วันศุกร์, ธันวาคม 19, 2568

เทคโนโลยีปลูกมะพร้าวน้ำหอมบนพื้นที่ดินเค็ม ได้ผลผลิตคุณภาพดี รสหอมหวาน

by Trust News, 27 มีนาคม 2568

กรมวิชาการเกษตร ปลื้มเทคโนโลยีปลูกมะพร้าวน้ำหอมในพื้นที่ดินเค็ม โดยทดลองใช้พันธุ์ก้นจีบ จากนย์วิจัยพืชสวนชุมพร พบว่าให้ผลผลิตคุณภาพรสชาติหอมหวาน ทำให้ใช้ประโยชน์พื้นที่ดินเค็มมาปลูกพืชเศรษฐกิจสร้างรายได้ได้

กรมวิชาการเกษตรได้ดำเนินโครงการศูนย์เรียนรู้การผลิตพืชตามแนวพระราชดำริทฤษฎีใหม่ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเริ่มดำเนินงาน มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2552 เพื่อเผยแพร่หลักการทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริ และเป็น ศูนย์ต้นแบบเทคโนโลยีของกรมวิชาการเกษตร ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของเกษตรกรและผู้ที่สนใจทั่วไป โดยพื้นที่ดำเนินโครงการศูนย์เรียนรู้การผลิตพืชตามแนวพระราชดำริฯ นี้ เริ่มต้นจากพื้นที่ประสบปัญหาดินเค็มทั้งหมดจำนวน 14 ไร่ ระดับความเค็มของดินในพื้นที่อยู่ในช่วง “เค็มน้อยถึงเค็มมาก”

โดยปัญหาดินเค็มส่งผลกระทบต่อ การเพาะปลูกพืชทั่วไปอย่างรุนแรง และการแก้ไขปัญหาดินเค็มยังต้องใช้ต้นทุนสูง อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาดินเค็มสามารถทำได้หลายวิธี แต่วิธีการหนึ่งที่ไม่ยุ่งยากและลงทุนต่ำ คือ การปลูกพืชทนเค็มจัด หรือ พืชชอบเกลือที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ดินเค็มให้เกิดศักยภาพในการผลิตพืชได้อีกด้วย

นายขจรวิทย์ พันธุ์ยางน้อย ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 4 จังหวัดอุบลราชธานีกล่าวว่า เนื่องจากความเค็มของดินทำให้ไม่สามารถปลูกพืชทั่วไปได้ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโนนสูง จึงได้คัดเลือกพืชที่เหมาะสมกับดินเค็ม จากการศึกษาพบว่า มะพร้าวน้ำหอม เป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตและให้ผลผลิตที่ดีในพื้นที่ดินเค็ม จึงได้นำพันธุ์มะพร้าวน้ำหอม “ก้นจีบ” จากศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพรมาทดลองปลูกในพื้นที่โครงการศูนย์เรียนรู้ฯ ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากมะพร้าวน้ำหอมไม่เพียงสามารถตอบสนองต่อดินเค็มได้ดี แต่ยังให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ รสชาติหอมหวานกว่าการปลูกในพื้นที่ปกติ วัดค่าความหวานได้เฉลี่ย 7.5-9 องศาบริกซ์

ผอ.สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 4 จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวต่อว่า สาเหตุอาจมาจากพืชที่ทนเค็ม จะหลีกเลี่ยงการดึงโซเดียมไปใช้ ทำให้ดึงโพแทสเซียมไปใช้ได้มากขึ้น โดยประโยชน์ของโพแทสเซียม จะช่วยสังเคราะห์น้ำตาล แป้ง และโปรตีน ส่งเสริมการเคลื่อนย้ายของน้ำตาลจากใบไปยังผล ในขณะที่บางพื้นที่มีการปลูกมะพร้าวน้ำหอม เกษตรกรจะโรยเกลือบริเวณรอบ ๆ โคนต้นเพื่อเพิ่มความหวาน อีกทั้งในเทคโนโลยีการผลิตมะพร้าวน้ำหอม ของกรมวิชาการเกษตรแนะนำให้ใส่ปุ๋ย 13-13-21 ร่วมกับ แมกนีเซียมซัลเฟต จะเห็นว่าการผลิตมะพร้าวน้ำหอมนั้นเกลือมีส่วนสำคัญอย่างมาก ซึ่งในลักษณะของพื้นที่ดินเค็มอาจไม่จำเป็นต้องโรยเกลือ หรือใส่แมกนีเซียมซัลเฟต เนื่องจากในลักษณะดินเค็ม จะมีแมกนีเซียมอยู่ในรูปของซัลเฟตเป็นองค์ประกอบอยู่แล้ว

นายขจรวิทย์  กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโนนสูง ได้ศึกษาวิจัยการจัดการปุ๋ยที่เหมาะสมกับการผลิตมะพร้าวน้ำหอมระยะก่อนให้ผลผลิต และระยะให้ผลผลิตในดินเค็มน้อย-ปานกลาง โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของกรมวิชาการเกษตร พบว่าการใส่ปุ๋ยมะพร้าวน้ำหอมตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตรร่วมกับแมกนีเซียมซัลเฟต ให้ผลผลิตและองค์ประกอบผลผลิต เช่น ลักษณะเนื้อความหวาน ขนาดผล ไม่แตกต่างจากการไม่ใส่แมกนีเซียมซัลเฟต ดังนั้นการจัดการปุ๋ยมะพร้าวในพื้นที่ดินเค็มที่เหมาะสม คือ การใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำกรมวิชาการเกษตร แต่ไม่ใส่แมกนีเซียมซัลเฟตก็ได้ อีกทั้งในระหว่างดำเนินการทดลอง ได้เพิ่มเติมการถ่ายทอดเทคโนโลยีการจัดการศัตรูมะพร้าวน้ำหอมแบบผสมผสาน คือ หนอนหัวดำมะพร้าว โดยการใช้ชีวภัณฑ์บีทีร่วมกับสารเคมี พบว่าสามารถป้องกันกำจัดศัตรูมะพร้าวน้ำหอมได้

สำหรับแนวทาง การใส่ปุ๋ยสำหรับมะพร้าวน้ำหอม เพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร คือ ปีที่ 1 ช่วง 4 เดือนแรกหลังปลูก: เริ่มให้ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21 อัตรา 1 กิโลกรัม/ต้น ครั้งที่ 2 ใส่ปุ๋ยสูตรเดียวกันในอัตราเดิม ช่วงปลายฤดูฝน ปีที่ 2 ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21 อัตรา 2 กิโลกรัม/ต้น/ปี เพิ่มโดโลไมท์ อัตรา 1 กิโลกรัม/ต้น/ปี แบ่งใส่ปุ๋ยเป็น 2 ครั้งต่อปี ต้นฤดูฝนและปลายฤดูฝน ปีที่ 3 ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21 อัตรา 3 กิโลกรัม/ต้น/ปี เพิ่มโดโลไมท์ อัตรา 2 กิโลกรัม/ต้น/ปี แบ่งใส่ปุ๋ยเป็น 2 ครั้ง/ปี

ต้นฤดูฝนและปลายฤดูฝน ปีที่ 4 ขึ้นไป ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21 อัตรา 4 กิโลกรัม/ต้น/ปี ใช้ โดโลไมท์ อัตรา 2 กิโลกรัม/ต้น/ปี แบ่งใส่ปุ๋ยเป็น 2 ครั้ง/ปี ต้นฤดูฝนและปลายฤดูฝน วิธีการใส่ปุ๋ยให้หว่านปุ๋ย รอบบริเวณทรงพุ่มของต้นมะพร้าวพรวนดินตื้น ๆ เพื่อช่วยให้ปุ๋ยซึมลงในดิน กลบปุ๋ยให้ทั่วบริเวณทรงพุ่ม

"โครงการศูนย์เรียนรู้การผลิตพืชตามแนวพระราชดำริทฤษฎีใหม่ จังหวัดนครราชสีมา ได้พิสูจน์ให้เห็นว่ามะพร้าวน้ำหอมเป็นพืชที่มีศักยภาพสูงในการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรที่ประสบปัญหา
ในพื้นที่ดินเค็ม หากเกษตรกรประสบปัญหาการปลูกพืชในพื้นที่ดินเค็มสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา โทรศัพท์ 0-4437-9390" นายขจรวิทย์ กล่าว.

 


You might be intertested in this news.

Mostview

ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น

ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ

6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)

6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)

TrustNEws Line