กองทัพภาคที่ 2 รายงานตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้าวันที่ 10 ธ.ค.68 เกิดเหตุปะทะขึ้น โดยฝ่ายทหารกัมพูชาได้ใช้อาวุธยิงสนับสนุนทั้งปืนใหญ่ เครื่องยิงลูกระเบิด จรวด และโดรนโจมตีฐานทหารไทยทั้งช่องบก ช่องอานม้า ช่องสะงำ ปราสาทคนา ปราสาทตาเมือง ปราสาทตาควาย
อัปเดทสู้รบไทยกัมพูชา เข้าสู่วันที่ 4 ทหารไทยพลีชีพเพิ่ม 2 นาย รวม 9 นาย และบาดเจ็บกว่า 120 นาย ...
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 รายงานสถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ จ.สระแก้ว ยังมีการปะทะรวม 5 แนวรบ ขณะที่บ้านหนองจาน กกล.บูรพา ประสาน ทอ.ส่งเอฟ-16 ทิ้งระเบิดถล่มฐานที่ตั้งทางทหารที่อยู่ตรงข้าม 1 เป้าหมาย
ฝ่ายไทยยืนยันใช้ปฏิบัติการทางอากาศโจมตีกัมพูชา เพื่อกำจัดภัยคุกคามปกป้องประชาชน และอธิปไตย มีการวางแผน เลือกเป้าโจมตีด้วยความแม่นยำ เน้นเป้าหมายทางทหาร ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มปะทะ
สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา 10 ธ.ค. 68 บุรีรัมย์ 1 แนวรบ สุรินทร์ 5 แนวรบ ศรีสะเกษ 4 แนวรบ และ อุบลราชธานี 2 แนวรบ ยังไม่ยุติมีการยิงกันอยู่ นอกจากนี้ มีรายงานการยิง BM-21 ตกใส่ในพื้นที่ รพ.พนมดงรัก อพยพเจ้าหน้าที่และคนไข้ไปที่ปลอดภัยแล้ว
ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา รายงานเมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 9 ธ.ค.2568 ยังมีการปะทะในหลายพื้นที่ หลังตั้งแต่เช้ากัมพูชาใช้อาวุธจรวด BM-21 ปืนใหญ่ ปืนกล และโดรนทิ้งระเบิดโจมตีมาฝั่งไทยไม่หยุด โดยฝ่ายไทยใช้ปฏิบัติการทางทหารตอบโต้กลับ
ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ (9 ธ.ค.) กัมพูชาใช้จรวด BM-21 ปืนใหญ่ และโดรนพลีชีพ โจมตีใส่ฝั่งไทยในหลายแนวรบตั้งแต่ช่องบก ปราสาทตาควาย ปราสาทคนา อย่างหนาแน่น รวมทั้งภูมิเขือ และปราสาทตาเมือนธม โดยไทยคุมพื้นที่หลักและตอบโต้ตามแผน สร้างความเสียหายได้แบบมีนัยสำคัญ
กองทัพภาค1-2 สรุปปะทะเขมร ทำลาย-ยึดคืนพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ (8 ธ.ค. ณ เวลา 20.00 น.) พร้อมทำลายฐาน ยึดคืนพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญหลายจุด...
กลับมาดุเดือดอีกครั้ง สำหรับ การสู้รบระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่บริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ...
กองทัพอากาศไทย ชี้แจงการปฏิบัติการทางอากาศต่อเป้าหมายทางทหารในกัมพูชา หลังส่งเครื่องบินเอฟ-16 เข้าสนับสนุนการโจมตีใส่เป้าหมายทางทหารที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันยึดหลักป้องกันตัวเอง และใช้กำลังตามความจำเป็นตามสัดส่วน