วันศุกร์, ตุลาคม 10, 2568

แนวโน้มSETวันนี้(18ก.ค.68) เจรจาการค้ายังไม่ได้ข้อสรุป

by Trust News, 18 กรกฎาคม 2568

แนวโน้มSETวันนี้(18ก.ค.68) เจรจาการค้ายังไม่ได้ข้อสรุป

คาดตลาดมีโอกาสชะลอตัว หลังวานนี้ปรับขึ้นแรงจาก DELTA และ Fund Flow ที่เริ่มไหลเข้าตลาดหุ้นอาเซียน (เวียดนาม อินโดนีเซีย) เนื่องจากรับรู้อัตราภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ไปแล้ว

ประเมินแนวต้าน 1212/1230 แนวรับ 1185/1180 โดย SET ที่ระดับ 1230-1250 (คิดเป็น PER ราว 15 เท่า) จะสะท้อนถึงความคาดหวังว่า ไทยจะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ ในระดับ 20% หรือต่ำกว่าไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ดีต้องจับตาการเจรจาการค้าที่ยังไม่ได้ข้อสรุป

ประเด็นสำคัญ :

1. วานนี้ (17ก.ค.68) นายทักษิณ ชินวัตร กล่าวปาฐกถาพิเศษหนุนปรับขึ้นค่า PSC ของสนามบิน เพื่อเพิ่มรายได้-ขยายสนามบิน , ยกระดับการท่องเที่ยวด้วยการเพิ่มความปลอดภัยผ่านการติดกล้อง AI และส่งเสริมการจัดการแข่งรถ F1 หนุนทำ Sand Box การใช้คริปโตทั้งประเทศ และมองการเจรจาการค้าสหรัฐฯ กระทบสินค้าเกษตร, อัญมนี และธุรกิจ SMEs


2. กกพ. มีมติเปิดรับฟังความคิดเห็น (17-28 ก.ค. 68) สำหรับค่าไฟฟ้างวด ก.ย.-ธ.ค. 2568 ที่ 3.98-5.10 บาท/หน่วย ชี้ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงคลายตัว ทั้งนี้เรามองค่าไฟฟ้าที่ระดับสูงกว่า 3.98 บาท/หน่วย เป็นไปได้ยากหลังก่อนหน้านี้ รมว. พลังงานยืนยันค่าไฟฟ้าจะไม่เกิน 3.99 บาท/หน่วย คงแนะนำ Outperform สำหรับ GULF และ BCPG

3. สมาคมผู้ค้าปลีกไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ค้าปลีก มิ.ย. 2568 ปรับลดลงต่อเนื่องจนทำ New Time Low ในรอบ 42 เดือน สะท้อนกำลังซื้อผู้บริโภคเปราะบาง ผู้ประกอบการชะลอลงทุน หนุนกระตุ้นเร่งด่วนจาก 2 แนวทาง Easy e-Receipt/ช็อปดีมีคืน

4. ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ มิ.ย. เพิ่มขึ้น 0.6%MoM สูงกว่าตลาดคาด และตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 7,000 ราย สู่ระดับ 221,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน และต่ำกว่าตลาดคาด บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน


5. ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก เตือนผลกระทบจากมาตรการภาษีของ ปธน. ทรัมป์ยังเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น และนโยบายการเงินที่คุมเข้มเล็กน้อยยังเหมาะสม และช่วยให้เฟด มีเวลาวิเคราะห์ข้อมูล ประเมินภาษีการค้าจะทำให้เงินเฟ้อขึ้นอีกราว 1% ในช่วง 2H68-1H69
 
กลยุทธ์การลงทุน :

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวนเนื่องจากยังกังวลอัตราภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ ที่ประกาศเรียกเก็บจากประเทศคู่ค้า ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. นี้

สำหรับไทยถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 36% สูงกว่าประเทศคู่แข่งสำคัญในกลุ่มอาเซียน ซึ่งทำให้ไทยมีโอกาสสูญเสียความสามารถในการแข่งขันและกดดันให้ GDP อาจเติบโตชะลอตัวได้ จึงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามความคืบหน้า การเจรจาระหว่างสหรัฐฯกับไทยอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ดีเราประเมิน SET ที่บริเวณต่ำกว่า 1100 จุด คิดเป็น PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสม สำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว กลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”
 
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :

มอง SET แกว่งตัวผันผวน ยังมีความกังวลไทยจะถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีศุลกากรสูงกว่าประเทศคู่แข่งสำคัญในกลุ่มอาเซียนและอาจทำให้ไทยสูญเสียความสามารถการแข่งขันและกดดันการเติบโต GDP ลง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้...

1. หุ้น Earning Play โมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ 3Q68 คาดกำไรยังเติบโต YoY แนะนำ ADVANC BCH CBG CPALL SCCC

2. หุ้น Defensive ที่ผันผวนต่ำและผลการดำเนินงานต้านทานความเสี่ยงภายนอกได้ (ผลกระทบจำกัดจากปัจจัยภายในและภายนอก) อีกทั้งยังมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ แนะนำ ADVANC BCH DIF


3. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SETESG Rating A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT

Trading Ideas :

สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร แนะนำ...

1) หุ้น Undervalue (PER และ PBV < -1SD) และเราแนะนำ Outperform อีกทั้งคาดให้ Div. Yield ไม่ต่ำกว่าปีละ 3% แนะนำ BBL BCPG BDMS CPALL DIF PTT SIRI TIDLOR

2) หุ้นที่มีโอกาสได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวไทย แนะนำ ERW CENTEL AAV

3) หุ้นที่คาดฟื้นตัวเร็วหากเชื่อว่าการเจรจาจะทำให้สหรัฐฯ พิจารณาปรับลดภาษีไทยลงมาอยู่ที่ระดับ 20% หรือต่ำกว่า แนะนำ AMATA GPSC WHA
 
Daily top picks :

KTB : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้น หลังผลประกอบการกลุ่มธนาคารทั้ง BBL และ TISCO ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ KTB เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มธนาคาร และมี Upside จากการเพิ่มอัตราการจ่ายปันผลเพิ่มและ Credit Cost สูงสุดใน 1Q68 แล้วมีโอกาสลดลงในช่วงที่เหลือของปี ในขณะที่ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ มี LLR Coverage สูง
 
GPSC : มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจาก กกพ. เสนอทางเลือกค่าไฟฟ้างวด ก.ย.-ธ.ค. 2568 ระหว่าง 3.98-5.10 บาท/หน่วย 2568 โดยคาดว่าจะไม่สูงกว่าในงวดก่อนที่ 3.98 บาท/หน่วย ทำให้ผลกระทบต่อผลประกอบการจำกัด ขณะที่ปี 2568 คาดกำไรปกติจะเติบโต 3.9%YoY โดยมีปัจจัยหนุนจาก การเพิ่มกำลังการผลิต, ต้นทุนเชื้อเพลิงและผลตอบแทนพันธบัตรลดลง และไม่ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้ภาษีขั้นต่ำสากล (GMT)

กรอบค่าเงินบาทวันนี้ : 

ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.55 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบขณะที่ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย หลังเลขยอดค้าปลีกสหรัฐฯ กลับมาขยายตัวที่ 0.6%MOM สูงกว่าตลาดคาดที่ 0.1%

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมส่งจดหมายถึง 150 ประเทศ เพื่อแจ้งอัตราภาษีนำเข้าที่จะถูกปรับเพิ่ม 10% หรือ 15% และทรัมป์มีท่าทีแข็งกร้าวกับจีนน้อยลง

ไทยเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยทางการไทยยืนยันว่าจะไม่เปิดตลาดให้สหรัฐฯ ทั้งหมด แต่จะพิจารณาผลกระทบต่อบางภาคส่วนในประเทศด้วย

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำวัน : 

Economic release :

JP – ดัชนี CPI ทั่วประเทศ มิ.ย.

US – การเริ่มก่อสร้างบ้านใหม่, ใบอนุญาตก่อสร้าง มิ.ย., ดัชนีความ
เชื่อมั่นผู้บริโภค ม.มิชิแกน ก.ค. (เบื้องต้น)
 
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์


You might be intertested in this news.

Mostview

เคล็ดลับความสำเร็จกัปตันซึบาสะ ความคิดของคนเลือกอยู่หัวแถว

เคล็ดลับความสำเร็จกัปตันซึบาสะ ความคิดของคนเลือกอยู่หัวแถว ตอนที่ 1

แนวโน้มราคาทองวันนี้(10ต.ค.68) ฟื้นตัวขึ้นระยะสั้น

แนวโน้มราคาทองวันนี้(10ต.ค.68) ฟื้นตัวขึ้นระยะสั้น

แนวโน้มราคาทองวันนี้(8ต.ค.68) ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองวันนี้(8ต.ค.68) ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (8ต.ค.2025)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (8ต.ค.2025)

5 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (10ต.ค.2025)

5 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (10ต.ค.2025)

TrustNEws Line