วันจันทร์, ธันวาคม 22, 2568

ปี 2025 ดาต้าเซ็นเตอร์ต้องการไฟฟ้าเพิ่ม 16% โดยจะเพิ่ม 2 เท่าใน 5 ปีข้างหน้า

by Trust News, 22 ธันวาคม 2568

การ์ทเเนอร์ ชี้ ดาต้าเซ็นเตอร์จะใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจาก 448 เทราวัตต์-ชั่วโมง (TWh) ในปี 2025 พุ่งเป็น 980 เทราวัตต์-ชั่วโมง (TWh) ในอีก 5 ปีข้างหน้า ขณะที่ การใช้เซิร์ฟเวอร์ที่รองรับ AI จะคิดเป็น 44% ของการใช้พลังงานในดาต้าเซ็นเตอร์ ในปี 2573

การ์ทเนอร์ อิงค์ บริษัทชั้นนำด้านข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจและเทคโนโลยี คาดการณ์ว่าความต้องการพลังงานไฟฟ้าสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 16% ในปีนี้ (ปี 2568) และจะเพิ่มเป็นสองเท่าในอีก 5 ปีข้างหน้า (ปี 2573) โดยนักวิเคราะห์การ์ทเนอร์ประเมินว่า การใช้ไฟฟ้าของดาต้าเซ็นเตอร์ ทั่วโลกจะเพิ่มจาก 448 เทราวัตต์-ชั่วโมง (TWh) ในปี 2568 เป็น 980 TWh ภายในปี 2573

หวัง หลิงอัน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า แม้เซิร์ฟเวอร์ทั่วไปและโครงสร้างพื้นฐานจะมีส่วนสำคัญต่อการบริโภคพลังงานไฟฟ้าโดยรวมในดาต้าเซ็นเตอร์ แต่การเติบโตอย่างรวดเร็วของเซิร์ฟเวอร์ที่ถูกออกแบบหรือปรับแต่งมาโดยเฉพาะเพื่อรองรับงานที่เกี่ยวข้องกับ AI หรือ AI-Optimized Servers นั้นกำลังผลักดันให้การใช้พลังงานในดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มสูงขึ้น โดยปริมาณการใช้ไฟฟ้าของเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้จะเพิ่มขึ้นเกือบ 5 เท่า จาก 93 เทราวัตต์-ชั่วโมง (TWh) ในปีนี้ เป็น 432 เทราวัตต์-ชั่วโมง (TWh) ในปี 2573

คาดว่าปี 2568 การใช้พลังงานของ AI-Optimized Servers จะคิดเป็น 21% ของการใช้พลังงานทั้งหมดในดาต้าเซ็นเตอร์ และ ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า (ปี 2573) จะเพิ่มเป็น 44% และเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้จะใช้พลังงานคิดเป็น 64% ของความต้องการบริโภคพลังงานที่เพิ่มขึ้นในดาต้าเซ็นเตอร์ 

 

รูปที่ 1: สรุปการบริโภคพลังงานไฟฟ้าในดาต้าเซ็นเตอร์ ช่วงปี 2568-2573

A comparison of a graph AI-generated content may be incorrect.

แหล่งที่มา: การ์ทเนอร์ (พฤศจิกายน 2568)

สหรัฐฯ และจีนยังเป็นผู้นำการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI

เมื่อพิจารณาระดับภูมิภาค พบว่ามากกว่าสองในสามของความต้องการพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้ในดาต้าเซ็นเตอร์มาจากสหรัฐอเมริกาและจีน โดยที่จีนอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบกว่า เนื่องจากมีเซิร์ฟเวอร์ที่ช่วยประหยัดพลังงานมากกว่าและมีการวางแผนโครงสร้างพื้นฐานที่ดีกว่า ส่วนการใช้ไฟฟ้าจากดาต้าเซ็นเตอร์ของสหรัฐฯ คาดว่าจะเพิ่มจาก 4% เป็น 7.8% ของการใช้ไฟฟ้าในระดับภูมิภาคระหว่างปี 2568 ถึง 2573 ขณะที่ยุโรปจะเพิ่มขึ้นจาก 2.7% เป็น 5% โดยคาดว่าการเติบโตในจีนและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะอยู่ในระดับปานกลาง

อนาคตพลังงานสะอาดในดาต้าเซ็นเตอร์

สถานการณ์ปัจจุบันที่เชื้อเพลิงฟอสซิลครองสัดส่วนหลักของการผลิตไฟฟ้าให้กับดาต้าเซ็นเตอร์ นับเป็นแนวทางที่ไม่ยั่งยืน ดังนั้นทางเลือกพลังงานสะอาดรูปแบบใหม่ ๆ อาทิ ไฮโดรเจนสีเขียว พลังงานความร้อนใต้พิภพ และเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์โมดูลาร์ขนาดเล็ก (SMRs) กำลังเริ่มมีบทบาทมากขึ้น และภายในสิ้นทศวรรษนี้จะกลายเป็นทางเลือกเชื้อเพลิงที่สามารถนำมาใช้งานได้จริงสำหรับระบบไมโครกริดของดาต้าเซ็นเตอร์

นายโทนี่ ฮาร์วีย์ รองประธานและนักวิเคราะห์อาวุโสของการ์ทเนอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อีกไม่นานนี้ก๊าซธรรมชาติจะเป็นแหล่งพลังงานหลักสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ แต่หากมองไกลไปอีกราว 3-5 ปีข้างหน้า เราคาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วของระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System หรือ BESS) เพื่อปรับสมดุลความผันผวนของพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม แม้ว่าระบบไมโครกริดของพลังงานความร้อนใต้พิภพจะมีศักยภาพสูง แต่ด้วยต้นทุนเริ่มต้นที่สูงและความท้าทายในการขออนุญาตจะทำให้ยังเป็นตัวเลือกเฉพาะกลุ่ม ณ เวลานี้.


You might be intertested in this news.

Mostview

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ

6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)

6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (19ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (19ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ

TrustNEws Line