ไทย-อิตาลี เล็งทำ MOU ร่วมมือด้านการค้าและลงทุน
by Trust News, 3 กุมภาพันธ์ 2568
"นฤมล" เผย ก.เกษตรฯ ไทย - อิตาลี เล็งทำ MOU ร่วมมือด้านการเกษตร ผลักดันการค้าและการลงทุน ชูเมืองแฟชั่นต่อยอดซอฟต์พาวเวอร์พา "ผ้าไหมไทย" สู่ระดับสากล
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับ นายฟรานเชสโก โลโลบริจิดา (H.E. Mr. Francesco Lollobrigida) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร อธิปไตยทางอาหาร และป่าไม้สาธารณรัฐอิตาลีและคณะ ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายไทย) ร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ (ฝ่ายอิตาลี) เตรียมจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตร ระหว่างไทย - อิตาลี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการเกษตรครอบคลุมการผลิต การค้า และการลงทุน เพื่อยกระดับความสัมพันธ์และส่งเสริมความเข้มแข็งให้ภาคเกษตรของทั้งสองประเทศ รวมถึงเพื่อขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนสำหรับภาคธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร
“ขณะนี้ ฝ่ายไทยอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดของร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าว เพื่อให้การขับเคลื่อนความร่วมมือมีความชัดเจน เป็นรูปธรรม และเกิดประโยชน์แก่ทั้ง 2 ประเทศอย่างสูงสุด นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้มีการหารือถึงความเป็นไปได้ในการขยายความร่วมมือให้ครอบคลุมถึงการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการออกแบบเสื้อผ้าที่มาจากผ้าไหม เพื่อเสริมสร้างซอฟต์พาวเวอร์ของไทย เนื่องจากอิตาลีถือเป็นผู้นำด้านแฟชั่นของโลกอีกด้วย” ศ.ดร.นฤมล กล่าว
ด้าน นายโลโลบริจิดา กล่าวว่า การหารือครั้งนี้เป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย - อิตาลี อีกทั้งยังเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการขับเคลื่อนภารกิจภาคการเกษตร อาทิ การเปิดตลาดนำเข้า - ส่งออกสินค้าเกษตรเพิ่มเติม เป็นต้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ (ฝ่ายอิตาลี) กล่าวด้วยว่า ฝ่ายอิตาลีพร้อมสนับสนุนประเทศไทยในการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีไทย - สหภาพยุโรป ตาม 2 ข้อบทตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายไทย) รับผิดชอบ ได้แก่ 1) ข้อบทมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (Sanitary and Phytosanitary Measures) และ 2) ข้อบทระบบอาหารที่ยั่งยืน (Sustainable Food Systems) พร้อมทั้งจะสนับสนุนเร่งรัดให้สหภาพยุโรปอนุญาตนำเข้าม้ามีชีวิตจากไทยได้อีกครั้งต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับประเทศอิตาลีเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรอันดับที่ 22 ของไทย ซึ่งในปี 2567 (ระหว่างเดือนม.ค.-ก.ย.) เทียบกับปี 2566 ในช่วงเวลาเดียวกัน พบว่า มีการส่งออกไปอิตาลีเพิ่มขึ้นจาก 8,561 ล้านบาท เป็น 11,883 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3,322 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 38.80 โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญ 10 อันดับแรก ได้แก่ 1.อาหารสุนัขหรือแมวสำหรับขายปลีก 2.ปลาหมึกแช่แข็ง อาทิ ปลาหมึกกระดอง ปลาหมึกกล้วย 3.ยางธรรมชาติที่กำหนดไว้ในทางเทคนิค 4.ยางแผ่นรมควัน 5.ข้าวที่สีบ้างแล้วหรือสีทั้งหมด อาทิ ข้าวเหนียว ข้าวหอมมะลิ
6.ปลาปรุงแต่งอื่น ๆ อาทิ ไส้กรอกปลา ลูกชิ้นปลา 7.พืชผัก ผลไม้ ลูกนัต เปลือกผลไม้ และส่วนอื่นของพืช แช่อิ่ม เชื่อม หรือฉาบ 8.หอยลาย หอยกาบและหอยแครงปรุงแต่ง 9.ปลาหมึกกระดองและปลาหมึกกล้วยที่ปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย และ 10.กุ้งปรุงแต่ง ที่ไม่ได้บรรจุภาชนะ
You might be intertested in this news.
Mostview
รีวิวหนัง “อ่านชะตาวันสิ้นโลก” CG อลังก์ หนังมันส์แบบ nonstop
ดูมาแล้ว สำหรับ หนังฟอร์มยักของเกาหลี “อ่านชะตาวันสิ้นโลก” หรือ Omniscient Reader: The Prophecy หนังที่ใช้ทุนสร้างมหาศาล โดยดัดแปลงเนื้อหามาจาก “มังฮวา” ชื่อดัง ที่มีการเขียนลงในเว็บโนเวล
กองทัพอากาศ แจงข่าวสวีเดนปฏิเสธขาย Gripen ให้ไทย เป็นเฟคนิวส์ฝั่งกัมพูชา
กองทัพอากาศ ยืนยัน ข่าวกรณี สื่อของกัมพูชารายงานอ้างว่า สวีเดนระงับการขายเครื่องบินขับไล่ Gripen เพิ่มเติม ให้กับไทยทั้งหมด “ข่าวบิดเบือนความจริง” โครงการดังกล่าว ยังคงอยู่ในระหว่างกระบวนการจัดซื้อ
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (1ส.ค.2025)
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (1ส.ค.2025)
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (30ก.ค.68) มีสัญญาณบวกเล็กน้อย
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (30ก.ค.68) มีสัญญาณบวกเล็กน้อย
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (31ก.ค.68) มีโอกาสดีดตัวระยะสั้น
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (31ก.ค.68) มีโอกาสดีดตัวระยะสั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
