วันอังคาร, มิถุนายน 17, 2568

แอร์บัส หวังไทยพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตเชื้อเพลิง SAF รองรับธุรกิจการบินในอนาคต

by Trust News, 22 เมษายน 2568

แอร์บัส คาดไทยมีศักยภาพผลิตเชื้อเพลิง SAF ได้กว่า 5 ล้านตันต่อปี เท่ากับเชื้อเพลิงเครื่องบินรวมในไทยเมื่อปี 62 โดยการพัฒนาอุตสาหกรรม SAF ในขนาดใหญ่ จะช่วยด้านความมั่นคงทางพลังงาน ผลิตส่งออก และสนับสนุนให้เกษตรกรลดการเผาที่สร้างมลพิษ

จูลี่ คิทเชอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความยั่งยืน บริษัทแอร์บัส กล่าวว่า การบิน คือ พลังขับเคลื่อนที่สำคัญของโลกอุตสาหกรรม ขับเคลื่อน 1 ใน 3 ของมูลค่าการค้าทั่วโลก และสนับสนุนการจ้างงานกว่า 86.5 ล้านตำแหน่งทั่วโลก อีกทั้งเชื่อมโยงผู้คนจากหลากหลายพรมแดนและวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน โดยเมื่อปีที่ผ่านมามีผู้โดยสารทางอากาศทั่วโลกมากถึง 5 พันล้านคน เฉพาะในประเทศไทย อุตสาหกรรมการบินมีการจ้างงานถึงราวๆ 133,500 คน และก่อนช่วงยุคโควิด-19 ระบาด อุตสาหกรรมนี้มีสัดส่วนมากกว่า 7% ของ GDP ประเทศ

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทย มากกว่า 80% เดินทางมาโดยทางอากาศ สำหรับการเดินทางในระยะทางที่ห่างไกล ซึ่งมักจะต้องเดินทางข้ามทวีปและมหาสมุทร หลายครั้งการเดินทางทางอากาศจึงเป็นทางเดียวที่มีความเป็นไปได้ และเหมาะสมที่สุดในภูมิภาคนี้ ดังนั้น การบินมีความสำคัญต่อชุมชนและผู้คนในภูมิภาคนี้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการลดการปล่อยคาร์บอนจากการบินจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เราส่งต่อการเดินทางทางอากาศที่เปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้กับคนรุ่นต่อไปได้ เหมือนที่เรากำลังทำในปี 2568 ที่อุตสาหกรรมอากาศยานยังคงเป็นพลังเชิงบวกในวันนี้ โดยมั่นใจได้ว่าจะไม่สร้างภาระให้กับคนรุ่นหลัง

ภาวะโลกร้อน และสภาพอากาศแปรปรวนคือตัวเร่ง

ปี 2567 เป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ของโลก และยังเป็นปีแรกที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกทั้งปีสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียสนับตั้งแต่ก่อนยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นเพดานระดับอุณหภูมิที่กำหนดไว้ในข้อตกลงปารีส บางส่วนของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้กำลังเผชิญกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างชัดเจนแล้ว

ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความยั่งยืน บริษัทแอร์บัส กล่าวว่า ช่วงนี้มักจะถูกถามอยู่บ่อยครั้งว่า แอร์บัสจะลดความมุ่งมั่นที่มีต่อเรื่องการลดการปล่อยคาร์บอนลงหรือไม่ โดยคำถามนี้เกิดจากการที่หลายรัฐบาลและหลายบริษัทดูเหมือนจะเปลี่ยนทิศทางในด้านนี้เมื่อเร็ว ๆ นี้ ส่วนตัวขอยืนยันว่า แอร์บัสจะไม่ละทิ้งพันธกิจด้านความยั่งยืนแน่นอน  และจะเดินหน้าอย่างมั่นคงเช่นเดิม ความมุ่งมั่นของแอร์บัส ในเรืองความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญ สำหรับเป้าหมายที่จะการบุกเบิกอุตสาหกรรมการบินและอวกาศที่ยั่งยืน เพื่อโลกที่ปลอดภัยและเป็นหนึ่งเดียวกัน

เราทราบดีว่าการบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) ในอุตสาหกรรมนี้ เป็นเรื่องที่มีความท้าทายเป็นอย่างยิ่ง เรายังไม่มีคำตอบทั้งหมดสำหรับทุกคำถาม และเราไม่สามารถทำสิ่งนี้ได้เพียงลำพัง ทำให้จำเป็นต้องสร้างความร่วมมือในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero ส่วนตัวจึงรู้สึกยินดีมากที่ได้เห็นว่า พันธมิตรของเราในไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ก็มีความเชื่อมั่นเช่นเดียวกันกับแอร์บัส ในฐานะประธานคณะทำงานด้านการขนส่งทางอากาศของอาเซียน ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการลดคาร์บอนในอุตสาหกรรมการบินของภูมิภาคนี้

การเดินหน้าลดการปล่อยคาร์บอนของอุตสาหกรรมอากาศยาน

การใช้เครื่องบินที่มีประสิทธิภาพ ในการประหยัดเชื้อเพลิง การปรับปรุงการจัดการการจราจรทางอากาศ และการดำเนินงาน และ เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuels : SAF)  จะร่วมกันช่วยลดการปล่อยคาร์บอนส่วนใหญ่ก่อนจะถึงปี 2593 อย่างไรก็ตาม จะยังคงมีการปล่อยคาร์บอนที่เรียกว่า “การปล่อยคาร์บอนส่วนที่เหลือ” (Residual Emissions‎) ในปี พ.ศ. 2593 วิธีการกำจัดคาร์บอน (Carbon Removal‎) จึงเข้ามามีบทบาทจัดการส่วนที่เหลือนี้ มีวิธีธรรมชาติในการกำจัดคาร์บอนจากชั้นบรรยากาศ เช่น การปลูกป่า ประเทศไทยไม่เพียงแต่ได้ให้คำมั่นที่จะหยุดการตัดไม้ทำลายป่า แต่ยังส่งเสริมการปลูกป่าขึ้นใหม่ เพื่อทดแทนเป็นวิธีหนึ่งในการสร้างเครดิตคาร์บอน

นวัตกรรมทางเทคโนโลยียังมีวิธีอื่นในการกำจัดคาร์บอนจากชั้นบรรยากาศ เช่น เทคโนโลยี Direct Air Capture ซึ่งสามารถดักจับก๊าซ CO2 ได้โดยตรงจากชั้นบรรยากาศและกักเก็บไว้ใต้ดินได้อย่างปลอดภัย ขณะที่แผนระยะยาวช่วงครึ่งหลังของศตวรรษนี้ ไฮโดรเจนจะเข้ามามีบทบาทร่วมกับ SAF ในการเป็นเชื้อเพลิงการบินคาร์บอนต่ำสำหรับอนาคต

เครื่องบินยุคใหม่นี้ ต้องลดปล่อยคาร์บอน เป็นมิตรต่อโลก

การเน้นที่ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง  เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากต่อความสามารถการแข่งขันของธุรกิจ ด้วยเหตุผลที่เรียบง่ายว่า เครื่องบินที่ใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นทำให้สายการบินต่าง ๆ ซึ่งก็คือลูกค้าของเรา มีความสามารถในการแข่งขันมากยิ่งขึ้น สายการบินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้นกำลังทดแทนเครื่องบินเก่า ด้วยเครื่องบินรุ่นใหม่เหล่านี้ เราได้กำลังวางรากฐานหรือวาง ‘ก้อนอิฐ’ ก้อนแรกในทางด้านเทคโนโลยี เพื่อสร้างเครื่องบินอากาศยานแห่งอนาคต

ขณะนี้ วิศวกรของเราได้กำลังวางรากฐานทางเทคโนโลยีสำหรับเครื่องบินทางเดินเดียวรุ่นใหม่ ที่เราคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษ 2570 เราเชื่อว่าเครื่องบินรุ่นใหม่นี้จะมาพร้อมกับปีกที่ออกแบบใหม่ตามหลักอากาศพลศาสตร์ ให้ยาวขึ้น บางลง และเบากว่าในทุกรุ่นที่มีมา เพื่อให้บินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อาจจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ที่เรียกว่า “open fan” ซึ่งสามารถมองเห็นใบพัดที่หมุนอยู่ได้ชัดเจน ต่างจากเครื่องบินในปัจจุบันที่ใบพัดเหล่านี้จะถูกหุ้มไว้ภายในโครงครอบของเครื่องยนต์ แอร์บัสกำลังทำงานร่วมกับ CFM ผู้ผลิตเครื่องยนต์ที่เป็นพันธมิตรของเรา เพื่อทดสอบเทคโนโลยีเครื่องยนต์ใหม่นี้บนเครื่องบินต้นแบบภายในช่วงปลายทศวรรษ 2570 นี้

เครื่องบินทางเดินเดี่ยวรุ่นใหม่นี้จะสามารถใช้เชื้อเพลิง SAF เพียงอย่างเดียวในการขับเคลื่อนได้ด้วย และนั่นจะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษ โดยมีประสิทธิภาพสูงกว่าเครื่องบินรุ่นที่ล้ำหน้าที่สุดในปัจจุบันถึง 20-30%

"ไฮโดรเจน" พลังงานแห่งอนาคต  

แอร์บัส เชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า อากาศยานที่ใช้เชื้อเพลิงฮโดรเจน จะเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการลดคาร์บอนภาคการบินในอนาคต "ไฮโดรเจน" ถือเป็นหนึ่งในพลังงานทางเลือกที่มีศักยภาพสูงที่สุดในการขับเคลื่อนเครื่องบินแบบปล่อยมลพิษต่ำ เพราะหากผลิตจากพลังงานหมุนเวียนแล้ว ไฮโดรเจนจะไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเลย เมื่อไม่นานมานี้ เราได้เลื่อนแผนการเปิดตัวเครื่องบินที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนลำแรกออกไปจากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ในปี พ.ศ. 2578 โดยเราได้เริ่มต้นโครงการนี้ในปี พ.ศ. 2563 และเมื่อมองย้อนกลับไป เราอาจประเมินสถานการณ์ในแง่ดีเกินไปและเชื่อว่าจะทำให้เครื่องบินแบบนี้เกิดขึ้นได้ทันในปี พ.ศ. 2578

ความท้าทายสำคัญในขณะนี้ คือ โครงสร้างพื้นฐานด้านการผลิตและการกระจายไฮโดรเจนในระดับโลกยังไม่สามารถขับเคลื่อนได้อย่างเต็มที่ แม้ว่าโครงการผลิตไฮโดรเจนจากพลังงานหมุนเวียนจะอยู่ระหว่างการพัฒนาในหลายพื้นที่ทั่วโลก แต่ก็ยังคงเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายหลายประการ ดังนั้นปริมาณไฮโดรเจนอาจยังมีไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานจริงในปี 2578 ได้

ตั้งแต่ปี 2563 แอร์บัสได้เรียนรู้หลายบทเรียนสำคัญ ทีมงานของเราได้พัฒนาความรู้แบบเจาะลึกและความเข้าใจในเทคโนโลยีไฮโดรเจน อันที่จริงแล้ว ตอนนี้เราพร้อมที่จะเริ่มดำเนินการตามแผนการสร้างเครื่องบินรุ่นนี้แล้ว โดยเราได้แก้ไขปัญหาที่อาจจะเป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดในขั้นเริ่มต้นของการพัฒนาเครื่องบินชนิดนี้ ซึ่งก็คือการเลือกเทคโนโลยีที่จะใช้ในการขับเคลื่อนเครื่องบิน หลังจากที่สำรวจตัวเลือกหลาย ๆ แบบ เราได้เลือกระบบขับเคลื่อนด้วยใบพัดที่ใช้พลังงานจากเซลล์เชื้อเพลิงไฟฟ้า และขอให้มั่นใจได้ว่า งานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีไฮโดรเจนของเราจะยังคงดำเนินต่อไป

ดังนั้น เครื่องบินรุ่นใหม่ของแอร์บัสที่มีอยู่ในปัจจุบัน กำลังก่อให้เกิดความก้าวหน้าครั้งสำคัญในด้านประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง เครื่องบินในอนาคตในช่วงปลายทศวรรษ หรือ ปี 2573 จะเป็นเครื่องบินทางเดินเดี่ยวที่มีประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงสูงรุ่นใหม่ และเครื่องบินในอนาคตอันใกล้นี้จะเป็นเครื่องบินโดยสารที่ขับเคลื่อนด้วยไฮโดรเจน นี่คือการคาดการณ์วิวัฒนาการของฝูงบินในอนาคตของเรา

SAF มันคือเชื้อเพลิงแบบใด

เชื้อเพลิง SAF คือ อะไรหลายคนอาจจะยังสงสัย พูดกันแต่ SAF จริงๆ แล้วมัน คือ เชื้อเพลิงอากาศยานที่มีการผสมระหว่างเชื้อเพลิงเครื่องบิน และ น้ำมันพืชที่ทิ้งแล้ว เช่น น้ำมันทำอาหารที่ใช้แล้ว และเศษชีวมวลต่าง ๆ เช่น เศษซากจากพืชผลทางการเกษตร ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตอาหาร สิ่งสำคัญ คือ เชื้อเพลิงเหล่านี้จะต้องได้รับการรับรองว่ามีความยั่งยืนโดย CORSIA ซึ่งเป็นโครงการชดเชยคาร์บอนในระดับนานาชาติ

เชื้อเพลิง SAF สามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้โดยเฉลี่ย 80% ตลอดวงจรชีวิตของเชื้อเพลิง นับตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการใช้งาน ปัจจุบัน SAF สามารถใช้ขับเคลื่อนเครื่องบินแอร์บัสได้โดยผสมกับน้ำมันก๊าดในสัดส่วน 50% เรากำลังดำเนินงานเพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องบินของเราจะสามารถบินด้วย SAF ได้สูงสุดถึง 100% ภายในปี 2573 ปัจจุบัน SAF ยังคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 1% ของเชื้อเพลิงการบินที่ใช้ทั่วโลก หากต้องการก้าวไปสู่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2593 เราจำเป็นต้องเพิ่มสัดส่วนดังกล่าวให้ได้อย่างน้อย 6% ภายในปี 2573 และสูงถึง 20% ภายในปี 2578

SAF ในประเทศไทย

ประเทศไทยมีภาคพลังงานที่ประสบความสำเร็จและมีความมั่นคง ครอบคลุมทั้งพลังงานหมุนเวียน รวมไปถึงน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ด้วยภาคเกษตรกรรมที่แข็งแกร่งประเทศไทยจึงมีศักยภาพอย่างยิ่งในการเป็นผู้ผลิต SAF โดยสามารถใช้วัตถุดิบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกากน้ำตาล เศษวัสดุทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว แกลบ ซังและใบข้าวโพด ตลอดจนมูลสัตว์ ขณะนี้ได้มีโครงการหลายแห่งที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อผลิต SAF จากน้ำมันพืชใช้แล้ว ตัวอย่างเช่นโครงการที่ทางบางจากได้ประกาศไว้ และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล ได้เริ่มการเริ่มต้นการผลิต SAF โดยกระบวนการกลั่นร่วม ‎

หากมองไปในอนาคต เทคโนโลยีการผลิตเชื้อเพลิงอากาศจากแอลกอฮอล์ หรือ เอทานอล (Alcohol-to-Jet Fuel) ก็นับว่ามีศักยภาพสูงในประเทศไทยเช่นกัน ยุทธศาสตร์ในการเพิ่มจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าบนถนนในประเทศไทย จะช่วยลดความต้องการใช้เอทานอลในภาคการขนส่งทางถนน ซึ่งทำให้มีเอทานอลส่วนเกินมาใช้สำหรับ SAF มากขึ้น

น่ายินดีที่ได้เห็นอุตสาหกรรมเอทานอลของประเทศไทย พิจารณาถึงการผลิต SAF ยิ่งไปกว่านั้น การได้เห็นแนวทางความร่วมมือในอุตสาหกรรมเช่นนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก เพราะแนวคิดลักษณะนี้จะมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาและการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลต่าง ๆ เช่น ข้อมูลการประเมินวัฏจักรชีวิต (Life Cycle Assessment) สำหรับวัตถุดิบใหม่ ๆ ทางแอร์บัสมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่จะได้ทำงานร่วมกับทางรัฐบาลและผู้ผลิต SAF ในประเทศไทย เพื่อช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมนี้อย่างยั่งยืน

ความท้าทายของไทย ในอุตสาหกรรมเชื้อเพลิง SAF

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มีความท้าทายที่สำคัญ 2 ประการ ประการแรก คือการสนับสนุนเทคโนโลยี SAF ใหม่ๆ ให้สามารถก้าวผ่านช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาไปได้ ซึ่งเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดทั้งในด้านเทคโนโลยีและด้านการลงทุน แอร์บัสยังคงมุ่งมั่นในการสนับสนุนโครงการ SAF ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงในประเทศไทยด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น เมื่อปีที่ผ่านมา เราได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ เพื่อร่วมกันศึกษาศักยภาพในการผลิต SAF จากเศษวัสดุของเหลือทางการเกษตร และเราก็พร้อมที่จะมีส่วนร่วมในการผลักดันให้วัตถุดิบชนิดอื่น ๆ สามารถนำมาใช้ในการผลิต SAF ในประเทศไทยเช่นกัน

เรื่องนี้นำไปสู่ความท้าทายประการที่สองของอุตสาหกรรม SAF ในประเทศไทย นั่นคือ การศึกษาทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับวัตถุดิบหลากหลายประเภทที่มีอยู่ในประเทศ ทั้งในแง่ปริมาณ คุณภาพ และความยั่งยืนในระยะยาว เราทุกคนคงเคยได้ยินตัวเลขซึ่งแสดงถึงศักยภาพของ SAF มาแล้วมากมาย สิ่งที่แอร์บัสได้เรียนรู้คือ การเข้าใจเพียงด้านศักยภาพในการผลิตของวัตถุดิบแต่ละประเภทนั้นยังไม่เพียงพอ เรายังจำเป็นต้องเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งของวัตถุดิบ ความสามารถในการจัดหา รวมไปถึงต้นทุนในการจัดเก็บและขนส่งด้วย ประเทศไทยได้เริ่มต้นก้าวสำคัญในเรื่องนี้แล้ว โดยได้รวบรวมข้อมูลและแผนที่แหล่งวัตถุดิบในประเทศอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องมีการพัฒนาต่อไป โดยผู้กำหนดนโยบายจะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการผลักดันและพัฒนาอุตสาหกรรม SAF ของประเทศไทยให้เติบโตอย่างเป็นรูปธรรม ความสำเร็จของอุตสาหกรรมนี้จะต้องอาศัยการประสานงานในระดับสูง ระหว่างทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับการกำหนดวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ส่วนตัวรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นผู้กำหนดนโยบายจำนวนมากมาร่วมงานในวันนี้ และได้ทราบถึงการหารือที่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับ SAF ในประเทศไทย ทั้งนี้ิ การเผยแพร่แผนกลยุทธ์ SAF ระดับชาติอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการกำหนดเป้าหมายการผสม SAF จำนวน 1% ภายในปี 2569 จะสร้างความชัดเจนที่จำเป็นสำหรับผู้ผลิตและนักลงทุนที่มีศักยภาพ

"ดิฉันมีความเชื่อมั่นอย่างมากต่อแนวโน้มของประเทศไทยในฐานะผู้ผลิต SAF ส่วนตัวต้องขอขอบคุณรัฐบาลไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยที่ได้ร่วมกันสร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่อุตสาหกรรม SAF ในประเทศ โดยประเทศไทยมีความได้เปรียบจากการมีวัตถุดิบสำหรับการผลิต SAF จำนวนมาก และมีวิสัยทัศน์ระยะยาวที่ชัดเจน ดิฉันมีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศไทยสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิต SAF ให้กับโลกได้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมมือกับภาครัฐ ผู้ผลิต และสายการบินต่าง ๆ ในประเทศไทย เพื่อร่วมกันสร้างอุตสาหกรรม SAF ให้ประสบความสำเร็จและยั่งยืนต่อไปในอนาคตสำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป" ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความยั่งยืน บริษัทแอร์บัส กล่าว


You might be intertested in this news.

Mostview

โบอิ้ง 787 แอร์อินเดียแจ้ง "MAYDAY" ก่อนเครื่องตกใส่เขตชุมชนพร้อม 242 ชีวิต

เครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ส ของแอร์อินเดีย เที่ยวบิน AI 171 เส้นทางอาเมดาบัด-ลอนดอน แกตวิค ตกกระแทกพื้นกลางย่านชุมชน หลังเพิ่งออกจากสนามบินพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 242 คนบนเครื่อง ทั้งนี้ มีรายงานว่านักบินแจ้งฉุกเฉิน เมย์เดย์ ก่อนร่วงพื้น

พร้อมตั้งแต่เมื่อวาน ทอ.โชว์ติดระเบิดนำวิถี KGGB เขี้ยวเล็บ เอฟ-16 ฝูง 103 โคราช

กองทัพอากาศไทย เผย วิดีโอคลิปบนเฟซบุ๊ก โชว์การติดตั้งอาวุธให้กับเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 ฝูงบิน 103 นครราชสีมา ทั้งการโหลดกระสุนขนาด 20 มม.การติดตั้งมิสไซล์นำวิถีไซด์วายเดอร์ และ อาวุธใหม่ ระเบิดร่อนนำวิถีด้วย GPS แบบ KGGB ที่ซื้อจากเกาหลีใต้

เครื่องบิน 787 แอร์อินเดียตกทับหอพักแพทย์ พบร่างแล้ว 204 ศพ มีรอดชีวิต 1 ราย

ความคืบหน้าเหตุ โบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์สของแอร์อินเดีย เที่ยวบิน AI 171 เส้นทางอาเมดาบัด-ลอนดอน แกตวิค พร้อมคนบนเครื่อง 242 ชีวิตตกที่เมืองอาเมดาบัด โดยซากเครื่องทับหอพัก นศ.แพทย์ ล่าสุด พบผู้โดยสารรอดชีวิต 1 รายเป็นชายวัย 38 ปี ขณะที่พบศพแล้ว 204 ศพ

ย้อนรอย จลาจลเผาสถานทูตไทย บทเรียนข่าวเท็จ กัมพูชา (2546)

ย้อนรอยเหตุเผาสถานทูตไทยในกัมพูชา จากน้ำผึ้งหยดเดียว ปล่อยข่าวคลั่งชาติ กล่าวหา “กบ สุวนันท์” หมิ่นกัมพูชา ลุกลามลามบานปลาย ก่อเหตุจลาจล คนไทยถูกล่า เอาชีวิต ผู้หญิงถูกล่า ลากจะขืนใจ สุดท้าย หาคนเบื้องหลังไม่ได้ ลงโทษผู้ก่อเหตุเบาหวิว แต่ต้องชดใช้มากกว่า

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (17มิ.ย.68) ทยอยซื้อสะสม

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (17มิ.ย.68) ทยอยซื้อสะสม

TrustNEws Line