แนวโน้มSETวันนี้ (3พ.ย.68) ไซด์เวย์ รอปัจจัยใหม่
by Trust News, 3 พฤศจิกายน 2568
แนวโน้มSETวันนี้ (3พ.ย.68) ไซด์เวย์ รอปัจจัยใหม่
คาดตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์รอเบรก นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิเล็กน้อย ตลาดติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล โครงการการแก้หนี้ประชาชนที่จะเข้า ครม. เศรษฐกิจในวันนี้
ส่วนปัจจัยภายนอกสัปดาห์นี้ ตลาดติดตามตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯ ที่สำคัญ เช่น JOLTs, ADP Employment, NFPs ที่มีผลต่อทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ทางเทคนิค ตลาดแกว่งตัวในกรอบรอการเบรก กรอบล่างอยู่ที่ 1305-1300 ไม่ควรหลุดต่ำกว่า ส่วนกรอบบนอยู่ที่ 1320-1323 ยืนเหนือได้จึงจะขึ้นรอบใหม่
ประเด็นสำคัญ :
1. รมว. คลัง จะเสนอโครงการแก้ไขปัญหาหนี้เสียประชาชนเข้าสู่ที่ประชุม ครม. เศรษฐกิจในวันนี้ โดยจะให้ AMC รับซื้อหนี้เสียไม่เกิน 1 แสนบาทต่อรายจาก Bank และ non-Bank ส่วนการจัดตั้ง JVAMC นั้นอยู่ในอำนาจของ ธปท. ซึ่งสามารถดำเนินการได้เลย
2. ธปท. เผย ศก. ไทยช่วง 3Q68 ชะลอลงจากไตรมาสก่อน จากการผลิตภาคอุตฯ และอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอตัว แต่เริ่มเห็นการฟื้นตัวใน ก.ย. 2568 และคาดจะฟื้นตัวต่อเนื่องใน 4Q68 ตามการฟื้นตัวของการผลิตภาคอุตฯ, การส่งออกสินค้าหมวดอิเล็กฯ, การท่องเที่ยว และอุปสงค์ในประเทศซึ่งมี Upside จาก “คนละครึ่งพลัส”
3. วันนี้รัฐบาลเริ่มโอนเงินช่วยเหลือสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐงวดแรกจำนวน 850 บาท เพิ่มเติมจากเดิมที่เคยได้รับ 300 บาท ตามมาตรการกระตุ้น ศก. ของรัฐบาล และจะโอนอีกครั้งในวันที่ 1 ธ.ค. นี้ ด้าน สศค. เผย “คนละครึ่งพลัส” มียอดใช้จ่ายในช่วง 3 วันแรก (29-31 ต.ค.) รวม 5.4 พันลบ. และมีผู้ใช้ 13.6 ล้านราย
4. ในที่ประชุม APEC ปธน. สี จิ้นผิง เสนอ 5 แนวทางสร้าง “ประชาคมเอเชียแปซิฟิก” ได้แก่ การปกป้องระบบการค้าเสรีพหุภาคี, การสร้างสภาพแวดล้อม ศก. ภูมิภาคแบบเปิด, การรักษาเสถียรภาพ Supply Chain, การผลักดันการค้าเชิงดิจิทัลและสีเขียว และการพัฒนาแบบครอบคลุมและยั่งยืน และได้ส่งสัญญาณว่าจีนจะเปิดประเทศมากขึ้น
5. OPEC+ มีมติเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบใน ธ.ค. 2568 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่เก้า อีก 137kBD และจะหยุดการเพิ่มการผลิตชั่วคราวใน 1Q69 ด้านซาอุฯ ส่งสัญญาณอาจลดราคาขายน้ำมันดิบ (OSP) สู่เอเชียใน ธ.ค. 2568 ลง US$1.20-1.50/bbl เป็นบวกต่อโรงกลั่นอย่าง TOP SPRC
กลยุทธ์การลงทุน :
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1280-1345 จุด ปัจจัยในประเทศติดตามการเข้าสู่ฤดูกาลประกาศงบ 3Q68 ของ บจ. กลุ่ม Real Sector หลังงบหุ้นธนาคารส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าตลาดคาด และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล อาทิ มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย โดยจะรับซื้อหนี้ที่ไม่มีหลักประกันและค้างชำระไม่เกิน 1 แสนบาทต่อราย
ขณะที่เงินเฟ้อไทย ต.ค. 2568 คาดติดลบต่ออย่างน้อย 0.5%YoY (จาก ก.ย. ที่ -0.7%YoY) ปัจจัยภายนอกที่ต้องติดตาม ได้แก่...
1) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น การจ้างงาน ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ และดุลการค้า ต.ค. 2568 หากออกมาแย่ ตลาดจะให้น้ำหนักเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงต่อใน ธ.ค. นี้
2) การประชุม BoE คาดมีมติคงดอกเบี้ยนโยบาย
3) งบ 3Q68 ของ บจ. ขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ที่คาดจะดีกว่าตลาดคาด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :
ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ ตลาดติดตามการรายงานผลประกอบการ 3Q68 กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีมหลักและ 4 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้...
1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาดผลการดำเนินงาน 3Q68 จะยังเติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY และเราแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดีและราคาหุ้นยังมี Upside ได้แก่ ADVANC BCP LHSC OR PTT TRUE
2. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งในช่วง 1H69 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลด หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น AP MTC TIDLOR รวมทั้งกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL
Trading Idea :
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ...
1) หุ้นที่มีแนวโน้มจะประกาศผลประกอบการ 3Q68 ออกมาดีกว่าตลาดคาด แนะนำ BCPG TU GFPT CPALL BGRIM
2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากทรัมป์และสีจิ้นผิงบรรลุข้อตกลงทางการค้าเบื้องต้นได้ แนะนำ IVL PTTGC SCC SCGP
3) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากรัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ แนะนำ กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW) จากมาตรการเที่ยวดีมีคืน, กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC TIDLOR) จากมาตรการพักหนี้และให้สินเชื่อรายย่อย และ 4) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากดอลลาร์อ่อนค่า (บาทแข็งค่า) แนะนำ กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC)
Daily Top Picks :
TRUE : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากกำไรที่มีโอกาสเร่งตัวขึ้น มองการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และ FBB และการประหยัดต้นทุนจากการประมูลคลื่นความถี่ตั้งแต่ ส.ค. 2568 จะทำให้กำไรปกติใน 3Q68 เติบโต YoY และ QoQ และแข็งแกร่งกว่า ADVANC เป้าหมายระยะสั้นที่ 11.80 บาท
KTB : มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากมีโอกาสจ่ายปันผลสูงขึ้น คาดเงินปันผลในปี 2568–2570 ราว 2.15–2.35 บาท/หุ้น หรือ Div. Yield ราว 7.9-8.6% และมี Upside จากโครงการซื้อหุ้นคืนและการลดประมาณการ Credit Cost ลง 5bps จากความเสี่ยงคุณภาพสินทรัพย์ที่ตํ่า ขณะที่มี Valuation ที่ไม่แพง เป้าหมายระยะสั้นที่ 28.50 บาท
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์
You might be intertested in this news.
Mostview
รีวิวหนัง Curious Tales of a Temple เรื่องพิศวงตำนานลึกลับ
Curious Tales of a Temple แอนิเมชั่น ตำนานเรื่องเล่าปรัมปรา ของ จีน ที่หยิบมา 5 เรื่อง มาเล่าเป็นตอนๆ ให้ดูกัน โดยการผลัดกันเล่า ระหว่าง คางคก เต่า และ ชายหนุ่ม ที่เผลอตกลงไปใน บ่อน้ำโบราณ ....
แนวโน้มราคาทองคำวันนี้(29ต.ค.68) ฟื้นตัวในกรอบจำกัด
แนวโน้มราคาทองคำวันนี้(29ต.ค.68) ฟื้นตัวในกรอบจำกัด
แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (30ต.ค.68) ฟื้นตัวในกรอบจำกัด
แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (30ต.ค.68) ฟื้นตัวในกรอบจำกัด
แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (27ต.ค.68) แกว่งตัวในกรอบแนวรับและแนวต้าน
แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (27ต.ค.68) แกว่งตัวในกรอบแนวรับและแนวต้าน
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (29ต.ค.2068)
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (29ต.ค.2068)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง