วันอังคาร, ธันวาคม 23, 2568

แนวโน้มSETวันนี้ (23ธ.ค.68) ลุ้นหุ้นพลังงานกลับมาหนุนตลาด

by Trust News, 23 ธันวาคม 2568

แนวโน้มSETวันนี้ (23ธ.ค.68) ลุ้นหุ้นพลังงานกลับมาหนุนตลาด

คาดตลาดไซด์เวย์/แกว่งตัวขึ้น ตลาดกลับมายืนเหนือ 1258 ได้ส่งผลให้ทิศทางระยะสั้นกลับมาเป็นการแกว่งตัวขึ้น หากยังไม่หลุดต่ำกว่าแนวรับ 1265/1258 ยังเป็นบวก มีแนวต้านหลักถัดไป 1275/1285

เชิงปัจจัย หุ้น DELTA ยังส่งผลต่อตลาดสูง ค่าเงินบาทแข็งค่าหนุนจิตวิทยา ส่วนราคาน้ำมันขึ้นช่วยหนุนหุ้นพลังงาน ติดตามนโยบายพรรคการเมืองในการแก้ปัญหา ศก. และ Window Dressing สัปดาห์นี้ ปัจจัยภายนอก รอดูรายงานตัวเลขยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนและ 3Q68 GDP สหรัฐฯ คืนนี้

ประเด็นสำคัญ :

1. รมว. ตปท. แถลงหลังการประชุม รมว. ตปท. อาเซียนสมัยพิเศษในมาเลเซียว่าไทยและกัมพูชาตกลงจะจัดการหารือภายใต้กรอบการทำงาน JBC ในวันที่ 24 ธ.ค. นี้ เพื่อยุติการสู้รบบริเวณชายแดน 


2. ผู้ว่าฯ ธปท. มองเงินเฟ้อในปี 2569 มีแนวโน้มค่อยๆ ปรับขึ้น และจะทำให้ไม่เกิดภาวะเงินฝืด และตั้งกรอบเงินเฟ้อปี 2569 ที่ 1-3% เหมือนกับในปี 2569 และคาดจะกลับเข้าสู่กรอบได้ภายในปี 2570 ขั้นตอนต่อไปกระทรวงการคลังจะเสนอ ครม. ภายในปีนี้


3. ส.อ.ท. เผยยอดส่งออกใน พ.ย. 2568 ที่ 78,692 คัน หดตัวต่อเนื่อง MoM และ YoY ทำให้ยอดช่วง 11M68 ที่ 850,787 คัน คาดจะพลาดเป้าหมายทั้งปีที่ 9.5 แสนคัน ส่วนยอดผลิตใน พ.ย. 2568 ที่ 130,222 คัน ฟื้นตัวต่อเนื่อง 11.1%YoY หนุนจากการผลิต EV เพื่อชดเชยโควตานำเข้าและรถกระบะ


4. ราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ 62.07 US/bbl (2.64%DoD) ปรับขึ้นต่อเนื่องในวันนี้ จากความกังวลสหรัฐฯ อาจยกระดับการเข้ายึดเรือบรรทุกน้ำมันเวเนซุเอลาต่อเนื่องจากช่วงสัปดาห์ก่อน ระยะสั้นมองเป็น Sentiment เชิงบวกต่ออุตฯ น้ำมันต้นน้ำ PTTEP และโรงกลั่น TOP


5. จีนประณามสหรัฐ กรณียึดเรือบรรทุกน้ำมันเวเนซุเอลา ระบุเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง พร้อมย้ำคัดค้านการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวที่ไม่ได้รับอนุมัติจาก คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และมองว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยประเทศอื่น


6. ไชน่า ว่านเคอ (China Vanke) รอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้วานนี้ หลังที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้มีมติขยายระยะเวลาผ่อนผันการชำระหุ้นกู้มูลค่า 2,000 ล้านหยวนเป็นวันที่ 27 ม.ค. 2569

กลยุทธ์การลงทุน :

ช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1230-1285 จุด หลังขาดปัจจัยชี้นำใหม่ และมีวอลุ่มซื้อขายที่เบาบางลง หลังบรรยากาศการลงทุนเริ่มใกล้ช่วงปลายปีก่อนเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ทำให้นักลงทุนเริ่มชะลอการซื้อขาย โดยเฉพาะต่างชาติ

ทั้งนี้มองตลาดจะติดตามปัจจัยในประเทศเป็นหลัก อาทิ รายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและนโยบายหลักแต่ละพรรค ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและผลประกอบการของ บจ. ไทย, ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาซึ่งมีผลต่อความเชื่อมั่นการลงทุน อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกบางส่วนที่อาจช่วยพยุงดัชนีไว้ได้ เช่น แรงซื้อจากกองทุนลดหย่อนภาษีอย่าง ThaiESG ที่อาจเข้ามาช่วยเสริมสภาพคล่องในระยะสั้น และการทำ Window Dressing ที่นักลงทุนสถาบันบางส่วนอาจใช้ปรับพอร์ตให้ดูดีก่อนสิ้นปี ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
 
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :

ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวในกรอบก่อนเข้าช่วงสิ้นปี คาดตลาดติดตามปัจจัยในประเทศ-การเมือง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักและ 3 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้...

1. หุ้น Defensive ซึ่งผลการดำเนินงานสามารถต้านทานความผันผวนภายนอก โดยเราคาด 4Q68 กำไรยังเติบโตดี YoY และแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดี แนะนำ ADVANC BDMS BEM BGRIM GULF PTT

2. หุ้นปันผลคุณภาพดีเพื่อสร้างกระแสเงินสดและลดความผันผวนให้แก่พอร์ตลงทุน แบ่งเป็น...

1) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะยาว (กำไรแต่ละปีมั่นคง, ผันผวนต่ำ, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง, มี SETESG Rating A-AAA และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Yield สูงเกินปีละ 5%) แนะนำ AP DIF KTB PTT TISCO

2) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะสั้น 6 เดือน (กำไรปี 2568 มั่นคง, ผันผวนต่ำ, คาดมีเงินปันผลจากกำไรปี 2568 ที่เหลือจ่ายหลังหักเงินปันผลที่ประกาศจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว ซึ่งให้ Div. Yield เกิน 5%) แนะนำ BAM KBANK SAT THANI TLI

3. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้าอีก 2 ครั้ง อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL

Trading Idea : 

นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ...

1) หุ้นที่จะได้ประโยชน์จากเม็ดเงินเข้าสู่ระบบในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (CPALL CPAXT) กลุ่มอาหาร (GFPT) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) ขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนระยะสั้นในหุ้นกลุ่มรับเหมาและกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เพราะเชื่อมโยงกับนโยบายและโครงการของรัฐ

2) หุ้น SET50 ที่คาดได้อานิสงส์จากทำปิด Window Dressing แนะนำ BDMS BH MINT CPF LH ซึ่งราคาหุ้นปรับลง YTD และพบสถิติย้อนหลัง 5 ปีราคาหุ้นจะปรับขึ้นเฉลี่ย 2% หากซื้อก่อน 5 วันทำการสุดท้ายก่อนสิ้นปี

3) หุ้นที่อยู่ใน SETESG และ SET100 ที่คาดได้อานิสงส์จากมีแรงซื้อโค้งสุดท้ายกองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG โดยเลือกหุ้นที่ล่าสุด ตลท. ประกาศผล SET ESG Rating ดีขึ้นตั้งแต่ A ขึ้นไปและเราแนะนำ Outperform อีกทั้งราคาหุ้นปรับลง YTD เลือก BDMS CHG ERW GLOBAL HMPRO PRM
 
Daily Top Picks :

TOP :  มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากปัจจัยฤดูกาลหนุนให้ GRM ยังทรงตัวสูงและยังได้ประโยชน์จากมีสัดส่วนการผลิตน้ำมันอากาศยานสูง ใน 4Q68 คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นต่อ QoQ จากหน่วยกลั่นที่ 3 ที่กลับมาเดินเครื่อง การใช้อัตรากำลังการกลั่นที่สูงขึ้น และส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลแข็งแกร่งหนุน เป้าหมายระยะสั้น 36.00 บาท

AP :  มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากแผนทยอยเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ากว่า 2 หมื่นลบ. ใน 4Q68 และวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง กำไรสุทธิ 4Q68 คาดจะทำจุดสูงสุดของปี ฟื้นตัว QoQ แม้ทรงตัว YoY หนุนจาก Backlog ที่แข็งแกร่งจากโครงการแนวราบและการเริ่มโอนคอนโด คาดปันผลปี 2568 ที่ 0.49 บาท/หุ้น หรือ 5.5% เป้าหมายระยะสั้น 8.95 บาท

อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์


You might be intertested in this news.

Mostview

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (23ธ.ค.68) ยังเป็นขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (23ธ.ค.68) ยังเป็นขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ

6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)

6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)

TrustNEws Line