ศาลทหารแจงคนละกรณี คดีน้องเมยตายยังไม่มีการฟ้อง
by Trust News, 24 กรกฎาคม 2568
ศาลทหาร แจงคำพิพากษารอลงอาญารุ่นพี่ทำร้าย 'น้องเมย' คนละกรณี คดีเสียชีวิตยังไม่มีการฟ้องคดี...
จากกรณีเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาคดีการทำร้ายร่างกาย นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย ซึ่งถูกนักเรียนเตรียมทหารรุ่นพี่ 1 คน เป็นผู้สั่งธำรงวินัย โดยศาลฯ เห็นว่าจำเลยไม่เคยได้รับโทษมาก่อน การลงโทษจำเลยตามที่โจทก์ขอถือว่าไม่เป็นประโยชน์ ให้จำเลยปรับปรุงตัวรับราชการ รับใช้ชาติต่อไปจะเป็นประโยชน์มากกว่า ศาลจึงลงโทษจำคุก 4 เดือน 16 วัน ปรับ 15,000 บาท แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี
ล่าสุด แหล่งข่าวจากศาลทหาร เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า ขณะนี้สังคมมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนต่อคำพิพากษาที่ปรากฏเป็นข่าว เพราะข้อเท็จจริงก่อนที่ นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย จะเสียชีวิต ถูกทำร้ายร่างกายหลายครั้ง และมีการแจ้งความดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องหลายกรณี
โดยคดีที่ ศาลสั่งลงโทษจำคุกจำเลยเป็นเวลา 4 เดือน 16 วัน ปรับ 15,000 บาท แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี ตามที่ปรากฏเป็นข่าว เป็นคดีเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายเท่านั้น ไม่ใช่ความผิดจากกรณีทำให้เสียชีวิต เป็นคนละกรณีกัน
ส่วนความผิดในคดีฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายที่เหตุเกิดในเดือน ต.ค.2560 นั้น ปัจจุบันยังไม่มีการฟ้องคดีต่อศาลทหาร และไม่มีข้อมูลยืนยันว่าพนักงานสอบสวน ได้มีการสรุปสำนวนฟ้องคดีแล้วหรือไม่ ขณะที่คดีพลทหารถูกซ้อมทรมานจนเสียชีวิต ที่ผ่านมา ศาลทหาร ก็มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก จำเลยไปแล้ว อาทิ คดีพลทหารวิเชียร เผือกสม ที่ถูกซ้อมทรมานจนเสียชีวิต ในค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อปี 2554 เป็นต้น
คุก “ร้อยโท ลูกนายพล” พร้อมพวกอีก 7 คนคดีซ้อมพลทหารวิเชียร
ทั้งนี้ เกี่ยวกับข้อเท็จจริงกรณีนี้ เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2568 ศาลทหาร ได้เผยแพร่เอกสารข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีเป็นทางการไปแล้ว มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ตามที่ปรากฎเป็นข่าวว่า ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 โจทก์ กับนักเรียนเตรียมทหาร ธ. จำเลย โดยมีการพิพากษาลงโทษในสถานเบา และรอการลงโทษให้กับจำเลย กรณีจำเลยทำร้ายร่างกายด้วยการสั่งธำรงวินัยแก่นักเรียนเตรียมทหาร ภ.ผู้เสียหาย จนเสียชีวิตนั้น
คดีตามคำพิพากษาของศาลทหารสูงสุดที่ 18/2568 มีข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2560 จำเลยสั่งธำรงวินัยโดยให้ผู้เสียหายทำท่า "แคงการู" ระหว่างนั้นผู้เสียหายเป็นลมหมดสติ จำเลยได้ไปตามเพื่อนนักเรียนเตรียมทหารและได้ช่วยกันปฐมพยาบาล นำผู้เสียหายส่งโรงพยาบาล มีบาดแผลถลอกบริเวณศีรษะด้านบนประมาณ 4 เซนติเมตร
แพทย์ให้ความเห็นว่า ผู้เสียหายมีอาการวูบ ไม่รู้สึกตัว ความดันต่ำ เห็นควรทุเลาฝึก งดออกกำลังกายหนัก มีกำหนด 7วัน กับงดออกกำลังกายในท่าศีรษะก้มลงต่ำกว่าตัว เพราะมีโอกาสทำให้เกิดความดันตกได้
จากนั้น มารดาของผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับจำเลย ข้อหาทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 พนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้อง ในความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 และอัยการศาลมณฑลทหารบกที่ 12 ได้ฟ้องจำเลย ตามความเห็นของพนักงานสอบสวนศาลมณฑลทหารบกที่ 12 พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390 ให้รอการกำหนดโทษจำเลยไว้ 1 ปี
ศาลทหารกลางพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่จิตใจ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฎในการพิจารณาว่าผู้เสียหายถูกธำรงวินัยจนหมดสติ ให้จำคุกจำเลย 4 เดือน 15 วัน ปรับ 15,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 2ปี
จำเลยฎีกาว่า ไม่มีเจตนาทำร้ายร่างกาย ไม่ได้กระทำผิดตามฟ้อง และโจทก์ฎีกาขอให้ไม่รอการลงโทษ ศาลทหารสูงสุดพิพากษาว่า การที่จำเลยสั่งธำรงวินัยผู้เสียหายโดยฝ่าฝืนระเบียบของโรงเรียนเตรียมทหาร และมารดาผู้เสียหายไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับจำเลยในความผิดฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเป็นเหตุได้รับอันตรายแก่กาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 เห็นว่า จำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเป็นเหตุได้รับอันตรายแก่จิตใจ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 และภายหลังเกิดเหตุ จำเลยได้ไปตามเพื่อนนักเรียนเตรียมทหารและได้ช่วยกันปฐมพยาบาล นำผู้เสียหายส่งโรงพยาบาลเฝ้าดูอาการจนปลอดภัย กับทั้งถูกโรงเรียนเตรียมทหารตัดคะแนนความประพฤติและปลดจากการเป็นนักเรียนบังคับบัญชา ประกอบกับไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน
เมื่อคำนึงอายุ ประวัติ ความประพฤติ การศึกษาของจำเลย จึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 วรรคหนึ่ง พิพากษายืนตามศาลทหารกลาง
ด้วยเหตุนี้ คดีที่ศาลทหารสูงสุดมีคำพิพากษาดังกล่าว ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ส.ค.2560 จึงไม่ใช่คดีที่มีการกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจนถึงแก่ความตาย อันจะเป็นความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ที่มีการกระทำเกิดขึ้นในเดือน ต.ค.2560 เป็นเหตุให้นักเรียนเตรียมทหาร ภ.ถึงแก่ความตาย พฤติการณ์ในคดีดังกล่าวจึงเป็นคนละกรณีกัน
นอกจากนี้ คดีดังกล่าวเป็นคดีที่เกิดขึ้นก่อนที่ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 จะใช้บังคับ จำเลยจึงไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565
สำหรับคดีความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายที่เหตุเกิดในเดือน ต.ค.2560 นั้น ปัจจุบันยังไม่มีการฟ้องคดีต่อศาลทหาร ส่วนคดีชันสูตรพลิกศพไม่อยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลทหารในการพิจารณาพิพากษาคดีทั้งปวง ศาลทหารทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง ปราศจากอคติ ยึดมั่นตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายและความเป็นธรรม
You might be intertested in this news.
Mostview
พลาดพลั้ง สู่การกำเนิดใหม่ ชีวิตที่พลิกผัน ของ อูโก้ เอกิติเก้ (ชมคลิป)
พลาดพลั้ง สู่การกำเนิดใหม่ ชีวิตที่พลิกผัน ของ อูโก้ เอกิติเก้ (ชมคลิป)
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(22ก.ค.68) ระวังแรงขายระยะสั้น
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(22ก.ค.68) ระวังแรงขายระยะสั้น
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (23ก.ค.68) ทยอยขายทํากําไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (23ก.ค.68) ทยอยขายทํากําไร
พายุวิภาเป็นไต้ฝุ่นเข้าฮ่องกงแล้ว กระทบไทยเหนือ-อีสานฝนหนัก 20-24 ก.ค.
พายุวิภา (WIPHA) ล่าสุด เลื่อนระดับเป็นไต้ฝุ่น เข้าเกาะฮฮ่องกงแล้ว ประกาศเตือนสูงสุดระดับ 10 คาดจะขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนและอ่อนกำลังลงตามลำดับ ส่งผลให้ภาคเหนือและอีสานของไทยมีฝนตกหนัก 22-24 ก.ค. และ ภาคใต้ทะเลอีันดามันและอ่าวไทยคลื่นลมแรง 2-4 เมตร
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (24ก.ค.2025)
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (24ก.ค.2025)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
