แนวโน้มตลาดวันนี้ (14ก.ค.68) ความกังวลภาษียังกดดัน
by Trust News, 14 กรกฎาคม 2568
แนวโน้มตลาดวันนี้ (14ก.ค.68) ความกังวลภาษียังกดดัน
คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์ การขึ้นวันศุกร์ยังมีแรงเทขายออกเร็ว มีแนวรับที่ 1115/1108 ที่ต้องไม่หลุดต่ำกว่า ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1130/1135 ต้องยืนเหนือได้จึงจะกลับมาขึ้นรอบใหม่
สหรัฐฯ ประกาศภาษีนําเข้ากับ EU และเม็กซิโกที่ 30% ในช่วงสุดสัปดาห์ ส่วนแคนาดาในอัตรา 35% เป็นปัจจัยที่กลับมากดดันจิตวิทยาตลาดหุ้นรอบใหม่
ประเด็นสําคัญ :
1. ปธน. ทรัมป์ ขู่เก็บภาษีนําเข้าจาก EU และเม็กซิโกในอัตรา 30% และจะ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. นี้ หากยังไม่สามารถทําข้อตกลง การค้าใหม่กับสหรัฐฯ ได้ก่อนกําหนดข้างต้น เนื่องจาก EU ล่าช้าต่อ การเจรจาจากครั้งก่อนที่สหรัฐฯ เคยเปิดโอกาสลดอัตราภาษีสู่10% และยกประเด็นสงครามยาเสพติดต่อเม็กซิโกอีกครั้ง
2. รมว. คลังเผยจดหมายที่ได้รับจาก ปธน. ทรัมป์นั้นเป็นการเลื่อนเวลา ให้กับไทยและการเจรจายังไม่ถึงที่สุด โดยมีเวลาถึงวันที่ 1 ส.ค. นี้ ส่วนการประชุมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้องและคณะที่ปรึกษา ณ บ้าน พิษณุโลก คาดจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับผลกระทบต่อรายอุตฯ ในวันนี้
3. ในการประชุม ครม. วันที่ 15 ก.ค.นี้ รมว.คลัง จะนําเสนอชื่อบุคคล เพื่อดํารงตําแหน่งผู้ว่าฯ ธปท. คนใหม่ให้ที่ประชุม ครม.อนุมัติ
4. ททท. เผยสถานการณ์ลงทะเบียนโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ตั้งแต่เริ่มโครงการถึงวันที่ 11 ก.ค. เวลา 8.30 น. มีจํานวนการ ลงทะเบียนสําเร็จที่ 1,585,208 ราย, จองที่พักและชําระเงินแล้ว 91,008 สิทธิ์ และมีสิทธิ์คงเหลือ 408,992 สิทธิ์
5. รมช. คมนาคมเผยความคืบหน้าโครงการบ้านเพื่อคนไทย เตรียม เสนอ ครม. เห็นชอบจับสลากสิทธิเข้าอยู่เฟสแรก 5,000 ยูนิต ภายใน ต.ค. นี้, เริ่มประมูลหาผู้รับเหมาใน พ.ย. นี้ และคาดว่าจะเสร็จ สิ้นและเริ่มเข้าอยู่ได้ภายในปลายปี 2569
6. ติดตามการแถลงครั้งใหญ่ของ ปธน. ทรัมป์เกี่ยวกับรัสเซียในวันนี้ หลังจากที่เขาได้แสดงความผิดหวังต่อ ปธน. ปูติน และกล่าวหาว่าเขา เป็นผู้ที่ขัดขวางความพยายามการสร้างสันติภาพในยูเครน
กลยุทธ์การลงทุน :
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวนเนื่องจากยังกังวลอัตราภาษี ศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ ที่ประกาศเรียกเก็บจากประเทศคู่ค้าซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. นี้
สําหรับไทยถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 36% สูงกว่าประเทศคู่แข่งสําคัญในกลุ่มอาเซียน ซึ่งทําให้ไทยมีโอกาสสูญเสีย ความสามารถในการแข่งขันและกดดันให้ GDP อาจเติบโตชะลอตัวได้ จึง
เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามความคืบหน้าการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับ ไทยอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ดี เบื้องต้นประเมิน SET ที่บริเวณต่ำกว่า 1100 จุด คิดเป็น PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสมสําหรับนักลงทุน ระยะกลาง-ยาว กลยุทธ์ลงทุนคงแนะนําให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจําสัปดาห์ :
มอง SET แกว่งตัวผันผวน ยังมีความกังวลไทยจะถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีศุลกากรสูงกว่าประเทศ คู่แข่งสําคัญในกลุ่มอาเซียนและอาจทําให้ไทยสูญเสียความสามารถการแข่งขันและกดดันการเติบโต GDP ลง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนําให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัย บวกเฉพาะตัว ดังนี้...
1. หุ้น Earning Play โมเมนตัมกําไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกําไรปกติจะเติบโตได้ ทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ 3968 คาดกําไรยังเติบโต YoY แนะนํา ADVANC BCH CBG
CPALL SCCC
2. หุ้น Defensive ที่ผันผวนต่ำและผลการดําเนินงานต้านทานความเสี่ยงภายนอกได้
(ผลกระทบจํากัดจากปัจจัยภายในและภายนอก) อีกทั้งยังมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ
แนะนํา ADVANC BCH DIF
3. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SETESG Rating A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่ พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกําไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนํา ADVANC BBL PTT
Trading Ideas :
สําหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกําไร แนะนํา...
1) หุ้น Undervalue (PER และ PBV < -1SD) และเราแนะนํา Outperform อีกทั้งคาดให้ Div. Yield ไม่ต่ำกว่าปีละ 3% แนะนํา BBL BCPG BDMS CPALL DIF PTT SIRI TIDLOR
2) หุ้นที่ มีโอกาสได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวไทย แนะนํา ERW CENTEL AAV
3) หุ้นที่คาดฟื้นตัวเร็วหากเชื่อว่าการเจรจาจะทําให้สหรัฐฯ พิจารณาปรับลดภาษีไทยลงมาอยู่ที่ ระดับ 20% หรือต่ำกว่า แนะนํา AMATA GPSC WHA
Daily top picks :
PTT : มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากราคาน้ํามันที่ปรับตัวขึ้น และ Valuation หุ้นไม่แพง โดยซื้อขาย PBV 2568F ที่ระดับ 0.7 เท่า (-1.5 SD) และ PER ที่ระดับ 7.5 เท่าเทียบค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ PBV 1.3 เท่า และ PER 14.6 เท่า อีกทั้งปี 2568 คาดกําไรยังเติบโตเด่น 44%YoY และ ให้ Div. Yield ปีนี้สูงราว 6-7%
ADVANC : มองเป็นหุ้น Defensive และได้ประโยชน์จาก กสทช. มีมติรับรองผลการประมูล คลื่นความถี่ ประเมินว่า ADVANC จะได้ประโยชน์จากการลดต้นทุนที่มีนัยสําคัญ โดย จะลดต้นทุนได้ราว 2.3 พันล้านบาทต่อปี และปี 2568 กําไรสุทธิคาดจะอยู่ที่ 40.7 พันล้าน
บาท เติบโต 16.9%YoY
กรอบค่าเงินบาทวันนี้ :
ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทยังแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องตามราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้น และเงินหยวนที่แข็งค่าหลังธนาคารกลางจีนตั้ง Fixing เงินหยวนให้แข็งค่าขึ้น
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศว่าจะขึ้นภาษีจาก EU และเม็กซิโกที่ 30% และจะขึ้นภาษีจากแคนาดาที่ 35% วันที่ 1 ส.ค. แต่ยังเปิดโอกาสให้เจรจาเพื่อลดอัตราภาษีลงได้
ผลสำรวจจากนิด้าโพลชี้ว่า ประชาชนราว 42% เห็นว่า นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ควรลาออกจากตำแหน่ง ขณะที่เสียงราว 33% สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ คนต่อไป
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์
You might be intertested in this news.
Mostview
แรงกระแทก “สีกากอล์ฟ” นารีพิฆาตพระ กับขบวนการทำลายพุทธศาสนา มีจริงไหม..?
ปกติแล้ว เมื่อพระเจอ “นารีพิฆาต” จะมาในรูปแบบบุคคลกับบุคคล แต่กรณี “สีกากอล์ฟ” นั้น กลับไม่ใช่ เรียกว่า ทำให้คณะสงฆ์สมณสูงหลายรูป โดยเฉพาะชั้น "เทพ" ต้องสละผ้าเหลือง เพราะแบบนี้ จึงถูกตั้งคำถามว่า จะเกี่ยวข้องกับ "ขบวนการทำลายพุทธศาสนา" หรือไม่...
อะไรคืออุปสรรค ที่ แมนยูฯ ของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ (ชมคลิป)
อะไรคืออุปสรรค ที่ แมนยูฯ ของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ (ชมคลิป)
คำตอบความอดทนของอาร์เซนอล ทำไมจึงต้องเป็น มาร์ติน ซูบิเมนดี้ (ชมคลิป)
คำตอบความอดทนของอาร์เซนอล ทำไมจึงต้องเป็น มาร์ติน ซูบิเมนดี้ (ชมคลิป)
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (16ก.ค.68) ทยอยซื้อสะสม
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (16ก.ค.68) ทยอยซื้อสะสม
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (14ก.ค.68) หาจังหวะขายทํากําไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (14ก.ค.68) หาจังหวะขายทํากําไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
