แนวโน้ม SETวันนี้ (4ก.ค.68) ลุ้นประกาศอัตราภาษีศุลกากรต่อ
by Trust News, 4 กรกฎาคม 2568
แนวโน้ม SETวันนี้ (4ก.ค.68) ลุ้นประกาศอัตราภาษีศุลกากรต่อ
คาดตลาดแกว่งตัวผันผวนทางขึ้นต่อ ระยะสั้นขึ้นมาทดสอบแนวต้านที่ 1128 หากยืนเหนือได้ มีแนวต้านหลักถัดไปที่ 1135/1140 ที่จะทำให้เกิดการชะลอตัว ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1120/1115 เชิงปัจจัย ยังลุ้นการประกาศภาษีศุลกากรสหรัฐฯ กับไทยก่อน 9 ก.ค.นี้ หากไม่สูงไปกว่า 15% คาดว่าตลาดจะตอบสนองเชิงบวก
ประเด็นสำคัญ :
1. การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ มิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.47 แสน สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ เป็นไปในทิศทางเดียวกับอัตราการว่างงานที่ลดลงเหลือ 4.1% สะท้อนภาพตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง คลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะ ศก. สหรัฐฯ ถดถอย ตลาดยังคงประเมินเฟดลดดอกเบี้ยนโยบายลงในปีนี้ อีก 2 ครั้งในเดือน ก.ย. และ ธ.ค.
2. หลายสำนักข่าวเผยสหรัฐฯ ได้ยกเลิกข้อจำกัดส่งออกซอฟต์แวร์ออกแบบชิปไปยังจีน ด้านบริษัทผู้ออกแบบฯ รายใหญ่ Synopsys, Cadence และ Siemens AG เผยว่าได้รับจดหมายจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ให้ทราบถึงประเด็นดังกล่าวแล้ว มองเป็นสัญญาณสำคัญของการคลี่คลายความตึงเครียดทางการค้า
3. WorldBank คาด ศก. ไทยจะเติบโตชะลอลงสู่ 1.8% ในปี 2568 ลดลงจากประมาณการใน ก.พ. ที่ 2.9% เนื่องจากยังไม่ได้รวมผลกระทบของนโยบายการค้าที่เปลี่ยนแปลงซึ่งจะกระทบการส่งออกโดยตรงและชะลอการลงทุนในประเทศ ทั้งนี้ประมาณการดังกล่าวยังไม่รวมปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองไว้ในสมมุติฐาน
4. ททท. เผยยอดลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 3 วันแรกที่ 1,283,641 ราย จองที่พักและชำระเงินสำเร็จ 18,119 สิทธิ์ และมีสิทธิ์คงเหลือ 481,881 สิทธิ์ ส่วนปัญหาระหว่างการลงทะเบียน ททท. คาดจะใช้เวลาแก้ไขประมาณ 7 วันและตัดสินใจเปิดระบบต่อไประหว่างการปรับปรุงหลังเห็นสถานการณ์การลงทะเบียนดีขึ้นต่อเนื่อง
5. ปธน. ทรัมป์ให้การสนับสนุนการนำร่างกฎหมายของวุฒิสภาเข้าสู่รัฐสภา โดยจะกำหนดอัตราภาษีศุลกากรสูงถึง 500% ต่อจีนและอินเดียหากมีการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อกดดัน ปธน. ปูตินให้เข้าสู่การเจรจากับยูเครน
กลยุทธ์การลงทุน :
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์และผันผวนต่อ หลังยังรอความชัดเจนของปัจจัยทั้งในและนอกประเทศ โดยปัจจัยภายนอกติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลาง และความคืบหน้าการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ หลังใกล้เส้นตาย 9 ก.ค.
ขณะที่ปัจจัยภายใน ติดตามเสถียรภาพทางการเมือง และปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา อย่างไรก็ดี ประเมิน SET ที่บริเวณต่ำกว่า 1100 จุด คิดเป็น PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว โดยกลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :
มอง SET แกว่งตัวไซด์เวย์และยังผันผวนต่อ เนื่องจากยังรอความชัดเจนทั้งปัจจัยภายนอก (ความคืบหน้าการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐหลังใกล้เส้นตาย 9 ก.ค.)
ขณะที่ปัจจัยภายในติดตามเสถียรภาพทางการเมืองและปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีม หลักและ 2 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้...
1. หุ้น Defensive ที่ผันผวนต่ำและผลการดำเนินงานต้านทานความเสี่ยงภายนอกได้ (ผลกระทบจำกัดจากปัจจัยภายในและภายนอก) อีกทั้งยังมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ แนะนำ ADVANC BCH DIF
2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SETESG Rating A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT
3. หุ้น Earning Play ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ แนะนำ ADVANC CPALL BTG
Trading Idea :
สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร แนะนำ...
1) หุ้น Undervalue (PER PBV < -1SD) และ แนะนำ Outperform อีกทั้งคาดให้ Div. Yield ไม่ต่ำกว่าปีละ 3% แนะนำ BBL BDMS CPALL DIF PTT SIRI TIDLOR
2) หุ้นที่มีโอกาสได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐอย่างกลุ่มปูนซีเมนต์และท่องเที่ยว แนะนำ SCC SCCC ERW CENTEL AAV
Daily top picks :
CPALL : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจาก รายงาน SSS รวมของกลุ่มดีขึ้น ติดลบในอัตราที่ลดลงหนุนจิตวิทยา เราคาดกำไร 2Q68 จะเติบโต YoY และปี 2568 จะเติบโตดีที่สุดในกลุ่มที่ 19%YoY (กลุ่ม 5%YoY) และซื้อขาย PER 2568F ที่ 16 เท่า (กลุ่ม 17 เท่า) ส่วนการประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน (ไม่เกิน 1.67% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด) ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.-14 พ.ย. 68 จะช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้น
KTB : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้น มีโอกาสมีแรงซื้อเข้ามาตามภาพของตลาด เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มธนาคาร มี Upside จากการเพิ่มอัตราการจ่ายปันผลเพิ่ม และ Credit Cost สูงสุดใน1Q68 แล้วมีโอกาสลดลงในช่วงที่เหลือของปี ในขณะที่ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ และมี LLR Coverage สูง
กรอบค่าเงินบาทวันนี้ :
ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทกลับมาอ่อนค่าจากดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าหลังเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาสูงกว่าคาด และอัตราว่างงานลดลงมาที่ 4.1% ทำให้ตลาดคิดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่ลดดอกเบี้ยกรกฎาคมนี้ ด้าน Treasury yields สูงขึ้น
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณมูลค่า 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งจะมีการลดภาษีและลดการใช้จ่ายในโครงการสวัสดิการทางสังคม
ธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2025 ลงเหลือโต 1.8% และปีหน้าลงเหลือ 1.7%
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำวัน :
Economic release : EU – ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) พ.ค.
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์
You might be intertested in this news.
Mostview
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (2ก.ค.68) เริ่มแกว่งออกข้าง
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (2ก.ค.68) เริ่มแกว่งออกข้าง
ความทันสมัย ของ โคตะ ทาคาอิ กองหลังสัตว์ประหลาดแห่งเจลีก (ชมคลิป)
ความทันสมัย ของ โคตะ ทาคาอิ กองหลังสัตว์ประหลาดแห่งเจลีก (ชมคลิป)
มติศาลรธน.7ต่อ2 สั่งอุ๊งอิ๊งยุติปฏิบัติหน้าที่
มติศาลรธน.7ต่อ2 สั่งอุ๊งอิ๊งยุติปฏิบัติหน้าที่
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (2ก.ค.2025)
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (2ก.ค.2025)
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (1ก.ค.2025)
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (1ก.ค.2025)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
