1H69 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL
Trading Idea :
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ...
1) หุ้นที่มีแนวโน้มจะประกาศผลประกอบการ 3Q68 ออกมาดีกว่าตลาดคาด แนะนำ GFPT CPALL BGRIM
2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากทรัมป์และสีจิ้นผิงบรรลุข้อตกลงทางการค้าเบื้องต้นได้ แนะนำ IVL PTTGC SCC SCGP
3) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากรัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ แนะนำ กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW) จากมาตรการเที่ยวดีมีคืน, กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC BAM) จากมาตรการแก้หนี้ และ 4) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากดอลลาร์อ่อนค่า (บาทแข็งค่า) แนะนำ กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC)
Daily Top Picks :
DIF : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง โดย INVX คาดว่า กนง. จะลดดอกเบี้ย 25bps อีก 1 ครั้งในการประชุมที่เหลือของปี และคาดกำไรหลัก 3Q68 โตได้ทั้ง YoY และ QoQ จากดอกเบี้ยที่ทยอยลด โดยการลดอัตราดอกเบี้ย 25bps ช่วยหนุนกำไร 70 ลบ./ปี ประเมินราคาเป้าหมายระยะสั้นที่ 9.55 บาท
OR : มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากผลประกอบการ 3Q68 ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ แม้ใกล้เคียงกับที่เราคาด กำไรสุทธิอยู่ที่ 2.6 พันล้านบาท (+17% QoQ, พลิกกำไร YoY) จากมาร์จิ้นดีเซลและเบนซินที่ดี ยอดขาย Café Amazon สูงสุดเป็นประวัติการณ์หนุน กําไร 4Q68 คาดว่าจะยังดีต่อตามฤดูกาลท่องเที่ยว เป้าหมายระยะสั้น 15.00 บาท
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์
You might be intertested in this news.
Mostview
เล่นเร็ว เน้นบอลยาวและฟรีคิก แท็กติกที่ทำให้แมนยูฯเริ่มดีขึ้น (ชมคลิป)
เล่นเร็ว เน้นบอลยาวและฟรีคิก แท็กติกที่ทำให้แมนยูฯเริ่มดีขึ้น (ชมคลิป)
แนวโน้มราคาทองวันนี้ (7พ.ย.68) Sideway ดีดตัวขึ้นกรอบบน
แนวโน้มราคาทองวันนี้ (7พ.ย.68) Sideway ดีดตัวขึ้นกรอบบน
แนวโน้มราคาทองวันนี้ (5พ.ย.68) ยังคงเป็น Sideway
แนวโน้มราคาทองวันนี้ (5พ.ย.68) ยังคงเป็น Sideway
ทำไมทีมไหนๆจึงเลือกใช้ บอล Direct โจมตี ลิเวอร์พูล (ชมคลิป)
ทำไมทีมไหนๆจึงเลือกใช้ บอล Direct โจมตี ลิเวอร์พูล (ชมคลิป)
แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (6พ.ย.68) Sideway เล่นรอบในกรอบ
แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (6พ.ย.68) Sideway เล่นรอบในกรอบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง