ทอ.ไทย ซื้อ Gripen E/F แทนเอฟ-16 เก่าเฟสแรก 4 ลำ มูลค่า 1.95 หมื่นล้าน
by Trust News, 4 มิถุนายน 2568
กองทัพอากาศไทยจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีแบบ Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง มูลค่า 19,500 ล้านบาท พร้อมอาวุธปล่อย METEOR และการปรับปรุง SAAB AEW&C จำนวน 2 เครื่อง พ่วงกับ Indirect Offset 7 รายการ Direct Offset 7 รายการ ยืนยันคุ้มค่า โปร่งใสทุกขั้นตอน
เมื่ออวันที่ 4 มิ.ย.2568 กองทัพอากาศไทย จัดงานแถลงโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี เพื่อทดแทนฝูงบินเครื่องบินขับไล่ F-16 เอ/บี ฝูงบิน 102 ที่ประจำการมานานกว่า 37 ปี ภายใต้แนวคิดเครื่องบินขับไล่โจมตีฝูงใหม่ต้องมีสมรรถนะที่ดีกว่าเครื่องบินขับไล่ที่กองทัพอากาศประจำการ มีความเหมาะสมในด้านคุณสมบัติร่วม และความต่อเนื่อง (Commonality & Continuity) พร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยพร้อมรับมือต่อภัยคุกคามในยุคปัจจุบันและอนาคต

รวมทั้งมีการชดเชยการนำเข้ายุทโธปกรณ์ (Defence Offset) ตามนโยบายรัฐบาลเพื่อพัฒนาสู่การพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน เสริมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ กองทัพอากาศได้ดำเนินการพิจารณาตามขั้นตอนและเกณฑ์การเลือกแบบด้วยความละเอียดรอบคอบและโปร่งใส จนได้แบบเครื่องที่ตรงตามความต้องการของกองทัพอากาศในปัจจุบัน ได้แก่ เครื่องบินขับไล่โจมตีแบบ JAS-39 Gripen E/F โดยมีแนวทางสำคัญ MIDSR ดังนี้
M • Main Package Gripen E/F 12 เครื่อง พร้อม METEOR และการปรับปรุง SAAB AEW&C
I • Indirect Offset 7 รายการ
D • Direct Offset 7 รายการ
S • Synchronization ความสอดคลองประสานกันของโครงการทั้ง 3 ระยะ
R • Risk การดำเนินงานภายใต้การประเมิน และวางแผนบริหารจัดการความเสี่ยง


พลอากาศโทประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า วัตถุประสงค์ของการแถลงข่าวครั้งนี้ เพื่อต้องการสื่อสารความคืบหน้าและหลักการดำเนินโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่แบบใหม่ รวมทั้งเพื่อสร้างความเข้าใจต่อสาธารณะ เน้นความโปร่งใส ความคุ้มค่า การแข่งขันอย่างเป็นธรรม และเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่คำนึงผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ พร้อมยืนยันถึงความมุ่งมั่นของกองทัพอากาศและสวีเดนในความร่วมมือระยะยาว โครงการนี้ไม่ได้เป็นเพียงการจัดหาเครื่องบิน แต่คือการลงทุนในความมั่นคงของประเทศและความสามารถในการป้องกันอธิปไตยทางอากาศในระยะยาว เครื่องบิน JAS-39 Gripen E/F มีสมรรถนะล้ำสมัย ระบบเรดาร์ AESA แบบ RAVEN ES-05 ระบบตรวจจับภาพอินฟราเรดแบบ Skyward IRST ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ AREXIS EW Suit และ มากับอาวุธปล่อยพิสัยไกลนอกระยะสายตา MBDA Meteor (เมเทเออร์) ซึ่งเป็นระบบที่ตอบโจทย์การรบในอนาคต

โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวต่อว่า เครื่องบิน Gripen E/F รุ่นใหม่ จะมาเพื่อทดแทน F-16 ฝูงบิน 102 ที่ประจำการมากว่า 37 ปี ซึ่งจะทยอยปลดประจำการในช่วงปี 2571–2578 หากไม่ดำเนินการ จะกระทบต่อความพร้อมในการป้องกันประเทศ กองทัพอากาศได้ดำเนินการตามกระบวนการที่เข้มงวด โปร่งใส และรอบคอบ โดยมีการตั้งคณะกรรมการจากหลายฝ่าย เพื่อพิจารณาความเหมาะสมทั้งด้านขีดความสามารถ ความคุ้มค่า และราคาประกอบกัน ซึ่งผลการพิจารณาสรุปว่า เครื่องบินแบบ JAS-39 Gripen E/F เป็นแบบที่ตรงตามความต้องการของกองทัพอากาศมากที่สุด โดยครงการนี้มีทั้งหมด 3 ระยะ 12 ลำ เฟสแรกจะรับมอบในปี 2029 ทั้งหมด 4 เครื่อง เป็นรุ่น E ที่นั่งเดียวจำนวน 3 เครื่อง และ รุ่น เอฟ สองที่นั่ง 1 เครื่อง

นอกจากนี้ ยังมีการชดเชยการนำเข้ายุทโธปกรณ์ (Defence Offset) รวมมูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท หรือ 154.6% ของมูลค่าโครงการ เช่น การถ่ายทอดเทคโนโลยี Tactical Data Link (Link-T), การพัฒนาบุคลากรและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในประเทศ รวมถึงความร่วมมือด้านการศึกษาและวิจัยกับสวีเดน กองทัพอากาศขอยืนยันว่า ภาษีพี่น้องประชาชนจะถูกใช้อย่างคุ้มค่า โปร่งใส และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อความมั่นคงของชาติ” โฆษกกองทัพอากาศกล่าว
ทั้งนี้ กองทัพอากาศมีแผนจะลงนามในสัญญาร่วมกับรัฐบาลสวีเดน ภายในเดือนสิงหาคม 2568 และจะมีการฝึกอบรมบุคลากรทั้งนักบินและช่างเทคนิครวม 26 คนควบคู่กันไป เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้ทันที เมื่อเครื่องบิน Gripen E/F เข้าประจำการ

Meteor (เมเทเออร์) คือ อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยพ้นสายตา (BVRAAM) ผลิตโดยบริษัท MBDA นำวิถีแบบเรดาร์ Active ขั้นสูง ติดตั้งเครื่องยนต์แรมเจ็ต ความเร็วสูงมากกว่า 4 มัค และมีพิสัยการปฏิบัติการโดยประมาณ 150-200 กิโลเมตร มากกว่าอาวุธปล่อยทุกชนิดที่มีประจำการในกองทัพอากาศภูมิภาคอาเซียน ส่งผลให้มี "เขตห้ามหลบหนี" (No Escape Zone - NEZ) ที่ใหญ่ขึ้นอย่างมาก NEZ คือพื้นที่ที่เป้าหมายไม่สามารถหลบหนีขีปนาวุธได้ มีขนาดกว่า 60 กิโลเมตร มีหัวรบชนวนเฉียดระเบิดและกระทบระเบิด เครื่องกริพเพนสามารถเข้าปะทะเป้าหมายในระยะที่ไกลขึ้น ด้วยโอกาสในการทำลายที่สูงขึ้น บังคับให้คู่ต่อสู้ต้องตอบสนองในเชิงรับหรือเผชิญกับภัยคุกคามที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

SAAB AEW&C คือ เครื่องบินลำเลียงใบพัด 2 เครื่องยนต์แบบ SAAB 340 ที่ติดตั้งเรดาร์ อีริอายส์ กลายเป็น SAAB 340 AEW ที่สามารถตรวจจับเป้าหมายทั้งอากาศและบนบก เพื่อแจ้งข้อมูลให้กับนักบินเครื่องบิรนกริพเพน บินเข้าหมาเป้าหมายได้โดยที่เครื่องบินขับไล่ไม่ต้องเปิดเรดาร์ การนำทางจะประสานผ่านเครื่องบินแจ้งเตือนภัย โดยในอนาคตจะมีการอัปเกรดระบบเพื่อเพิ่มความสามารถในด้านการควบคุมการปฏิบัติการทางอากาศ หรือ Control กลายเป็น SAAB 340 AEW&C.
You might be intertested in this news.
Mostview
ทหารเตือน ระวังอันตราย ขีปนาวุธ PHL-03 ระยะยิงกว่า 130 กม.จากแนวชายแดน
กองทัพภาคที่ 2 เตือนพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระวังอันตรายจาก PHL-03 ขีปนาวุธ พื้นสู่พื้นหลายท่อยิงของฝ่ายกัมพูชา ชี้พิสัยไกล 130 กม. อาจตกใส่เขตชุมชนแบบไม่พึงประสงค์ ทั้งนี้ พยายามอยู่ห่างจากที่ตั้งหน่วยงานราชการไว้ก่อน
รีวิวหนัง “โอชิ อสูรขี้อ้อน พา น้อน กลับบ้าน”
รีวิวหนัง “โอชิ อสูรขี้อ้อน พา น้อน กลับบ้าน” หนังเด็ก ที่ดูได้เรื่อยๆ
ชี้ชัด กัมพูชาเริ่มยิงใส่ไทยก่อน ข้อมูลดาวเทียมบิดไม่ได้
นักวิเคราะห์ดาวเทียม ออสเตรเลีย เปิดภาพดาวเทียม ชี้ กัมพูชาเริ่มใส่ไทยก่อน พร้อมแนบภาพเหตุวันที่ 28 พ.ค. ชี้ข้อมูลดาวเทียมไม่สามารถบิดได้...
กัมพูชายิงเข้ามาฝั่งไทยตลอดเแนว ทัพภาค 2 อนุมัติยิงปืนใหญ่ปกป้องอธิปไตย
กองทัพภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์ล่าสุด ชายแดนไทย-กัมพูชา เกิดการปะทะทุกพื้นที่ จ.สุรินทร์ จ.อุบลราชธานี จ.ศรีสะเกษ หลังกำลังทหารฝ่ายกัมพูชายิงอาวุธหนักข้ามมาฝั่งไทย ด้านกองทัพภาคที่ 2 ตรึงกำลัง อนุมัติยิงปืนใหญ่ได้ทันทีเพื่อปกป้องอธิปไตย
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (23ก.ค.68) ทยอยขายทํากําไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (23ก.ค.68) ทยอยขายทํากําไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
