วันศุกร์, ตุลาคม 10, 2568

ภาพรวมเศรษฐกิจไตรมาส3 จากผลกระทบภาษีทรัมป์

by Trust News, 7 กรกฎาคม 2568

ภาพรวมเศรษฐกิจไตรมาส3 จากผลกระทบภาษีทรัมป์

1. ทรัมป์เลื่อนวันขึ้นภาษีสหรัฐฯ :

โอกาสสุดท้ายของไทย การเลื่อนวันขึ้นภาษีของสหรัฐฯ จาก 9 ก.ค. เป็น 1 ส.ค. 2025 ให้เวลาไทยเพิ่มขึ้น 3 สัปดาห์ในการเจรจา แต่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเจรจาหรือ ลดความเสี่ยงที่ไทยจะต้องเผชิญกับภาษีในอัตราใกล้เคียงเวียดนาม (20%)

เนื่องจากสหรัฐฯ มีอำนาจต่อรองสูงกว่า ใช้ข้อตกลงเวียดนามเป็นแม่แบบ และไทยไม่ใช่คู่ค้าหลัก ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ

ทำให้ไทยต้องยอมตามเงื่อนไขของสหรัฐฯ มากขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงการลดภาษีนำเข้าสินค้าอเมริกันเป็น 0% เช่นเดียวกับเวียดนาม ส่งผลให้ความน่าจะเป็นต่อ GDP ยังคงเดิม คือ มีโอกาส 10% ที่จะเติบโต 1.7% หากเผชิญภาษี 10% มีโอกาส 60% ที่จะเติบโต 1.1-1.4% หากเผชิญภาษี 15-20% และมีความเสี่ยง 30% ที่เศรษฐกิจอาจหดตัวหรือเติบโตเพียง -1.1% ถึง 0.5% หากภาษีสูงถึง 25-36%

2. ทรัมป์จำกัดการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไปยังมาเลเซียและไทย :

รัฐบาลทรัมป์ได้จำกัดการส่งออกชิป AI จาก Nvidia ไปยังมาเลเซียและไทย เพื่อป้องกันการลักลอบนำเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงเข้าไปในจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่มาแทน AI Diffusion Rule ที่รัฐบาลไบเดนเคยออกมา

การจำกัดนี้ จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อภาคอิเล็กทรอนิกส์ของไทยที่มีมูลค่าการส่งออกถึง 4.55 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยจะกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน การลงทุนในศูนย์ข้อมูล และห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมที่ต้องการชิป AI สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ขั้นสูง แม้จะมีมาตรการผ่อนคลายบางประการสำหรับบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตร แต่ความไม่แน่นอนของนโยบายยังคงเป็นความเสี่ยงสำคัญต่ออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทย

สรุปภาพรวมเศรษฐกิจโลก-ไทย ในไตรมาสที่สาม คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะเผชิญความเสี่ยงต่อเนื่องจากสงครามการค้า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอลงจากผลกระทบภาษีศุลกากร

ทั้งนี้ ต้องจับตาเงินเฟ้อ การบริโภค และการจ้างงานใกล้ชิด ส่วนไทยจะเผชิญความเสี่ยงหลายด้านทำให้ประมาณการ GDP ขยายตัวเพียง 1.4% พร้อมความเสี่ยงขาลบที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งจากเศรษฐกิจโลกและความเสี่ยงในประเทศ

โดยเฉพาะความเสี่ยงการเมือง การเบิกจ่ายภาครัฐ และนโยบายการเงิน ทั้งนี้ เรามองว่า ข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-เวียดนามเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2025 ทำให้ไทยเผชิญความเสี่ยงจากการเจรจาการค้าที่จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจ จาก

(1) ไทยอาจต้องลดภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ เป็น 0% เช่นเดียวกับเวียดนาม

(2) ผลกระทบของภาษีส่งออกของไทยสู่สหรัฐฯ ซึ่งจะกระทบเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป โดยหากภาษีลดลงเหลือ 10% GDP จะเติบโต 1.7% ในปี 2025 (ความน่าจะเป็น 10%) แต่หากภาษี 15-20% GDP จะเติบโตเพียง 1.1-1.4% (ความน่าจะเป็น 60%) ส่วนในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หากต้องเผชิญภาษี 25-36% GDP อาจหดตัวที่ -1.1% ถึง +0.5% (ความน่าจะเป็น 30%)

อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์


You might be intertested in this news.

Mostview

เคล็ดลับความสำเร็จกัปตันซึบาสะ ความคิดของคนเลือกอยู่หัวแถว

เคล็ดลับความสำเร็จกัปตันซึบาสะ ความคิดของคนเลือกอยู่หัวแถว ตอนที่ 1

แนวโน้มราคาทองวันนี้(10ต.ค.68) ฟื้นตัวขึ้นระยะสั้น

แนวโน้มราคาทองวันนี้(10ต.ค.68) ฟื้นตัวขึ้นระยะสั้น

แนวโน้มราคาทองวันนี้(8ต.ค.68) ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองวันนี้(8ต.ค.68) ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น

5 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (10ต.ค.2025)

5 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (10ต.ค.2025)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (8ต.ค.2025)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (8ต.ค.2025)

TrustNEws Line