คาดขึ้นภาษี อียู 30% แค่เกมกดดันของทรัมป์
by Trust News, 14 กรกฎาคม 2568
คาดขึ้นภาษี อียู 30% แค่เกมกดดันของทรัมป์
12 ก.ค. 25 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ส่งจดหมายว่า สหรัฐฯ จะเก็บภาษีนำเข้าอัตรา 30% ต่อสินค้าทุกประเภทที่นำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 25 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ยังมีการประกาศเก็บภาษีในอัตราเดียวกันกับสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกด้วย
ทรัมป์ให้เหตุผลว่ามาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดดุลระหว่างสหรัฐฯ กับ EU สินค้าสำคัญที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ รถยนต์ เครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้า และเวชภัณฑ์ ซึ่งเป็นสินค้าหลักที่ EU ส่งออกมายังสหรัฐฯ
ด้านประธานคณะกรรมาธิการยุโรป Ursula von der Leyen แถลงว่า สหภาพยุโรปพร้อมเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อหาข้อตกลงก่อนวันที่ 1 ส.ค. 25 โดยทรัมป์เคยประกาศภาษี 20% เมื่อ เม.ย. 25 ก่อนลดเหลือ 10% เพื่อเปิดทางให้เจรจา แต่ล่าสุดปรับขึ้นเป็น 30% ท่ามกลางความล่าช้า แม้ EU ระบุว่าใกล้บรรลุกรอบเจรจาแล้วก็ตาม
บทวิเคราะห์ :
เบื้องต้นประเมินว่า การเจรจาระหว่างยุโรปและสหรัฐฯ ที่ใกล้บรรลุกรอบแล้ว ถือว่ามีความคืบหน้ามากกว่าหลายประเทศ การส่งจดหมายประกาศขึ้นภาษีรอบนี้ มีจุดประสงค์เพื่อเร่งให้ทั้งสองฝ่ายสรุปข้อตกลงให้ทันก่อน 1 ส.ค. 25 ซึ่งเป็นวันที่มาตรการภาษีจะเริ่มมีผลบังคับใช้
ทั้งนี้ หากภาษีนำเข้าดังกล่าวมีผลจริง จะสร้างแรงกดดันต่อต้นทุนการนำเข้าสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าจำเป็น เช่น รถยนต์และชิ้นส่วนอุตสาหกรรม ซึ่งอาจผลักดันเงินเฟ้อให้ทรงตัวในระดับสูงกว่าเดิมในระยะสั้น และอาจเป็นปัจจัยที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ต้องจับตาในรอบการตัดสินใจนโยบายการเงินครึ่งปีหลัง
สำหรับห่วงโซ่อุปทานโลก กลุ่มประเทศในเอเชียซึ่งเป็นซัพพลายเชนของยุโรป เช่น ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์หรืออิเล็กทรอนิกส์ อาจได้รับผลกระทบทางอ้อม หรือในบางกรณีอาจได้ประโยชน์จากคำสั่งซื้อที่มีการโยกฐานผลิตหรือเปลี่ยนเส้นทางการค้า
ในฝั่งยุโรป แม้ในทางทฤษฎี EU อาจมีทางเลือกในการพิจารณามาตรการตอบโต้ทางการค้า (Retaliatory Tariffs) หากสหรัฐฯ เดินหน้าเก็บภาษีตามที่ประกาศจริง
อย่างไรก็ตาม จากท่าทีของประธานคณะกรรมาธิการยุโรป Ursula von der Leyen ที่เน้นย้ำถึงความพร้อมในการเจรจา ทำให้เชื่อได้ว่า มาตรการตอบโต้ จะยังคงเป็นเพียงทางเลือกสำรอง (Back-up Option) และมีแนวโน้มถูกใช้ก็ต่อเมื่อการเจรจาล้มเหลวอย่างชัดเจน
ดังนั้นในระยะนี้ ตลาดยังคงให้น้ำหนักไปที่ความคืบหน้าของการเจรจามากกว่าความเสี่ยงตอบโต้โดยตรง
คำแนะนำการลงทุน :
ยังคงคำแนะนำ ทยอยซื้อหุ้นยุโรปผ่านกองทุน ES-EG-A โดยอาศัยจังหวะที่หุ้นยุโรปปรับตัวลงเป็นโอกาสเข้าสะสม ทั้งนี้ อัตราภาษี 30% ถือว่าสูงกว่าอัตราที่เคยประกาศไว้ใน เม.ย. 25 ที่ 20% และอาจสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นยุโรปในระยะสั้นได้
อย่างไรก็ดี ยังคงเชื่อว่า หากการเจรจามีความคืบหน้าและสามารถตกลงกันได้ภายในกำหนด จะช่วยให้ตลาดคลายความกังวลได้ และยังมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญ คือ อัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ของดัชนี STOXX600 ในปี 26 ที่มีแนวโน้มเติบโตมากกว่า 10% ได้แรงหนุนจากนโยบายการคลังของประเทศต่างๆ ภายในภูมิภาค เช่น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการเสริมศักยภาพด้านการป้องกันประเทศของเยอรมนี
นอกจากนี้ ปัจจัยสนับสนุนเชิงโครงสร้าง เช่น การลงทุนด้านพลังงานสะอาด (Green Deal), การเร่งพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล, การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว และแนวโน้มเงินเฟ้อที่ชะลอตัวซึ่งอาจเอื้อให้ ECB ผ่อนคลายนโยบายการเงิน ล้วนเป็นแรงหนุนสำคัญต่อทิศทางหุ้นยุโรปในครึ่งหลังปี 25 ถึงปี 26
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์
You might be intertested in this news.
Mostview
แรงกระแทก “สีกากอล์ฟ” นารีพิฆาตพระ กับขบวนการทำลายพุทธศาสนา มีจริงไหม..?
ปกติแล้ว เมื่อพระเจอ “นารีพิฆาต” จะมาในรูปแบบบุคคลกับบุคคล แต่กรณี “สีกากอล์ฟ” นั้น กลับไม่ใช่ เรียกว่า ทำให้คณะสงฆ์สมณสูงหลายรูป โดยเฉพาะชั้น "เทพ" ต้องสละผ้าเหลือง เพราะแบบนี้ จึงถูกตั้งคำถามว่า จะเกี่ยวข้องกับ "ขบวนการทำลายพุทธศาสนา" หรือไม่...
อะไรคืออุปสรรค ที่ แมนยูฯ ของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ (ชมคลิป)
อะไรคืออุปสรรค ที่ แมนยูฯ ของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ (ชมคลิป)
คำตอบความอดทนของอาร์เซนอล ทำไมจึงต้องเป็น มาร์ติน ซูบิเมนดี้ (ชมคลิป)
คำตอบความอดทนของอาร์เซนอล ทำไมจึงต้องเป็น มาร์ติน ซูบิเมนดี้ (ชมคลิป)
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (16ก.ค.68) ทยอยซื้อสะสม
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (16ก.ค.68) ทยอยซื้อสะสม
แนวโน้มตลาดวันนี้ (14ก.ค.68) ความกังวลภาษียังกดดัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (14ก.ค.68) ความกังวลภาษียังกดดัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
