ภาพรวมเศรษฐกิจไตรมาส3 จากผลกระทบภาษีทรัมป์
by Trust News, 7 กรกฎาคม 2568
ภาพรวมเศรษฐกิจไตรมาส3 จากผลกระทบภาษีทรัมป์
1. ทรัมป์เลื่อนวันขึ้นภาษีสหรัฐฯ :
โอกาสสุดท้ายของไทย การเลื่อนวันขึ้นภาษีของสหรัฐฯ จาก 9 ก.ค. เป็น 1 ส.ค. 2025 ให้เวลาไทยเพิ่มขึ้น 3 สัปดาห์ในการเจรจา แต่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเจรจาหรือ ลดความเสี่ยงที่ไทยจะต้องเผชิญกับภาษีในอัตราใกล้เคียงเวียดนาม (20%)
เนื่องจากสหรัฐฯ มีอำนาจต่อรองสูงกว่า ใช้ข้อตกลงเวียดนามเป็นแม่แบบ และไทยไม่ใช่คู่ค้าหลัก ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ
ทำให้ไทยต้องยอมตามเงื่อนไขของสหรัฐฯ มากขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงการลดภาษีนำเข้าสินค้าอเมริกันเป็น 0% เช่นเดียวกับเวียดนาม ส่งผลให้ความน่าจะเป็นต่อ GDP ยังคงเดิม คือ มีโอกาส 10% ที่จะเติบโต 1.7% หากเผชิญภาษี 10% มีโอกาส 60% ที่จะเติบโต 1.1-1.4% หากเผชิญภาษี 15-20% และมีความเสี่ยง 30% ที่เศรษฐกิจอาจหดตัวหรือเติบโตเพียง -1.1% ถึง 0.5% หากภาษีสูงถึง 25-36%
2. ทรัมป์จำกัดการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไปยังมาเลเซียและไทย :
รัฐบาลทรัมป์ได้จำกัดการส่งออกชิป AI จาก Nvidia ไปยังมาเลเซียและไทย เพื่อป้องกันการลักลอบนำเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงเข้าไปในจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่มาแทน AI Diffusion Rule ที่รัฐบาลไบเดนเคยออกมา
การจำกัดนี้ จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อภาคอิเล็กทรอนิกส์ของไทยที่มีมูลค่าการส่งออกถึง 4.55 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยจะกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน การลงทุนในศูนย์ข้อมูล และห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมที่ต้องการชิป AI สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ขั้นสูง แม้จะมีมาตรการผ่อนคลายบางประการสำหรับบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตร แต่ความไม่แน่นอนของนโยบายยังคงเป็นความเสี่ยงสำคัญต่ออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทย
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจโลก-ไทย ในไตรมาสที่สาม คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะเผชิญความเสี่ยงต่อเนื่องจากสงครามการค้า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอลงจากผลกระทบภาษีศุลกากร
ทั้งนี้ ต้องจับตาเงินเฟ้อ การบริโภค และการจ้างงานใกล้ชิด ส่วนไทยจะเผชิญความเสี่ยงหลายด้านทำให้ประมาณการ GDP ขยายตัวเพียง 1.4% พร้อมความเสี่ยงขาลบที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งจากเศรษฐกิจโลกและความเสี่ยงในประเทศ
โดยเฉพาะความเสี่ยงการเมือง การเบิกจ่ายภาครัฐ และนโยบายการเงิน ทั้งนี้ เรามองว่า ข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-เวียดนามเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2025 ทำให้ไทยเผชิญความเสี่ยงจากการเจรจาการค้าที่จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจ จาก
(1) ไทยอาจต้องลดภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ เป็น 0% เช่นเดียวกับเวียดนาม
(2) ผลกระทบของภาษีส่งออกของไทยสู่สหรัฐฯ ซึ่งจะกระทบเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป โดยหากภาษีลดลงเหลือ 10% GDP จะเติบโต 1.7% ในปี 2025 (ความน่าจะเป็น 10%) แต่หากภาษี 15-20% GDP จะเติบโตเพียง 1.1-1.4% (ความน่าจะเป็น 60%) ส่วนในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หากต้องเผชิญภาษี 25-36% GDP อาจหดตัวที่ -1.1% ถึง +0.5% (ความน่าจะเป็น 30%)
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์
You might be intertested in this news.
Mostview
ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น
ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ
6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)
6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)
7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)
7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง