หากยูเครนได้ขีปนาวุธร่อน TAURUS KEPD 350 จะยกระดับการโจมตีลึกเข้าในรัสเซียได้
by Trust News, 28 พฤษภาคม 2568
กรณีนายกฯ เยอรมันปลดล็อกระยะโจมตีของอาวุธที่ส่งให้ยูเครน ทำให้คาดว่าจะมีการมอบขีปนาวุธร่อน TAURUS KEPD 350 ให้ยูเครน โดยถือเป็นเป็นอาวุธอานุภาพสูงที่ระยะยิงไกลกว่า 500 กม. สามารถกดดันและเจาะระบบป้องกันทางอากาศของรัสเซีย รวมทั้งเป้าหมายสำคัญที่อยู่ลึกๆ ได้
จากกรณีที่นายฟรีชดริช แมร์ซ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีคนใหม่ มีการเดินหน้าทางการทูตโดยพบปะกับผู้นำในชาติยุโรปละตะวันตก เพื่อรักษาพันธมิตรชาติตะวันตก โดบเขาได้ระบุว่า "อาวุธที่ส่งให้ยูเครนจะไม่มีข้อจำกัดระยะยิงอีกต่อไป ไม่ว่าจะมาจากอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี หรือแม้แต่สหรัฐอเมริกา" นายกรัฐมนตรีเยอรมนีคนใหม่ เรียกยุทธศาสตร์นี้ว่า การยิงระยะไกล (long-range fire) ที่รวมถึงการส่งมอบอาวุธให้กับยูเครนด้วย หากยุทธศาสตร์นี้เกิดขึ้นจริง จะส่งผลให้ยูเครนมีศักยภาพมากพอที่จะป้องกันตัวเองได้มากขึ้น โดยเฉพาะการโจมตีที่สามารถยิงลึกเข้าไปโดยมีเป้าหมายทางการทหารในรัสเซีย ทั้งนี้ รัฐบาลเยอรมนีจึงไม่เปิดเผยรายละเอียดอาวุธทั้งหมดที่จะส่งให้ยูเครน รวมถึง ขีปนาวุธร่อนปล่อยจากอากาศยานแบบ เทารัส (TAURUS KEPD 350) ที่มีระยะยิงได้ไกลสูงสุดถึง 500 กิโลเมตร
ข้อมูลเบื้องต้นของ Taurus KEPD 350
สำหรับ ขีปนาวุธ Taurus KEPD 350 เป็นขีปนาวุธร่อนยิงจากอากาศสู่พื้นดินที่พัฒนาร่วมกันโดยเยอรมนีและสวีเดน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อโจมตีเป้าหมายที่มีมูลค่าสูงและมีการป้องกันอย่างแน่นหนาด้วยความแม่นยำสูง ขีปนาวุธนี้ได้รับการออกแบบและผลิตโดย Taurus Systems GmbH ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง MBDA Deutschland GmbH ของเยอรมนี และ Saab Bofors Dynamics ของสวีเดน
ขีดความสามารถที่โดดเด่นของ Taurus KEPD 350 ประกอบด้วยพิสัยปฏิบัติการที่เกิน 500 กิโลเมตร หัวรบ MEPHISTO แบบสองขั้นตอนที่โดดเด่น ระบบนำทางหลายชั้นขั้นสูงที่ทนทานต่อการรบกวน และเทคโนโลยีล่องหนที่ผสานกับการบินในระดับต่ำ คุณลักษณะเหล่านี้รวมกันทำให้ Taurus เป็นอาวุธที่น่าเกรงขามสำหรับการโจมตีลึกในแนวหลังของข้าศึก

ผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ต่อยูเครน
จากการวิเคราะห์ของทีมข่าวทรัสต์นิวส์ พบว่า ขีปนาวุธ Taurus KEPD 350 ยังไม่เคยถูกใช้งานจริงในการสู้รบใดๆ มาก่อน การถ่ายโอนขีปนาวุธนี้ไปยังยูเครนจึงจะเป็นการนำไปใช้งานจริงครั้งแรกในสมรภูมิ ซึ่งจะเปลี่ยนยูเครนให้กลายเป็นสนามทดสอบที่สำคัญ สำหรับระบบอาวุธขั้นสูงนี้ การใช้งานดังกล่าวจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการโจมตีลึกของยูเครนได้อย่างมาก ทำให้สามารถกำหนดเป้าหมายโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของรัสเซีย ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง การพิจารณาการส่งมอบขีปนาวุธนี้ ยังสะท้อนให้เห็นถึงบริบทที่กว้างขึ้นของการสนับสนุนจากชาติตะวันตก ที่พัฒนาไปสำหรับยูเครน และความท้าทายที่ต่อเนื่องของความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านขีดความสามารถในการโจมตีระยะไกล
หากยูเครนได้รับขีปนาวุธ Taurus KEPD 350 จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการโจมตีระยะไกลได้อย่างมาก ทำให้สามารถทำลายเส้นทางส่งกำลังบำรุง และโครงสร้างการบังคับบัญชาของรัสเซียที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนที่ถูกยึดครองได้ รวมถึงเป้าหมายสำคัญอย่างสะพานเคิร์ช นอกจากนี้ยังอาจช่วยเปิดช่องว่างในระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย เช่น ระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานแบบ S-400 ระบบ Buk และ ระบบ Tor
ความสามารถในการขัดขวางการส่งกำลังบำรุงและโครงสร้างบัญชาการด้วยความถี่และความแม่นยำที่มากขึ้น มีส่วนช่วยในยุทธศาสตร์การบั่นทอนกำลัง แม้ว่าอาวุธเพียงอย่างเดียวอาจไม่ใช่ "ตัวเปลี่ยนเกม" แต่การรณรงค์โจมตีลึกอย่างต่อเนื่องสามารถลดทอนความสามารถของฝ่ายตรงข้ามในการทำสงครามได้โดยรวม โดยการกำหนดเป้าหมายสายส่งกำลังบำรุง คลังเชื้อเพลิง คลังกระสุน และโหนดบัญชาการอย่างต่อเนื่อง Taurus สามารถค่อยๆ บีบรัดขีดความสามารถในการปฏิบัติงานของข้าศึก บังคับให้พวกเขาต้องใช้ทรัพยากรและเวลามากขึ้นในการบำรุงรักษาขั้นพื้นฐาน แทนที่จะเป็นการปฏิบัติการเชิงรุก

ความท้าทายในการใช้งานของยูเครน
อย่างไรก็ตาม การนำขีปนาวุธนี้ไปติดตั้งใช้งานร่วมกับเครื่องบินของยูเครน เช่น Su-24 ,Su-27 หรือ เอฟ-16 ที่เพิ่มได้รับมอบจากชาติตะวันตกไปใช้งาน การบูรณาการขีปนาวุธ Taurus เข้ากับเครื่องบินที่ยูเครนมีอยู่นั้น จะต้องมีการปรับเปลี่ยนทางเทคนิคที่สำคัญ การปรับเปลี่ยนเหล่านี้จำเป็นต้องมีการฝึกอบรมอย่างกว้างขวาง สำหรับนักบินและเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินของยูเครน โดยอาจใช้เวลาหลายเดือน ระยะเวลา "หลายเดือน" ที่จำเป็นสำหรับการบูรณาการและการฝึกอบรม หมายความว่า "Taurus จะไม่ให้ผลลัพธ์ที่เป็น "ตัวเปลี่ยนเกม" ได้ทันที ผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ของมันจะค่อยเป็นค่อยไป"
ระยะเวลาที่ล่าช้าระหว่างการส่งมอบ และความพร้อมในการปฏิบัติงาน
ยูเครนต้องจัดการความคาดหวังและยังคงต้องพึ่งพาระบบที่มีอยู่เดิมในระหว่างนี้ สิ่งนี้ยังทำให้รัสเซียมีเวลาในการปรับตัวรับมือการป้องกัน แม้ว่าขีดความสามารถที่เป็นเอกลักษณ์ของ Taurus จะทำให้การปรับตัวเต็มรูปแบบเป็นเรื่องที่ท้าทาย โดยนัยแล้ว การถ่ายโอนยังต้องมีการสร้างห่วงโซ่โลจิสติกส์ที่แข็งแกร่งสำหรับการบำรุงรักษา อะไหล่ และการจัดการกระสุน เนื่องจากความซับซ้อนและน้ำหนักของขีปนาวุธ (1,400 กิโลกรัม)
แม้ว่า Taurus จะมีคุณภาพเหนือกว่าในหลายด้าน แต่ผลกระทบของมันขึ้นอยู่กับจำนวนที่จัดหาให้เป็นอย่างมาก ในสงครามบั่นทอนกำลัง แม้แต่ระบบอาวุธที่ทันสมัยที่สุด ก็มีผลจำกัดหากมีเพียงไม่กี่ลูก ขีปนาวุธ Taurus จำนวนน้อยอาจประสบความสำเร็จในการโจมตีแต่ละครั้งที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่จะไม่เปลี่ยนแปลงสมดุลเชิงยุทธศาสตร์หรือรักษาการรณรงค์โจมตีลึกได้อย่างพื้นฐาน การส่งมอบที่มีศักยภาพสูงสุด "100 ลูก" มีนัยสำคัญแต่ก็ยังเป็นจำนวนที่จำกัด ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการจัดหาหรือเติมเต็มอย่างต่อเนื่อง
นอกเหนือจากการส่งมอบเบื้องต้นแล้ว การบำรุงรักษาการปฏิบัติการของ Taurus ในระยะยาวจะเป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งรวมถึงไม่เพียงแค่ตัวขีปนาวุธเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอุปกรณ์สนับสนุนภาคพื้นดินเฉพาะทาง ความเชี่ยวชาญด้านการบำรุงรักษา และการจัดหาอะไหล่อย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณาว่าการผลิตเคยถูกระงับเนื่องจากขาดคำสั่งซื้อ การจัดหาอย่างต่อเนื่องหากยูเครนใช้ชุดเริ่มต้นหมด จะต้องใช้ความพยายามในการผลิตใหม่และอาจรวมถึงสัญญาใหม่ ซึ่งเน้นย้ำถึงความท้าทายของฐานอุตสาหกรรมในการสนับสนุนความขัดแย้งที่มีความรุนแรงสูงที่ยืดเยื้อ

เมื่อเปรียบเทียบ Taurus KEPD 350 กับขีปนาวุธร่อนแบบอื่นๆ
เมื่อเปรียบเทียบกับขีปนาวุธร่อนแบบ Storm Shadow/SCALP-EG ที่ยูเครนมีใช้งานอยู่ Taurus มีระยะยิงที่ไกลกว่าเกือบ 2 เท่า (มากกว่า 500 กม. เทียบกับ 250 กม.) และหัวรบของ Taurus ยังถูกปรับให้เหมาะสมกับการโจมตีเป้าหมาย ที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนามากกว่า ส่วนเมื่อเทียบกับขีปนาวุธ ATACMS ที่เป็นขีปนาวุธพื้นสู่พื้นทางยุทธวิธี ซึ่งมีวิถีการบินแบบขีปนาวุธที่ตรวจจับได้ง่ายกว่า Taurus จะมีความสามารถในการหลบหลีกเรดาร์และเหมาะสำหรับการโจมตีแบบเซอร์ไพรส์ต่อเป้าหมายที่ฝังลึกมากกว่า
บทสรุปของระบบอาวุธชนิดนี้
Taurus KEPD 350 เป็นอาวุธที่น่าเกรงขามอย่างแท้จริง เนื่องจากหัวรบ MEPHISTO ที่เป็นเอกลักษณ์ ระบบนำทางหลายชั้นขั้นสูงที่ทนทานต่อการรบกวน พิสัยที่ขยายออกไป และโปรไฟล์การบินที่ล่องหนและเลียบภูมิประเทศ คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยให้มีความแม่นยำและการเจาะทะลวงที่เหนือชั้นต่อเป้าหมายที่เสริมความแข็งแรง แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีการรบกวน
ดังนั้น การใช้งานที่เป็นไปได้ในยูเครน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญ ซึ่งจะเปลี่ยนความขัดแย้งให้เป็นการทดสอบการรบจริงครั้งแรกของขีปนาวุธนี้ สิ่งนี้จะให้ข้อมูลที่มีคุณค่าและแสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถของมันในเวทีโลก เพราะแม้ว่า Taurus จะไม่ใช่ "ตัวเปลี่ยนเกม" เพียงอย่างเดียว แต่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการโจมตีลึกของยูเครนได้อย่างมาก ทำให้สามารถขัดขวางการส่งกำลังบำรุง โครงสร้างบัญชาการ และระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

มันช่วยเสริมระบบที่มีอยู่เดิม โดยให้การสนับสนุนที่สำคัญต่อขีดความสามารถในการโจมตีระยะไกลของยูเครน แม้จะมีความท้าทายในการบูรณาการและความสำคัญของการจัดหาอย่างต่อเนื่อง แต่ Taurus แสดงถึงการยกระดับที่สำคัญต่อคลังแสงของยูเครน ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงพลวัตของสมรภูมิโดยการโจมตีเป้าหมายที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถเข้าถึงได้หรือเจาะทะลวงไม่ได้ ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันต่อกองกำลังและโครงสร้างพื้นฐานของรัสเซีย.
You might be intertested in this news.
Mostview
น้ำตาพระ สละผ้าเหลือง สึกเจ้าคุณอุดม ตำนานคดีเครื่องราชฯ (คลิป)
ย้อนรอยคดีในตำนาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ กับการถอดผ้าเหลืองของพระเถระผู้ใหญ่ ที่บวชมานานถึง 46 พรรษา ของ “เจ้าคุณอุดม" อดีตรองเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์ ที่ต้องลาสิกขาออกมาสู้คดี ....
ทอ.ส่ง เอฟ-16 ตาคลี ขึ้นสกัด YAK-130 เมียนมา บินประชิดชายแดนฝั่งตะวันตก
โฆษก ทอ. แจงส่ง F-16MLU 2 เครื่อง จาก ฝูงบิน 403 กองบิน4 ตาคลี จ.นครสวรรค์ บินขึ้นทำ QRA สกัดกั้น เครื่องบินแบบ Yak-130 ของเมียนมาหลังพบบินมุ่งมาบริเวณ อ.พบพระ จ.ตาก เมื่อเวลา 1303 น.ก่อนเครื่องบินดังกล่าวจะบินออกไป ยืนยัน ไม่มีภัยคุกคาม
รีวิว “พระร่วง มหาศึกสุโขทัย” เกมอำนาจ ที่ทำให้เข้าใจอดีตมากขึ้น
พระร่วง มหาศึกสุโขทัย ภาพยนตร์ ที่ได้แรงบันดาลใจ บทพระราชนิพนธ์ ของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.๖) หนังทำมาเป็นเรื่องราว 2 ....
ไก่อวกาศ CP จะไปกับยาน Axiom 4 เดินทางสู่สถานีอวกาศนานาชาติ 8 มิ.ย.68 นี้
ซีพีเอฟ เผยกำหนดการเดินทางสู่อวกาศของ "ไก่อวกาศ" ที่เป็นเนื้อไก่แปรรูปพร้อมรับประทาน จะเดินทางไปพร้อมกับยาน Axiom 4 อันเป็นโครงการด้านอวกาศฝั่งเอกชนที่สนับสนุนโดยฮังการ โปแลนด์ และอินเดีย โดยจรวดฟอลคอน 9 เพื่อเดินทางสู่สถานีอวกาศนานาชาติ 8 มิ.ย.68
อุบลฯ ไม่ได้มีดีแค่หมูยอ แต่ F-5TH กองบิน 21 ก็พร้อมรับมือภัยคุกคามตลอด
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ฝั่งอีสานใต้โดยเฉพาะช่องบกเริ่มตึงเครียด ทำให้หน่วยทหารต่างๆ ต้องเตรียมพร้อมโดยเฉพาะ กองบิน 21 อุบลราชธานี บ้านของพญาเสือโคตรดุ F-5TH มีการฝึกยุทธวิธีตลอด เพื่อให้พร้อมสนับสนุนกำลังทางอกาศทันทีที่มีการร้องขอ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
