โดรน อาวุธเปลี่ยนเกมสงคราม? ขีดความสามารถและข้อจำกัด
by Trust News, 24 ธันวาคม 2568
โดรน อาวุธเปลี่ยนเกมสงคราม? ขีดความสามารถและข้อจำกัด
สงครามระหว่างไทย และ กัมพูชา ทั้ง 2 รอบในปีนี้ กลายเป็นอีกหนึ่งสมรภูมิที่มีการนำเทคโนโลยี “โดรน” มาใช้ในสงครามอย่างแพร่หลาย หลังจาก “ยูเครน” ได้แสดงให้ชาวโลกได้เห็นแล้วว่า “เทคโนโลยีต้นทุนต่ำ” นี้ สามารถสกัดกั้นการรุกรบของ กองทัพที่ใหญ่โตกว่าตัวเองหลายเท่า อย่าง “กองทัพรัสเซีย” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แล้วการรบที่เลือกใช้ “โดรน” ให้มีบทบาทอย่างมีนัยสำคัญนี้ กำลังทำให้ “สงคราม” เปลี่ยนโฉมหน้าไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว?
“เรา” ลองไปร่วมกัน พิจารณาข้อมูลและบทวิเคราะห์ต่างๆ ที่เชื่อมโยงถึงประเด็นที่น่าสนใจนี้ด้วยกัน
แนวคิดใหม่จากสงครามยูเครน :
ความแตกต่างในแทบทุกมิติระหว่างกองทัพรัสเซียและยูเครน ทำให้เกิดการคิดค้นยุทธวิธีใหม่ในการรบ จากเดิมที่มุ่งเน้นไปที่ พลังการทำลายของรถถังและปืนใหญ่ ไปสู่ การนำเทคโนโลยีต้นทุนต่ำ มาผสมผสาน กับการเชื่อมต่อเครือข่ายขนาดใหญ่ , โดรน , ระบบนำวิถี , และระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก (Small-Scale Electromagnetic warfare systems)
และจากแนวคิดนี้เอง ที่นำไปสู่สิ่งที่เรียกว่า “ฝูงโดรน” (Drone Swarms) หรือ ฝูงโดรนจำนวนมากที่ทำงานประสานในเครือข่ายเดียวกัน ซึ่งมีขีดความสามารถทั้งในเรื่อง การโจมตีแบบคลอบคลุมพื้นที่ , การเชื่อมโยงเครือข่าย , การเฝ้าระวังและตรวจจับแบบเรียลไทม์ รวมถึง การกำหนดเป้าหมายในการโจมตีที่มีความแม่นยำสูง
ฝูงโดรนกับประสิทธิภาพในการรบ :
โดรนภาคพื้นดิน :
กองทัพยูเครน ประสบปัญหาเรื่องการใช้โดรนภาคพื้นดินทั้งระบบสายพานและล้อ ทั้งในภาระกิจการรบ , ส่งกำลังบำรุงและยุทธปัจจัย รวมถึงอพยพทหารที่ได้รับบาดเจ็บ มากพอสมควร โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้แนวหน้าที่มีภูมิประเทศไม่เอื้ออำนวย รวมถึง ในกรณีที่พื้นที่ ยังถูกคลอบงำจากภัยคุกคามทางอากาศของฝ่ายตรงข้าม
โดรนทางทะเล :
ยูเครน ซึ่งถูกฝ่ายรัสเซีย ทำลายกองเรือเกือบทั้งหมด ตั้งแต่ปี 2022 กลับประสบความสำเร็จอย่างสูง หลังเริ่มใช้โดรนเรือ (Naval Drones) แบบกามิกาเซ่ ซึ่งสามารถหลบเลี่ยงระบบป้องกันแบบเก่า เข้าโจมตีกองเรือรัสเซีย จนได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่ง
โดรนทางอากาศ :
นี่คือ “อาวุธที่เปลี่ยนโฉมหน้าสงครามยูเครนอย่างแท้จริง” เนื่องจากทั้ง โดรนเพดานบินระยะปานกลาง หรือ MALE Drones และ โดรนโจมตีแบบเที่ยวเดียวติดระบบอาวุธปล่อยนำวิถี หรือ OWA Drones รวมถึง โดรนยุทธวิธีขนาดเล็กน้ำหนักเบา ซึ่งมีพิสัยทำการประมาณ 15 กิโลเมตร และน้ำหนักน้อยกว่า 25 กิโลกรัม
ซึ่งต่อมาในช่วงปี 2023 ได้ถูกพัฒนาให้กลายเป็น โดรน FPV (First-Person View) หรือ โดรนที่บินโดยใช้มุมมองบุคคลที่หนึ่งจากกล้องติดโดรนแบบเรียลไทม์ ของ กองทัพยูเครน ประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่งในภาระกิจที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การลาดตระเวนหาข่าวแบบเรียลไทม์ หรือ แม้กระทั่ง การบุกเข้าโจมตีเป้าหมายในแนวลึก โดยเฉพาะในระยะตั้งแต่ 10-20 กิโลเมตร รวมถึง ยานพาหนะต่างๆ ของ กองทัพรัสเซีย
ด้วยเหตุนี้ ตามรายงานข่าวของฝ่ายตะวันตก จึงระบุว่า ยูเครน อาจจำเป็นต้องใช้โดรนในการปฏิบัติการ ทางการทหารต่างๆ อย่างน้อย 10,000 ลำต่อวัน สำหรับการสู้รบกับกองทัพรัสเซีย
ต้นทุนโดรนสงคราม :
อ้างอิงจากรายงานของ สถาบันวิจัยฮัดสัน (Hudson Institute) ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า โดรนที่กองทัพยูเครนใช้ มีต้นทุนต่อหน่วย ตั้งแต่ 350 - 5,800 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 10,997 - 182,236 บาท โดยในช่วงแรกนั้น ยูเครน พึ่งพาโดรนที่ถูกผลิตมาในเชิงพาณิชย์ แล้วนำไปดัดแปลงให้กลายเป็นอาวุธเป็นหลัก หากแต่ในเวลาต่อมา เมื่อ โดรนต้นทุนต่ำที่ผลิตได้ง่าย ซึ่งมาพร้อมกับระบบปล่อยอาวุธนำวิถีเหนือเป้าหมาย (Loitering Monition) ในรูปแบบเดียวกับ โดรน Shahed-136 ของอิหร่าน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
เนื่องจาก โดรนชนิดนี้ นอกจากทำให้ ผู้บังคับบัญชาระดับสูงสามารถรับรู้สถานการณ์ในสนามรบได้แบบเรียลไทม์ ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าในอดีตมากมายแล้ว ขณะเดียวกันมันยังทำให้ กองทัพยูเครน ใช้ต้นทุนที่ต่ำมากๆเพื่อแลกกับการเข้าโจมตีเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ด้วยวิธีการเอาชนะระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบเก่า รวมถึงยังบีบบังคับให้ฝ่ายตรงข้ามต้องใช้มาตรการตอบโต้ที่มีราคาแพงขึ้น และสูญเสียความได้เปรียบที่เคยมีมาด้วย
อำนาจจากโดรนสงคราม :
รายงานของสถาบันวิจัยฮัดสัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ผลกระทบจากปฏิบัติการฝูงโดรนต้นทุนต่ำจำนวนมาก นอกจากจะทำให้ระบบป้องกันภัยทางอากาศที่มีมูลค่าสูงลิบลิ่วสิ้นสภาพแล้ว ในสมรภูมิแนวหน้า รถถังและยานเกราะจำเป็นต้องหยุดการเคลื่อนที่โดยสิ้นเชิง และหันไปพรางตัวในสนามเพลาะ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจจับและทำลาย
โดยโดรนเหล่านี้ มีส่วนรับผิดชอบต่อความสูญเสียในการรบสูงถึง 75 เปอร์เซ็นต์ ทั้งในส่วนของฝ่ายรัสเซียและยูเครน อย่างไรก็ดี ภัยคุกคามในสนามรบจากโดรนสงครามเหล่านี้ ยังไม่ได้เข้ามาแทนที่อำนาจการทำลายล้างทางอากาศแบบดั้งเดิม แต่ได้ทำให้การสู้รบภาคพื้นดินต้องหยุดชะงักลง อย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ รายงานของสถาบันวิจัยฮัดสัน ยังระบุเพิ่มเติมด้วยว่า ปี 2025 ในแต่ละเดือนมีโดรนมากกว่า 200,000 เครื่อง ถูกผลิตและส่งมอบให้กับกองทัพยูเครน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตัวเลข 20,000 เครื่องต่อเดือนในช่วงปี 2024 ทำให้มีการคาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้สูงมากในเร็วนี้ ยูเครนอาจสามารถผลิตโดรนสงครามได้มากกว่า 4 ล้านเครื่องต่อปี!
ผลลัพท์จากโดรนสงคราม :
“จะไม่มีที่ใด ตั้งแต่แนวหน้าไปจนถึงแนวหลัง ที่จะสามารถการันตีความปลอดภัยได้อย่างสมบูรณ์ นี่คือ จิตวิทยาในการทำสงครามด้วยโดรนสงคราม ที่กัดกร่อนความอดทนของทหาร สร้างความหวาดกลัวในหมู่พลเรือน และบังคับให้ฝ่ายตรงข้าม ต้องเบี่ยงเบนทรัพยากรไปสู่การป้องกันมากขึ้น”
ทั้งหมดนั้น คือ บทสรุปจากยุทธวิธีการโจมตี ที่เรียกว่า ใยแมงมุม (Spiderweb Tactics) ด้วยฝูงโดรนขนาดเล็กที่เชื่อมโยงด้วยเครือข่ายเดียวกัน ซึ่งเข้าล้อมรอบและก่อกวนที่ตั้งของฝ่ายตรงข้าม จนกระทั่งสามารถ สร้างจิตวิทยาข่มขวัญฝ่ายตรงข้ามให้รู้สึกเหมือนตกอยู่ภายใต้กับดักที่ไม่สามารถหลบหนีได้ จากรายงานของสถาบันวิจัยฮัดสัน ประเทศสหรัฐอเมริกา
ดังนั้น โดรนสงคราม ณ ปัจจุบัน ในรายงานของสถาบันวิจัยฮัดสัน จึงยังเป็นเพียงปฏิบัติการทางยุทธวิธี ที่มุ่งหวังบ่อนทำลายการรับรู้และความเข้าใจจากฝ่ายตรงข้าม แต่ยังไม่ถึงกับสามารถทำให้เกิดการหยุดชะงักในเชิงกลยุทธ์ทางการทหารแบบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็น การเข้ายึดครองพื้นที่ , การรักษากองกำลังพล , การทำลายเจตจำนงของฝ่ายตรงข้าม หรือ สามารถชี้ขาดสงครามได้
อีกทั้ง “สงคราม” ยังคงถูกตัดสินด้วยดินแดน , ขีดความสามารถทางอุตสาหกรรม , พันธมิตร และเจตจำนงทางการเมือง และไม่เพียงเท่านั้น ในอีกด้านหนึ่ง “กลยุทธ์โดรนสงคราม” ในปัจจุบัน กำลังเริ่มถูกท้าทายด้วย “ข้อจำกัดของตัวมันเอง” เช่นเดียวกับในอดีต ที่รถหุ้มเกราะนำไปสู่อาวุธต่อต้านรถถัง หรือ เครื่องบินที่กระตุ้นให้เกิดระบบป้องกันภัยทางอากาศ
โดยปัจจุบัน โดรนสงครามกำลังกระตุ้นให้เกิดการตอบโต้ด้วย “สงครามอิเล็กทรอนิกส์” (Electromagnetic Warfare) เช่น การรบกวนสัญญาณ (Jamming) และ ระบบสกัดกั้นต่างๆ (Intercept System) อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีสามารถอัปเกรดได้อย่างรวดเร็วและก้าวกระโดด เช่นในปัจจุบัน ทำให้ “โดรนสงครามบางรุ่น” กลายเป็น เทคโนโลยีที่ล้าสมัยภายในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้น มันจึงยังไม่ใช่ “พลังอำนาจ” ที่สามารถทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในระดับยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศได้
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม :
ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น (ชมคลิป)
ทำไมทีมไหนๆจึงเลือกใช้ บอล Direct โจมตี ลิเวอร์พูล (ชมคลิป)
เล่นเร็ว เน้นบอลยาวและฟรีคิก แท็กติกที่ทำให้แมนยูฯเริ่มดีขึ้น (ชมคลิป)
เคล็ดลับความสำเร็จกัปตันซึบาสะ ความคิดของคนเลือกอยู่หัวแถว (ชมคลิป)
ความแค้นและชีวิตแบบรถไฟเหาะ ของหญิงสาวผู้เป็นศัตรู Tinder (ชมคลิป)
You might be intertested in this news.
Mostview
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (23ธ.ค.68) ยังเป็นขาขึ้น
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (23ธ.ค.68) ยังเป็นขาขึ้น
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (24ธ.ค.68) ยังคงเป็นขาขึ้น เก็งกำไรระยะสั้น
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (24ธ.ค.68) ยังคงเป็นขาขึ้น เก็งกำไรระยะสั้น
7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)
7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง