แนวโน้มSETวันนี้ (2ก.ค.68) การเมืองมีความชัดเจนระดับหนึ่ง
by Trust News, 2 กรกฎาคม 2568
แนวโน้มSETวันนี้ (2ก.ค.68) การเมืองมีความชัดเจนระดับหนึ่ง
คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์ ต้องไม่กลับไปหลุดต่ำกว่า 1105/1100 จึงจะเป็นการแกว่งตัวเพื่อรอขึ้น มีแนวต้านที่ 1120/1128 ผ่านได้จึงจะเป็นสัญญาณยืนยันของการแกว่งตัวขึ้นรอบใหม่
ปัจจัยในประเทศ เรื่องการเมืองมีความชัดเจนระดับหนึ่ง จากการปรับ ครม. หากการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ และ พรบ. งบประมาณปี 2569 ยังไม่สะดุด ไม่กลับมากดดันตลาด
ประเด็นสำคัญ :
1. ศาล รธน. มีมติเอกฉันท์ รับคำร้องกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกฯ และสมเด็จฮุน เซน และสั่งนายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว. คมนาคมขึ้นรักษาการแทน ทั้งนี้ นายกฯ แพทองธาร ยังสามารถเข้าร่วมประชุม ครม. หลังการโปรดเกล้าฯ เนื่องจากอยู่ในตำแหน่ง รมว. วัฒนธรรม
2. จำนวน นทท. ต่างชาติเดินทางเข้าไทยในสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้น 9.1%WoW หนุนจากกลุ่ม นทท. ระยะใกล้ (มาเลเซียและอินโดนีเซีย) เนื่องจากอยู่ในช่วงวันหยุดยาวของชาวมุสลิม ทำให้จำนวน นทท. สะสมช่วง 1H68 ที่ 16,685,466 คน ลดลง 4.7%YoY สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวแล้ว 7.7 แสนลบ.
3. ครม. ขยายเวลาลงทะเบียนโครงการ “คนสู้เราช่วย” จนถึงวันที่ 30 ก.ย. นี้ จากเดิมที่สิ้นสุดในวันที่ 30 มิ.ย. รวมถึงปรับปรุงเงื่อนโครงการเพื่อให้สามารถช่วยเหลือลูกหนี้ได้ครอบคลุมได้มากขึ้น มองเป็นกลางและกระทบจำกัดต่อกลุ่มธนาคาร หนุนคุณภาพสินทรัพย์ ช่วยลดการตั้งสำรอง แต่หักล้างด้วยส่วนต่างดอกเบี้ยที่ลดลง
4. วันแรกในการเปิดลงทะเบียนโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ได้รับความสนใจจำนวนมากและเกิดความขัดข้องด้านระบบ รมว. ท่องเที่ยวฯ สั่งเร่งแก้ไขปัญหาและเผยว่าอาจมีการเพิ่มจำนวนสิทธิ์และวงเงินของโครงการเพิ่มอีก หากโครงการได้รับการตอบรับดี
5. ประธานเฟดเผยว่านโยบายการเงินในปัจจุบันอาจมีท่าทีที่ผ่อนคลายมากขึ้นแล้ว หาก ปธน. ทรัมป์ไม่ได้ประกาศการเรียกเก็บภาษีศุลกากรกับประเทศคู่ค้าในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้เฟดต้องชะลอการผ่อนคลาย เนื่องจากมองว่ามาตรการดังกล่าวทำให้คาดการณ์เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะฯ
กลยุทธ์การลงทุน :
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์และผันผวนต่อ หลังยังรอความชัดเจนของปัจจัยทั้งในและนอกประเทศ โดยปัจจัยภายนอกติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลาง และความคืบหน้าการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ หลังใกล้เส้นตาย 9 ก.ค.
ขณะที่ ปัจจัยภายใน ติดตามเสถียรภาพทางการเมืองและปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา อย่างไรก็ดี ประเมิน SET ที่บริเวณต่ำกว่า 1100 จุด คิดเป็น PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว โดยกลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :
มอง SET แกว่งตัวไซด์เวย์และยังผันผวนต่อ เนื่องจากยังรอความชัดเจนทั้งปัจจัยภายนอก (ความคืบหน้าการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐหลังใกล้เส้นตาย 9 ก.ค.) ขณะที่ปัจจัยภายในติดตามเสถียรภาพทางการเมืองและปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีม หลักและ 2 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้...
1. หุ้น Defensive ที่ผันผวนต่ำและผลการดำเนินงานต้านทานความเสี่ยงภายนอกได้ (ผลกระทบจำกัดจากปัจจัยภายในและภายนอก) อีกทั้งยังมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ แนะนำ ADVANC BCH DIF
2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SETESG Rating A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT
3. หุ้น Earning Play ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ แนะนำ ADVANC CPALL BTG
Trading Idea :
สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร แนะนำ...
1) หุ้น Undervalue (PER PBV < -1SD) และเราแนะนำ Outperform อีกทั้งคาดให้ Div. Yield ไม่ต่ำกว่าปีละ 3% แนะนำ BBL BDMS CPALL DIF PTT SIRI TIDLOR
2) หุ้นที่มีโอกาสได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐอย่างกลุ่มปูนซีเมนต์และท่องเที่ยว แนะนำ SCC SCCC ERW CENTEL AAV
Daily top picks :
KTB : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้น มีโอกาสมีแรงซื้อเข้ามาตามภาพของตลาด เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มธนาคาร มี Upside จากการเพิ่มอัตราการจ่ายปันผลเพิ่ม และ Credit Cost สูงสุดใน1Q68 แล้วมีโอกาสลดลงในช่วงที่เหลือของปี ในขณะที่ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ และมี LLR Coverage สูง
SCC : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้น จากราคาต้นทุนพลังงานลดลง กำไรปกติปี 2568 มี upside มาจากการเปลี่ยนวิธีบันทึกบัญชีเงินลงทุนใน CAP จากวิธีส่วนได้เสียมารับรู้เฉพาะรายได้เงินปันผล ซึ่งจะทำให้กำไรปกติของ SCC ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทจะไม่ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจาก CAP คาดกำไรปีนี้จะกลับมาเติบโตสูง แม้ว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานต่ำ
กรอบค่าเงินบาทวันนี้ :
ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทกลับมาแข็งค่าได้ แม้ว่าจะมีจังหวะอ่อนค่าขึ้นไปตอนที่ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยแรงกดดันด้านแข็งค่า ยังมาจากฝั่งดอลลาร์สหรัฐ
ตำแหน่งเปิดรับงานใหม่ของสหรัฐ และเลข ISM ภาคการผลิต ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ส่งผลให้ US Treasury yields ปรับสูงขึ้นเร็ว
ร่างกฎหมายลดภาษีและการใช้จ่ายมูลค่า 3.3 ล้านล้านดอลลาร์ ของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภา ในลำดับต่อไปร่างกฎหมายจะกลับมาโหวตต่อที่สภาผู้แทนราษฎร
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำวัน :
Economic release :
EU – อัตราว่างงาน พ.ค.
US – จํานวนผู้ขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (MBA) สัปดาห์สิ้นสุด 27 มิ.ย., การ
จ้างงานภาคเอกชน (ADP) มิ.ย.
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์
You might be intertested in this news.
Mostview
รีวิวหนัง ทรชน คนสองหน้า หนังสายลับ ดูง่าย มันส์สะใจ
ทรชน คนสองหน้า Yadang : The Snitch หนังเล่าเรื่องของความพยายามในการทลายแก๊งค้ายาในเกาหลีใต้ โดยเล่าผ่านมุมมองสายลับของอัยการที่มาแฝงตัวอยู่ในแก๊งเพื่อหาหลักฐานในการบุกจับ...
F1 หนังแข่งรถโชว์ของ ที่ต้องดูผ่าน Screen X หรือ Vision Pro
F1 เป็นผลงานของ Apple Original Films ที่จัดเต็มมุมกล้องแบบรอบด้าน สามารถดูได้แบบเหมือนอยู่ในรถแข่งได้จริง ๆ ทาง Apple อาจจะทำเผื่อไว้รับชมผ่าน Apple Vision Pro ไ
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (2ก.ค.68) เริ่มแกว่งออกข้าง
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (2ก.ค.68) เริ่มแกว่งออกข้าง
ความทันสมัย ของ โคตะ ทาคาอิ กองหลังสัตว์ประหลาดแห่งเจลีก
ความทันสมัย ของ โคตะ ทาคาอิ กองหลังสัตว์ประหลาดแห่งเจลีก
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (1ก.ค.2025)
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (1ก.ค.2025)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
