ปฏิบัติการ "มิดไนท์แฮมเมอร์" บี-2 แผนลับแหวกฟ้า บอมบ์ฐานนิวเคลียร์อิหร่าน
by Trust News, 23 มิถุนายน 2568
เครดิตภาพ กองทัพอากาศสหรัฐ และ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
ความสำเร็จของปฏิบัติการ "มิดไนท์แฮมเมอร์" หลังฝูงบินสเตลธ์ B-2 ของกองทัพสหรัฐฯ 7 ลำ แหวกฟ้าไปทิ้งระเบิดทะลวงบังเกอร์ GBU-57 และยิงขีปนาวุธร่อนโทว์มาฮอว์ก ถล่มฐานวิจัยและโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน 3 แห่ง โดยทุกอย่างลับไม่มีใครรู้แผนและไม่มีการต่อต้านใดๆ
ในการแถลงข่าวของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นภายหลังจากการแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศว่า ได้ส่งฝูงบินไปถล่มเป้าหมายที่เป็นโรงงานและศูนย์วิจัยด้านนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่าน นายพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพลเอกแดน เคน ผู้บัญชาการเหล่าทัพร่วม ได้ร่วมกันกล่าวชื่นชมความสำเร็จของปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ที่ดำเนินการโดยกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ (CENTCOM) เมื่อคืนวันที่ 21 มิ.ย.2568 ที่ผ่านมา ยังเป้าไปที่โรงงานและศูนย์วิจัยด้านนิวเคลียร์สำคัญ 3 แห่งของอิหร่านปฏิบัติการดังกล่าวมีชื่อรหัสว่า "โอเปอร์เรชั่น มิดไนท์ แฮมเมอร์" (Operation Midnight Hammer) โดย CENTCOM ได้ระดมกำลังผสมผสานหลากหลายหน่วยงานเข้าโจมตีและสร้างความเสียหายอย่างหนักหน่วงแก่โรงงานนิวเคลียร์ฟอร์โดว์ นาตันซ์ และอิสฟาฮาน

นายเฮกเซธ กล่าวเปิดการแถลงว่า คำสั่งที่เราได้รับจากผู้บัญชาการทหารสูงสุดนั้น ชัดเจน ทรงพลัง และตรงเป้าหมาย เราได้ทำลายโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านจนย่อยยับ และปฏิบัติการครั้งนี้ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่กำลังพลหรือพลเมืองของอิหร่านแต่อย่างใด
ด้าน พลเอกเคน กล่าวว่า ผลการประเมินความเสียหายเบื้องต้นจากการรบชี้ให้เห็นว่า ทั้งสามแห่งได้รับความเสียหายและการทำลายล้างอย่างรุนแรงยิ่งยวด หลังจากปฏิบัติการเคลื่อนที่อย่างเงียบเชียบ และมีการสื่อสารน้อยที่สุดเป็นเวลา 18 ชั่วโมง จากสหรัฐฯ สู่พื้นที่เป้าหมาย เครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน B-2 Spirit บินจากฐานทัพอากาศไวท์แมน รัฐมิสซูรี่ ผ่านการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศหลายรอบ ผ่านไป 18 ชั่วโมง บี-2 ลำแรกจากทั้งหมด 7 ลำ ได้ทิ้งระเบิดเจาะบังเกอร์ GBU-57 Massive Ordnance Penetrator (MOP) หรือ "ระเบิดทำลายบังเกอร์" ขนาด 30,000 ปอนด์ จำนวน 2 ลูก ที่โรงงานฟอร์โดว์ เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 18:40 น. ตามเวลา EDT

ผู้บัญชาการเหล่าทัพร่วม กล่าวต่อว่า ชุดภารกิจเริ่มต้นยังรวมถึงเครื่องบินที่รับบทเป้าลวงหลายลำ บินมุ่งหน้าไปทางตะวันตกเหนือมหาสมุทรแปซิฟิกในฐานะ "ความพยายามเป็นเป้าลวง ซึ่งมีเพียงกลุ่มผู้วางแผนและผู้นำหลักจำนวนน้อยมากในกรุงวอชิงตัน และกองบัญชาการ CENTCOM เท่านั้นที่ทราบ" กลยุทธ์ดังกล่าวถูกนำมาใช้เพื่อสนับสนุนชุดเครื่องบินโจมตีหลักด้วยเช่นกัน สหรัฐฯ ได้ใช้กลยุทธ์ลวงหลอกหลายอย่าง รวมถึงเครื่องบินลวงเป้าหมาย โดยที่เครื่องบินรบยุคที่ 4 และ 5 ได้บินนำหน้าชุดเครื่องบินโจมตีด้วยความเร็วและระดับความสูงสูง เพื่อกวาดล้างภัยคุกคามจากเครื่องบินขับไล่ของข้าศึก และระบบขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศที่อาจเผชิญหน้ากับชุดโจมตี

พลเอกเคน อธิบายอีกวว่า หลังจากการโจมตีครั้งแรกที่ฟอร์โดว์ เครื่องบิน B-2 ที่เหลือได้ดำเนินการทิ้งระเบิดของพวกมันอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีระเบิด MOPs รวมทั้งสิ้น 14 ลูก เข้าโจมตีพื้นที่เป้าหมาย นี่เป็นครั้งแรกที่มีการนำระเบิด GBU-57 MOP มาใช้ในการปฏิบัติการจริง นอกเหนือจากระเบิด MOP แล้ว เรือดำน้ำของสหรัฐฯ ซึ่งปฏิบัติการอยู่ในอ่าวเปอร์เซีย พื้นที่รับผิดชอบของ CENTCOM ได้ยิงขีปนาวุธร่อน Tomahawk มากกว่า 20 ลูก เข้าโจมตีเป้าหมายโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่โรงงานอิสฟาฮาน ทำให้จำนวนรวมของอาวุธนำวิถีความแม่นยำที่ใช้ในปฏิบัติการครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 75 ลูก
ผู้บัญชาการเหล่าทัพร่วม ยืนยันว่า ตลอดการปฏิบัติการไม่มีการตอบโต้ใดๆ ที่ตรวจจับได้จากการโจมตีครั้งนี้ เราไม่พบว่ามีการยิงใส่ชุดเครื่องบินของเราในระหว่างการเดินทางกลับ เครื่องบินขับไล่ของอิหร่านไม่ได้ขึ้นบิน และดูเหมือนว่าระบบขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศของอิหร่านก็ไม่สามารถตรวจจับเราได้ ตลอดภารกิจ เรายังคงรักษาความประหลาดใจไว้ได้ จนกระทั่งเครื่องบินทั้งหมดบินกลับ โดยผ่านการเติมน้ำมันกลางอากาศหลายรอบโดยไม่แวะพัก จนลงจอดอย่างปลอดภัยที่ฐานทัพอากาศไวท์แมน เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.68

นายเฮกเซธ กล่าวว่า ผมขอชื่นชมเหล่านักบินที่ขับเครื่องบินทิ้งระเบิด เครื่องบินขับไล่ และเครื่องบินเติมเชื้อเพลิง พวกเขาคือยอดนักรบ ผมขอชื่นชมทหารเรือบนเรือพิฆาต บนเรือดำน้ำ และบนเรือบรรทุกเครื่องบิน พวกเขาทั้งหมดคือนักรบ พร้อมชื่นชมทหารบกที่รับผิดชอบการป้องกันภัยทางอากาศและการป้องกันฐานทัพ
"ชาวอเมริกันทุกคนที่เกี่ยวข้องในปฏิบัติการนี้ปฏิบัติงานได้อย่างไร้ที่ติ ขอบคุณรัฐบาลอิสราเอลที่ให้การสนับสนุนในการวางตำแหน่งและการเตรียมการสำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ นี่คือภารกิจที่ซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูง ซึ่งดำเนินการด้วยทักษะและวินัยที่ยอดเยี่ยมโดยกองกำลังร่วมของเรา" พลเอกเคนกล่าว พร้อมเน้นย้ำว่าภารกิจนี้แสดงให้เห็นถึง "ขีดความสามารถที่ไร้เทียมทาน การประสานงาน และศักยภาพของกองทัพสหรัฐฯ" พลเอกเคน กล่าว

"ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ ภารกิจนี้ได้เปลี่ยนจากการวางแผนเชิงกลยุทธ์เป็นการปฏิบัติการระดับโลก" เขากล่าว พร้อมเสริมว่าเขาเห็นด้วยกับการประเมินของประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ที่ว่า "ไม่มีกองทัพใดในโลกที่สามารถทำเช่นนี้ได้"
นายเฮกเซธ กล่าวย้ำถึงเจตนาโดยรวมของการโจมตีครั้งนี้ว่า ภารกิจนี้มุ่งเน้นไปที่การป้องกันไม่ให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์โดยเฉพาะ ภารกิจนี้ไม่เคยมีเป้าหมายเป็นการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ประธานาธิบดีได้อนุมัติปฏิบัติการที่แม่นยำเพื่อทำให้ภัยคุกคามต่อผลประโยชน์แห่งชาติของเราที่เกิดจากโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านหมดไป และ เพื่อสนับสนุนการป้องกันตนเองร่วมกับกองกำลังและพันธมิตรของเราอย่างอิสราเอล
ระเบิดนำวิถีเจาะทะลวงบังเกอร์ GBU-57 MOP
GBU-57/B Massive Ordnance Penetrator (MOP) หรือ "ระเบิดทำลายบังเกอร์ขนาดมหึมา" เป็นระเบิดนำวิถีที่มีความพิเศษและแตกต่างจากระเบิดนำวิถีรุ่นอื่น เป็นอาวุธที่ถูกเลือกใช้ในการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ใต้ดินของอิหร่าน โดยมีน้ำหนักถึงลูกละ 30,000 ปอนด์ (ประมาณ 13,600 กิโลกรัม) และมีความยาวประมาณ 6.2 เมตร ซึ่งใหญ่กว่าและหนักกว่าระเบิดทำลายบังเกอร์รุ่นก่อนหน้าอย่าง GBU-28 หรือ GBU-37 ที่มีน้ำหนักเพียง 5,000 ปอนด์อย่างมาก

พาหนะในการบรรทุก MOP
ด้วยขนาดและน้ำหนักที่มหาศาล ปัจจุบันมีเพียงเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน B-2 Spirit แบบเดียวเท่านั้นที่สามารถบรรทุกและทิ้งระเบิด MOP ได้ โดย B-2 แต่ละลำสามารถบรรทุก MOP ได้ 2 ลูกในช่องเก็บอาวุธภายในตัวเครื่อง
สร้างมาเพื่อการเจาะทะลวงบังเกอร์ที่มั่งคงสูง
เปลือกหุ้มเหล็กอัลลอยประสิทธิภาพสูง: ตัวระเบิดถูกสร้างจากเหล็กอัลลอยที่มีความหนาแน่นสูงและประสิทธิภาพพิเศษ (high-performance steel alloy) เพื่อให้สามารถทนทานต่อแรงกระแทกมหาศาลจากการเจาะทะลวงคอนกรีตเสริมเหล็กหรือหินลึกลงไปใต้ดิน โดยไม่เสียหายก่อนการระเบิด
เจาะลึกได้กว่า 60 เมตร: MOP ได้รับการออกแบบมาให้สามารถเจาะทะลวงคอนกรีตเสริมเหล็กได้มากกว่า 8 เมตร หรือทะลวงลงไปใต้ดินได้ลึกถึง 61 เมตร (200 ฟุต) ซึ่งระเบิดทั่วไปไม่สามารถทำได้

เทคโนโลยีระบบนำวิถีและชนวนอัจฉริยะ
MOP ใช้ระบบนำวิถีแบบคู่ (Dual-mode guidance system) แบบ GPS/INS Guidance ที่ผสมผสานระหว่าง GPS (Global Positioning System) และ INS (Inertial Navigation System) เพื่อความแม่นยำสูงในการกำหนดเป้าหมาย ทำให้สามารถโจมตีเป้าหมายได้ในระยะไม่กี่เมตรจากจุดที่กำหนด
Large Penetrator Smart Fuze (LPSF) ชนวนอัจฉริยะนี้สามารถตรวจจับช่องว่างหรือห้องใต้ดินได้ในระหว่างการเจาะทะลวง และสามารถปรับเวลาการระเบิดให้เหมาะสมกับความลึกของการเจาะและลักษณะของโครงสร้างใต้ดิน เพื่อให้เกิดการทำลายสูงสุดภายในเป้าหมายที่อยู่ลึก
Grid Fins ระเบิดนี้ใช้ "Grid Fins" (ครีบตะแกรง) แทนครีบแบบระนาบที่พบในระเบิดทั่วไป ซึ่งให้การควบคุมที่ดีกว่ามากในสภาวะการบินด้วยความเร็วสูง และสามารถพับเก็บได้เพื่อความสะดวกในการบรรจุในช่องเก็บระเบิดของเครื่องบิน B-2
พลังระเบิด MOP บรรทุกวัตถุระเบิดประมาณ 5,300 ปอนด์ ซึ่งเป็นสารระเบิดประสิทธิภาพสูง เช่น AFX-757 และ PBXN-114 ที่ให้พลังงานสูงและมีเสถียรภาพทางความร้อน ทำให้เกิดการระเบิดที่มีประสิทธิภาพแม้หลังจากเจาะทะลวงเข้าไปในคอนกรีตหรือชั้นหินลึก พลังระเบิดของ MOP มีมากกว่าระเบิดรุ่นก่อนหน้าอย่าง BLU-109 ถึง 10 เท่า

เที่ยวบินที่ไกลที่สุดของ B-2 ในภารกิจปฏิบัติการ
เที่ยวบินที่ไกลที่สุดที่เครื่องบิน B-2 Spirit เคยออกบินปฏิบัติการคือ ภารกิจในช่วงหลังเหตุการณ์ 9/11 ในปี 2001 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ปฏิบัติการ Enduring Freedom ในอัฟกานิสถาน โดยในภารกิจดังกล่าว เครื่องบิน B-2 ได้บินตรงจากฐานทัพอากาศ Whiteman ในรัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา ไปยังเป้าหมายในอัฟกานิสถาน และบินกลับ โดยใช้เวลาปฏิบัติการต่อเนื่องนานกว่า 44 ชั่วโมง (บางรายงานระบุว่านานกว่า 70 ชั่วโมงสำหรับปฏิบัติการต่อเนื่องของเครื่องบินลำเดียวที่เปลี่ยนลูกเรือกลางทาง) ภารกิจนี้จำเป็นต้องมีการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศหลายครั้งเหนือมหาสมุทรแปซิฟิก มะละกา และมหาสมุทรอินเดีย ใกล้เกาะดิเอโก การ์เซีย เพื่อให้สามารถบรรลุภารกิจโจมตีเป้าหมายในอัฟกานิสถานก่อนที่จะกลับสู่ฐานทัพ
สำหรับภารกิจโจมตีอิหร่านล่าสุด (Operation Midnight Hammer) พลเอกแดน เคน ประธานเสนาธิการร่วม ระบุว่า เป็น "การโจมตีปฏิบัติการ B-2 ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ" และเป็น "ภารกิจ B-2 ที่ยาวนานเป็นอันดับสองเท่าที่เคยบินมา รองจากภารกิจในช่วงหลังเหตุการณ์ 9/11 เท่านั้น" โดยใช้เวลาบิน 18 ชั่วโมงเพื่อเข้าถึงพื้นที่เป้าหมาย และมีการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศหลายครั้งเช่นกัน.
You might be intertested in this news.
Mostview
สำรวจวงจรเชื่อมผลประโยชน์ สายใยที่ยึดโยงตระกูลฮุน
สำรวจวงจรเชื่อมผลประโยชน์ สายใยที่ยึดโยงตระกูลฮุน
รีวิว “Weapons” หนังฉีกแนว กับสาเหตุเด็กหายที่คิดไม่ถึง..
“Weapons” เป็นหนังที่ผิดจากที่คาดไว้ นึกว่าเป็น “หนังผี” แต่ปรากฎว่าหนังเรื่องนี้ มีสิ่งที่เหนือความคาดหมาย อยากให้ใครที่คิดจะชมเรื่องนี้ เข้าไปดูเอง…
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (14ส.ค.68) ดีดตัวระยะสั้น
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (14ส.ค.68) ดีดตัวระยะสั้น
15 วีรชนทหารกล้าผู้พลีชีพในสมรภูมิ การสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ปี 2568
กองทัพบก ยกย่องและประกาศชื่อ15 วีรชนทหารกล้า ผู้สละชีพ ปกป้อง พิทักษ์แผ่นดินไทย จากเหตุการณ์สู้รบที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จากทุกแนวรบ ตลอดแนวรบ ทุกสมรภูมิ เพื่อให้เป้นที่จดจำและระลึกถึงความกล้าหาญครั้งนี้สืบไป
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (14ส.ค.2025)
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (14ส.ค.2025)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
