แนวโน้มSETวันนี้ (9ก.ค.68) ไซด์เวย์ รอความชัดเจนภาษี
by Trust News, 9 กรกฎาคม 2568
แนวโน้มSETวันนี้ (9ก.ค.68) ไซด์เวย์ รอความชัดเจนภาษี
คาดตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์ มีแนวรับที่ 1110/1100-1095 ส่วนแนวต้านประเมินไว้ที่ 1122/1128 เป็นลักษณะของการแกว่งตัวไซด์เวย์รอความชัดเจนเรื่องอัตราภาษี
ตลาดทยอยรับรู้ความเสี่ยงหลังสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีนำเข้าจากไทย 36% ไประดับหนึ่ง และคาดหวังโอกาสในการเจรจาเพิ่ม หลังจากที่เส้นตายเลื่อนออกไปอีก 3 สัปดาห์เป็นวันที่ 1 ส.ค. แทน
ประเด็นสำคัญ :
1. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมประกาศเก็บภาษีนำเข้าทองแดง 50% จะเริ่มในช่วงสิ้นเดือน ก.ค. หรือไม่เกิน 1 ส.ค. 2568 คาดว่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้
2. ปธน. ทรัมป์เผยว่าจดหมายแจ้งถึงแต่ละประเทศคู่ค้าจะถูกทยอยส่งออกไปในช่วงต่อจากนี้ และไม่มีการยืดระยะเวลาบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรจะเริ่มในวันที่ 1 ส.ค.โดยไม่ผ่อนผันหรือยกเว้น
3. สรท. มองการที่ไทยโดนภาษีตอบโต้ 36% จะสร้างความเสียหายสูงและติดลบอย่างแน่นอนใน 2H68 เนื่องจากคู่แข่งสำคัญในภูมิภาค เช่น เวียดนามและมาเลเซีย โดนภาษีในอัตราที่ต่ำกว่า ด้าน ส.อ.ท. ประเมินการส่งออกไทยจะเสียหายราว 8-9 แสนลบ.
4. รมช. คลังเผยรัฐบาลยังมีเม็ดเงินกระตุ้น ศก. อีก 4-5 หมื่นลบ. จากวงเงินทั้งหมด 1.57 แสนลบ. สำหรับออกมาตรการเพื่อดูแลผู้ประกอบการที่คาดจะได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีสหรัฐฯ อัตรา 36% ส่วนรายละเอียดการใช้และจะใช้เมื่อไรต้องรอให้กระบวนการเจรจาการค้าแล้วเสร็จก่อน
5. ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการกำหนดค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ครอบคลุมทุกสายทั่ว กทม. และปริมณฑล โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” ใน ส.ค. นี้ และจะเริ่มต้นมาตรการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2568 เป็นต้นไป
6. รมว.ท่องเที่ยวฯ เผยจำนวน นทท. จีนฟื้นตัว 26.9%WoW และขึ้นสู่อันดับหนึ่งจากการเข้าสู่ช่วงปิดภาคเรียนในจีนส่วน นทท. จากตลาดระยะไกลเพิ่มขึ้น 19.5%WoW เนื่องจากเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวในยุโรปและออสเตรเลีย ขณะที่มาเลเซียและอินเดียชะลอตัวลง ทำให้จำนวน นทท. สะสมปีนี้ที่ 17.18 ล้านคน ลดลง 5.1%YoY
กลยุทธ์การลงทุน :
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวน แม้มองปัจจัยการเมืองในประเทศ จะยังไม่มีแรงกดดันเพิ่มในช่วงสั้น เพราะยังต้องรอ ผลการตัดสินขั้นสุดท้ายของศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากที่มีมติให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่
แต่ตลาดน่าจะกำลังติดตามความเสี่ยงเรื่องอัตราภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ ที่ประกาศเรียกเก็บจากประเทศคู่ค้าซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. โดยไทยถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 36% สูงกว่าประเทศคู่แข่งสำคัญในกลุ่มอาเซียน ซึ่งทำให้ไทยมีโอกาสสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน
อย่างไรก็ดีเราประเมิน SET ที่บริเวณต่ำกว่า 1100 จุด คิดเป็น PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว โดยกลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :
มอง SET แกว่งตัวผันผวน กังวลไทยถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีศุลกากรอัตรา 36% สูงกว่าประเทศคู่แข่งสำคัญในกลุ่มอาเซียน ซึ่งจะทำให้ไทยมีโอกาสสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้...
1. หุ้น Earning Play ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ 3Q68 คาดกำไรยังเติบโต YoY แนะนำ ADVANC BCH CBG CPALL SCCC
2. หุ้น Defensive ที่ผันผวนต่ำและผลการดำเนินงานต้านทานความเสี่ยงภายนอกได้ (ผลกระทบจำกัดจากปัจจัยภายในและภายนอก) อีกทั้งยังมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ แนะนำ ADVANC BCH DIF
3. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SETESG Rating A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT
Trading Idea :
สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร แนะนำ...
1) หุ้น Undervalue (PER และ PBV < -1SD) และเราแนะนำ Outperform อีกทั้งคาดให้ Div. Yield ไม่ต่ำกว่าปีละ 3% แนะนำ BBL BCPG BDMS CPALL DIF PTT SIRI TIDLOR
2) หุ้นที่มีโอกาสได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวไทย แนะนำ ERW CENTEL AAV
3) หุ้นที่คาดฟื้นตัวเร็วหากเชื่อว่าการเจรจาจะทำให้สหรัฐพิจารณาปรับลดภาษีไทยลงมาอยู่ที่ระดับ 20% หรือต่ำกว่า แนะนำ AMATA GPSC WHA
Daily top picks :
CENTEL : ราคาหุ้นได้รับปัจจัยกระตุ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเริ่มฟื้นตัว 27%WoW กราฟเทคนิคดี และโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” จะกลับมาเปิดลงทะเบียนรับสิทธิ์ใหม่ภายใน 2 วัน ในขณะที่ผ่านมาการดำเนินงานโรงแรมในประเทศไทยและญี่ปุ่นแข็งแกร่ง และราคาปรับตัวลงตอบสนอง 2Q68 ซึ่งเป็นโลว์ซีซันไประดับหนึ่งแล้ว
CPALL : มองราคาหุ้นได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาดจำกัด คาดว่า กำไรปกติ 2Q68 อยู่ที่ 6.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น +9% YoY จากการฟื้นตัวของธุรกิจ CVS และ CPAXT และปี 2568 จะเติบโตดีที่สุดในกลุ่มที่ 15%YoY และซื้อขาย PER 2568F ที่ 14 เท่า ส่วนการประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน (ไม่เกิน 1.67% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด) ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. - 14 พ.ย. 2568 จะช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้น
กรอบค่าเงินบาทวันนี้ :
ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.75บาท/ดอลลาร์
เงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยหลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันผ่านโซเชียลมีเดียว่าจะไม่เลื่อนวันที่บังคับใช้อัตราภาษีนำเข้าใหม่ โดยจะเป็นวันที่ 1 สิงหาคม
ทรัมป์ขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้า 50% กับผลิตภัณฑ์ทองแดงที่ส่งเข้ามาในสหรัฐฯ และอาจขึ้นภาษีนำเข้ายาสูงถึง 200% ส่วนอินเดียอาจถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก 10%
ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายเริ่มบังคับใช้ 1 ตุลาคม ขณะที่คลังมั่นใจว่าไทยจะสามารถเจรจาลดภาษีจากสหรัฐได้
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำวัน :
Economic release : CN – ดัชนี PPI มิ.ย., ดัชนี CPI มิ.ย.
JP – คําสั่งซื้อเครื่องจักรกล มิ.ย. (เบื้องต้น)
US – คําขอสินเชื่อบ้าน ณ 4 ก.ค., ค่าคงคลังภาคค้าส่ง พ.ค. (ประมาณการ ครั้งที่ 2)
CN – ปริมาณเงิน M2 มิ.ย. (ช่วงรายงาน 9–15 ก.ค.)
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์
You might be intertested in this news.
Mostview
เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา
เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา (PART1)
อีนางคำดวง อาชีพ “นายฮ้อย” กับเรื่องจริงการค้าควาย สมัย ร.5
จากละคร สู่เรื่องจริง อาชีพ "นายฮ้อย" และการค้าขายควาย ในสมัย ร.5 สาเหตุที่เฟื่องฟู กับปัญหาการขโมยและปล้นควาย...
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(23ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากำไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(23ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากำไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(22ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากําไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(22ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากําไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(17ก.ย.68) เก็งกําไรในกรอบ
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(17ก.ย.68) เก็งกําไรในกรอบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
