วันจันทร์, พฤศจิกายน 10, 2568

แนวโน้มSETวันนี้ (10พ.ย.2568) รีบาวด์… อย่าหลุด 1300-1298

by Trust News, 10 พฤศจิกายน 2568

แนวโน้มSETวันนี้ (10พ.ย.2568) รีบาวด์… อย่าหลุด 1300-1298

คาดตลาดไซด์เวย์/รีบาวด์ วันก่อน DELTA กลับมากดดันตลาด ขณะที่ นลท. ต่างชาติขายสุทธิสูง ระยะสั้นตลาดติดตามผลประกอบการ 3Q68 โค้งสุดท้ายสัปดาห์นี้ การปิดหน่วยงานราชการสหรัฐฯ ทำสถิติใหม่เป็นวันที่ 40 แต่เริ่มมีโอกาสการเจรจา

ส่วนความกังวลเรื่อง Valuation หุ้น AI ยังเป็นปัจจัยเฝ้าระวังในระยะกลาง เทคนิคดัชนีลงมาใกล้แนวรับหลักที่ไม่ควรลงหลุดต่ำกว่า 1300-1298 การลงหลุดระวังทดสอบ 1285 การขึ้นมีแนวต้าน 1315/1320 ยืนได้กลับมาขึ้น 

ประเด็นสำคัญ :

1. กระทรวงพาณิชย์จีนเผยว่าจีนได้ระงับมาตรการห้ามส่งออกสินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-use Items) ทั้งเชิงพาณิชย์และทางทหาร เช่น สินค้าที่เกี่ยวข้องกับแกลเลียม, เจอร์เมเนียม, พลวง และวัสดุซูเปอร์ฮาร์ด ไปยังสหรัฐฯ ถึงวันที่ 27 พ.ย. 2569 มองเป็นอีกสัญญาณบวกต่อการผ่อนคลายทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน


2. ธปท. อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงิน และ Non-bank สามารถร่วมลงทุนกับบริษัทบริหารสินทรัพย์ได้เป็นการชั่วคราว (JV AMC) โดยจะให้ระยะเวลา 2 ปีในการยื่นขอจัดตั้งและ 15 ปีในการดำเนินกิจการ และต้องให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ด้อยคุณภาพที่รับโอน


3. นายกฯ สั่ง สอน. ชะลอการปรับขึ้นราคาน้ำตาลหน้าโรงงานขึ้น 3 บาท/กิโลกรัม สำหรับฤดูกาลผลิตปี 2568/69 ให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่เพิ่ม ราคาน้ำตาลทรายขาวอยู่ที่ 21-22บาท/กิโลกรัมตามเดิม


4. CPI จีนใน ต.ค. 2568 ขยายตัว 0.2%YoY สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้และขยายตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ มิ.ย. 2568 ส่วน PPI หดตัว 2.1%YoY หดตัวต่อกว่าที่ตลาดคาดไว้ เป็นการหดตัวต่อเนื่อง 37 เดือน


5. มูลค่าส่งออกจีนใน ต.ค. 2568 ลดลง 1.1%YoY สวนทางกับที่ตลาดคาดจะขยายตัว โดยเป็นการหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสองปี กดดันจากการส่งออกสู่สหรัฐฯ ที่หดตัวต่อเนื่อง และแรงหนุนของ Front Load Demand ที่เริ่มหมดลง ส่วนมูลค่านำเข้าขยายตัว 1.0%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาด


6. ม. มิชิแกนเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ใน พ.ย. 2568 ลดลงสู่ 50.3 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้และต่ำที่สุดนับตั้งแต่ มิ.ย. 2565 กดดันจากความกังวลต่อการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ 

กลยุทธ์การลงทุน :

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1285-1345 จุด หลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายประกาศงบ 3Q68 ของ บจ. กลุ่ม Real Sector ที่คาดว่าจะเห็นสัญญาณฟื้นตัว รวมทั้งการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล แนะนำติดตามการปรับตัวลงของดัชนีมาที่กรอบล่าง 1285 หากหลุดต่ำกว่าจะมีความเสี่ยงของการลงรอบใหม่ในทางเทคนิค

ขณะที่ปัจจัยภายนอกที่ต้องติดตาม ได้แก่...

1). การปิดหน่วยงานของราชการสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อทำระยะเวลาที่ยาวนานสุดครั้งใหม่

2). ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญทั้งภาคแรงงานและเงินเฟ้อ หากหน่วยงานราชการกลับมาเปิดได้ ซึ่งจะมีผลต่อการคาดการณ์ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของเฟด

3). PMI ภาคการผลิตและยอดค้าปลีก ต.ค. ของจีนยังมีแนวโน้มฟื้นตัวช้าที่จะมีผลต่อจิตวิทยาและบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
 
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :

ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวในกรอบเนื่องจากเข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายของการประกาศงบ 3Q68 “Selective Buy” ใน 2 ธีมหลักและ 2 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้...

1. หุ้น Earning Play ซึ่งคาดผลการดำเนินงาน 4Q68 จะยังเติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY และเราแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดี อีกทั้งราคาหุ้นยังมี Upside ได้แก่ BCPG BEM BGRIM BJC MTC PTT


2. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งในช่วง 1H69 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL


Trading Idea : 

นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ...

1) หุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 3Q68 เติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY แนะนำ BGRIM GFPT MTC CPALL BEM

2) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากรัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ แนะนำ กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW) จากมาตรการเที่ยวดีมีคืน, กลุ่มไฟแนนซ์ (BAM MTC) จากมาตรการพักหนี้และให้สินเชื่อรายย่อย 
 
Daily Top Picks :

BAM : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ของรัฐบาล บริษัทตั้งเป้าเพิ่ม JV AMC เพิ่ม 2 แห่ง คาดกำไรสุทธิจะกลับมาเร่งตัวเพิ่มขึ้น QoQ ใน 4Q68 และคาดว่าจะเพิ่ม DPS จาก 0.35 บาท ในปี 2567 เป็น 0.50 บาท (อัตราการจ่ายเงินปันผล 72%) ในปี 2568 เป้าหมายระยะสั้นที่ 7.20 บาท

BJC : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากอานิสงส์นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภคและการท่องเที่ยว คาดกำไรปี 2568 จะเติบโต 7%YoY และเติบโตต่อ 10%YoY ในปี 2569 อีกทั้ง Valuation ยังไม่แพง ซื้อขายที่ PER 2568F ที่ 16.7 เท่า ต่ำกว่า -2SD เป้าหมายระยะสั้นที่ 18.70 บาท

อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์


You might be intertested in this news.

Mostview

ทำไมทีมไหนๆจึงเลือกใช้ บอล Direct โจมตี ลิเวอร์พูล (ชมคลิป)

ทำไมทีมไหนๆจึงเลือกใช้ บอล Direct โจมตี ลิเวอร์พูล (ชมคลิป)

เล่นเร็ว เน้นบอลยาวและฟรีคิก แท็กติกที่ทำให้แมนยูฯเริ่มดีขึ้น (ชมคลิป)

เล่นเร็ว เน้นบอลยาวและฟรีคิก แท็กติกที่ทำให้แมนยูฯเริ่มดีขึ้น (ชมคลิป)

“พระปรุหนัง” ของขลังมหาอุตม์ของ “เสือฝ้าย” และจุดจบที่แสนอดสู

เรื่องเล่า "ของขลัง" ขุนโจรฉายา "จอมพลฝ้าย" ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน 4 เสือสุพรรณ โดยมีของดี เป็น "พระเครื่องปรุหนัง" พระระดับตำนานที่สร้างในสมัยอยุธยา ขึ้นชื่อเรื่อง มหาอุตม์ แต่จุดจบของเสือฝ้ายกลับตายอย่างน่าอดสู....

แนวโน้มราคาทองวันนี้ (7พ.ย.68) Sideway ดีดตัวขึ้นกรอบบน

แนวโน้มราคาทองวันนี้ (7พ.ย.68) Sideway ดีดตัวขึ้นกรอบบน

แนวโน้มราคาทองวันนี้ (5พ.ย.68) ยังคงเป็น Sideway

แนวโน้มราคาทองวันนี้ (5พ.ย.68) ยังคงเป็น Sideway

TrustNEws Line