โดนแล้ว หมอเกศ ปม อ้างจบด็อกเตอร์ California University กกต. มีมติส่งศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เพราะอาจเข้าข่ายหลอกลวง หากผิด มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับ 20,000 ถึง 200,000 บาท ถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 20 ปี เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ ก่อนเขียนใบสมัคร เคยถาม กกต.แล้ว ว่ากรอกในข้อมูลได้หรือไม่...

สำหรับ วันนี้ 30 เมษายน ข่าวร้อนที่สุดหนีไม่พ้นเรื่อง “หมอเกศกมล” หรือ พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สมาชิกวุฒิสภาที่เคยชนะเลือกตั้ง สว. ด้วยคะแนนมากที่สุด

โดยวันนี้ ที่ ประชุม กกต. ได้มีการพิจารณาและมีมติให้ส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาตามมาตรา 62 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 เพื่อวินิจฉัยสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.

กรณีกระทำการหลอกลวงให้ผู้อื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถหรือชื่อเสียงเกียรติคุณตามมาตรา 77(4) จากเหตุแจ้งว่ามีคุณสมบัติ ดอกเตอร์ จาก California University ในการยื่นสมัคร สว. ตามที่สำนักงาน กกต.โดยคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน ได้เสนอรายงานผลการตรวจสอบพร้อมความเห็นว่า การจะใช้คำนำหน้าดอกเตอร์ จะต้องเป็นการไปเรียนจริง และเรียนจบได้วุฒิบัตรมาแล้ว

อีกทั้ง California University เป็นมหาวิทยาลัยที่ใช้วิธีให้ส่งรายงาน และการเทียบโอนเกรด ซึ่งยังไม่ได้มีการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในไทย

โดยจุด เริ่มต้นคดีนี้หลังมีผู้ยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบ กกต.มีมติสั่งรับเป็นสำนวนเมื่อ 5 ก.ค. 67
จากนั้นได้มีการสืบสวนไต่สวนและนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม กกต.ครั้งแรก เมื่อ 31 ต.ค. 67
และอีกครั้งในวันที่ 5 พ.ย. 67 แต่ กกต.เห็นว่าข้อมูลยังไม่ครบถ้วน จึงให้สำนักงานไปดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมก่อนที่ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.จะให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่าจะพิจารณาคดีนี้ให้แล้วเสร็จภายในเดือนนี้

สำหรับ มาตรา 77(4) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 กำหนดว่า ผู้ใดกระทำการหลอกลวง บังคับขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคามใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณของผู้สมัครใด เพื่อให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปีปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
ซึ่งหากศาลฎีกาประทับรับฟ้อง พญ.เกศกมล จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ สว.ไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา

นอกจากนี้ พญ.เกศกมล ยังถูกร้องในเรื่องของฮั้วเลือก สว. ซึ่ง กกต. ยังไม่ได้พิจารณา
คาดว่าจะถูกรวมพิจารณากับกรณีที่ กกต. มีการตั้งคณะกรรมการร่วมกับเจ้าหน้าที่ DSI สอบกระบวนการฮั้วเลือก สว.ทั้งหมด 

อย่างไรก็ตาม วันนี้ หมอเกศ มีวาระต้องเข้าร่วมประชุม คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา ด้วย แต่หมอเกศแจ้งขอลาประชุม และผู้สื่อข่าวหลายสำนักพยายามติดต่อ ก็ไม่สามารถติดต่อได้

รู้จัก รศ.ดร.พญ.เกศกมล  ผู้ชนะเลือกตั้ง สว. อันดับ 1 กับวุฒิด็อกเตอร์ ที่ไม่ถูกยอมรับ

รศ.ดร.พญ.เกศกมล  หรือ “หมอเกศ” ปัจจุบันเธออายุ 45 ปี มีอาชีพเป็นแพทย์หญิง นักธุรกิจ และสมาชิกวุฒิสภาที่ได้รับคะแนนเลือกตั้งสูงสุดทั่วประเทศในการเลือกตั้ง ส.ว. ปี 2567

หมอเกศ เคยโฉบเฉี่ยวในวงการทีวี โดยการทำหน้าที่พิธีกรรายการเกี่ยวกับความงาม ซึ่งตรงกับ ตำแหน่งในปัจจุบัน ที่เธอเป็นผู้บริหารคลินิกเสริมความงามหลายแห่ง

หมอเกศ เคยให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ว่า หมอไม่ได้ตำแหน่งศาสตราจารย์จากเมืองไทย เป็นตำแหน่งวิชาการของต่างประเทศ โดยไม่ได้มีเจตนาที่จะมาบอกว่า “ตัวเองได้ตำแหน่งศาสตราจารย์ที่ได้รับการโปรดเกล้า” ทุกครั้งทีบอกกับทุกคน จะบอกเสมอว่าเป็นวุฒิจากต่างประเทศ​

โดยตำแหนงศาสตราจารย์ นั้น เราได้ใบรับรองจาก มหาวิทยาลัย แคลิฟอร์เนีย และ ก.ศึกษาของสหรัฐฯ และ กระทรวงการต่างประเทศ ในกฎหมายระหว่างประเทศ เราสามารถใช้คำว่า ศาสตรจารย์ได้ แต่ต้องบอกว่า จบจากที่ไหน เราไม่อาจเอื้อมใช้ ศาสตรจารย์ ที่มาจากการโปรดเกล้า 

ส่วนประเด็น คำนำหน้า “แพทยหญิง” หมอเกศ ยืนยันว่าเธอจบปริญญาตรี สาขาแพทย์ทั่วไป ที่มหาวิทยลัยรังสิต และจบ ปริญญาโท ศิลปศาสตร์ สาขาบริหารและจัดการองค์การ ม.เกริก

ทั้งหมด หมอเกศ ได้ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ 11 กรกฎาคม 2567