วันพุธ, กรกฎาคม 30, 2568

28ก.ค.68 ฝ่ายกัมพูชาไม่หยุดแถมยิงใส่กันเอง ทหารไทยตรึงแนวพบ PHL-03 เคลื่อนไหว

by Trust News, 28 กรกฎาคม 2568

กองทัพภาคที่ 2 สรุปการสู้รบไทย-กัมพูชา 28ก.ค.68 ครึ่งวันเช้า ฝ่ายกัมพูชาไม่หยุดระดมยิง BM-21 หลายแนวรบ ขณะที่ ทหารไทยตรงแนวสุดกำลัง พบความเคลื่อนไหวระบบขีปนาวุธ PHL – 03 แล้ว ด้าน รบพิเศษขึ้นเคลียร์ภูมะเขือ F-16 กับ Gripen ถล่มช่องอานม้า ปราสาทตาควาย

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุป สถานการณ์การสู้รบ ถึงวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เมื่อเวลา 12.00 น.

ฝ่ายกัมพูชา ระดมยิง BM-21 หลายแนวรบ โดยเฉพาะ เนิน 677, ภูผี, ผามออีแดง – พระวิหาร และภูมะเขือ นอกจากนั้นยังพบ ความเคลื่อนไหวระบบขีปนาวุธ PHL – 03 ในพื้นที่สนามบินสำโรง จ.อุดรมีชัย

ฝ่ายทหารไทย ตอบโต้ตามระดับภัยคุกคามอย่างเท่าเทียมจนถึงการใช้อาวุธต่อเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ที่ช่องบก, ช่องอานม้า, ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม

ภัยคุกคาม

เกิดภัยคุกคามทางไซเบอร์ – พบกลุ่มแฮกเกอร์ชาวกัมพูชา พยายามเข้าเจาะระบบเครือข่ายข้อมูลสารสนเทศของส่วนราชการต่างๆ ผ่าน CORS / N C D C โดยได้มีการประกาศแจ้งเตือน พร้อมให้คำแนะนำแล้ว นอกจากนั้นยังตรวจพบทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิดในพื้นที่แนวหน้า ขณะที่ฝ่ายเราเข้าตรวจสอบพื้นที่เพื่อวางกำลัง

การปะทะสำคัญ ในพื้นที่ช่องอานม้า, ภูผี และภูมะเขือ ปะทะหนัก ฝ่ายไทย - ฝ่ายกัมพูชา ยิง ปืนใหญ่ และปืน ค. ตอบโต้ตลอดคืน บาดเจ็บหลายราย

กำลังจากศูนย์สงครามพิเศษ ยังทำลายเสาสัญญาณเครือข่ายมือถือ Smart ของฝ่ายกัมพูชา ที่แนวรบพระวิหาร จุดภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยทหารไทยทำลายกระเช้า และบันได ที่ทหารกัมพูชา ใช้เป็นเส้นทางขึ้นมาบน ภูมะเขือ และ ใช้ระเบิด ทำลายเสาสัญญาณ ของกัมพูชา บนปลายยอดภูมะเขือ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันและตัดการส่งกำลังขึ้นมายึดคืน ภูมะเขือ

พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม - ปราสาทตาควาย ฝ่ายกัมพูชายังคงความมุ่งมั่นในการยึดรักษาและพยายามเข้าควบคุมพื้นที่ พบการรวมกำลังและเพิ่มเติมกำลังขึ้นมาจากพื้นที่ตอนในของกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังปรากฏว่าฝ่ายกัมพูชา มีการยิงพลาดใส่ฝ่ายเดียวกัน ในพื้นที่ช่องอานม้าและผามออีแดง ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการที่มีการเพิ่มเติมกำลังเข้ามาหลายหน่วย ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการติดต่อสื่อสาร

ตรวจพบระบบสนับสนุนการยิงระยะไกล

นอกจากนี้  กำลังทหารไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวระบบขีปนาวุธพื้นสู่พื้นเคลื่อนที่ได้แบบ PHL – 03 ที่มีขีดความสามารถการยิงถึง 130 กิโลเมตร ในพื้นที่สนามบินสำโรง จ.อุดรมีชัย

การปฏิบัติการทางอากาศ

มีรายงาน เครื่องบินขับไล่แบบ F-16 และ Gripen ของกองทัพอากาศ บินโจมตีขัดขวางทางอากาศ ทิ้งระเบิดนำวิถีตัดกำลัง-อาวุธ ทหารเขมรเร่งบุกยึดคืนปราสาทตาควาย -ช่องอานม้า

ตอบโต้ข่าวปลอมแม่ทัพภาคที่ 2 เสียชีวิต

จากที่กัมพูชา เปล่อยเฟกนิวส์ RIP หวังทำลายขวัญกำลังใจ ยัน จะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ ลูกน้อง ปกป้องอธิปไตย ดูแลความปลอดภัยประชาชนภายหลัง กัมพูชามีการเผยแพร่ ภาพทหารถือรูปแม่ทัพ2 พร้อมข้อความ RIP แต่ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่2 ที่เงียบหายไปนานช่วงการ สู้รบระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ออกมา ยืนยันว่า เป็นข่าวปลอม ที่ หวังทำลายขวัญกำลังใจทหารแนวหน้าและคนไทย

ฝ่ายกัมพูชากล่าวหาไทยใช้อาวุธเคมี

พลตรีวิทัย ลายถมยา โฆษกกองทัพไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ขอปฏิเสธอย่างเด็ดขาดต่อคำกล่าวอ้างของ พลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ที่ระบุว่ากองทัพไทยได้รุกล้ำดินแดนกัมพูชาและใช้อาวุธเคมีในการปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง และเป็นการบิดเบือนข้อมูลอย่างร้ายแรง

ประเทศไทยไม่เคยมีนโยบายในการพัฒนา ผลิต ครอบครอง หรือใช้อาวุธเคมีในทุกกรณี โดยยึดมั่นในพันธกรณีตามอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention - CWC) อย่างเคร่งครัด ทั้งยังปฏิบัติหน้าที่ภายใต้หลักมนุษยธรรมสากล โดยให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยของพลเรือนผู้บริสุทธิ์

ในทางกลับกัน โฆษกกลาโหมกัมพูชา กลับใช้ “ข้อมูลข่าวสารปลอม” (Disinformation) เป็นเครื่องมือทางยุทธศาสตร์เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตนเองในสายตาประชาคมโลก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เพียงแต่ขาดความรับผิดชอบ แต่ยังถือเป็นการกระทำที่แฝงด้วยเล่ห์เพทุบาย บิดเบือนความจริง และเป็นภัยต่อสันติภาพในภูมิภาค

แนวโน้มสถานการณ์ต่อไป
- ฝ่ายกัมพูชามีแนวโน้ม ใช้อาวุธยิงระยะไกลในพื้นที่ทางลึก
- มีแนวโน้มการปะทะยังคงรุนแรง โดยเฉพาะพื้นที่ช่องอานม้า, ภูผี , ภูมะเขือ , ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย รวมทั้งต้องเฝ้าระวังภัยไซเบอร์ และการแทรกซึมของสายลับจากกัมพูชา

27 ก.ค. 68 เวลา 16.30 น. ฝ่ายไทยได้ส่งมอบร่างผู้เสียชีวิตชาวกัมพูชา จำนวน 12 นาย ที่เสียชีวิตจากการสู้รบในพื้นที่ภูมะเขือกลับแผ่นดินเกิดตามหลักมนุษยธรรม

การอพยพประชาชน ดำเนินการสนับสนุนส่วนราชการจังหวัดในการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงภัย ไปยังพื้นที่รวบรวมพลเรือน พื้นที่ตอนในทั้ง 4 จังหวัด อย่างต่อเนื่อง ดังนี้ จ.บุรีรัมย์ อพยพเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 1 จุด 12,865 คน, จ.สุรินทร์ อพยพเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 92 จุด 48,438 คน, จ.ศรีสะเกษ อพยพเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 187 จุด 38,618 คน และ จ.อุบลราชธานี.อพยพเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 68 จุด 19,151 คน ปัจจุบันดำเนินการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือนแล้ว 119,072 คน (เพิ่มขึ้น 12,625 คน)

ผลกระทบต่อประชาชน พื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย บ.สายโท 8 ใต้, บ.สายโท 5 ใต้, บ.สายโท 4 ใต้ ต.จันทบเพชร และ บ.สายโท 1 เหนือ ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ถูกกระสุนปืนใหญ่และ BM-21 ตก 28 ลูก ที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหาย และ บ.หนองเม็ก, บ.ภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และเสียชีวิต 1 ราย

จิตอาสาพระราชทาน ดูแลและช่วยเหลือประชาชน โดยจัดกำลังจิตอาสา 904, จิตอาสาพระราชทาน และ จิตอาสา เข้าอำนวยความสะดวกประชาชนในศูนย์พักพิงชั่วคราว และช่วยขนย้ายสิ่งของ รวมทั้งช่วยในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้ประชาชนได้รับทราบ ในพื้นที่ 4 จังหวัด ประกอบด้วย จ.บุรีรัมย์, จ.สุรินทร์, จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี และจิตอาสา 904 จาก ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน จ.ใกล้เคียง รวมทั้งสิ้น จิตอาสา 904 129 นาย, จิตอาสาประชาชน 2,480 คน และ รด.จิตอาสา 222 นาย

การจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จ.บุรีรัมย์ มีโรงครัวพระราชทาน 1 แห่ง รถประกอบอาหาร 2 คัน และมีร้านอาหารเอกชน ที่สนามช้างอารีน่า, จ.สุรินทร์ โรงครัวพระราชทาน 3 แห่ง รถประกอบอาหาร 4 คัน จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ อ.เมือง, ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ อ.เมือง และ ที่โรงเรียนโสตศึกษา อ.ปราสาท, จ.ศรีสะเกษ โรงครัวพระราชทาน 1 แห่ง รถประกอบอาหาร 3 คัน จัดตั้งที่ วิทยาลัยเทคนิคกันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์, และ จ.อุบลราชธานี โรงครัวพระราชทาน 1 แห่ง รถประกอบอาหาร 2 คัน จัดตั้งที่ ที่ว่าการ อ.เดชอุดม รวมข้าวที่แจกจ่าย ตั้งแต่วันที่ 24 – 28 ก.ค. 68 (153,100 กล่อง) นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ จากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่ง

เรื่องอื่นๆ

1. ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าตื่นตระหนก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำส่วนราชการในพื้นที่ ติดตามข่าวสาร และการแจ้งเตือน จากช่องทางประชาสัมพันธ์ที่เป็นทางการ หรือส่วนราชการในพื้นที่ และขอความร่วมมือไม่แชร์ข้อมูลจากแหล่งที่มาข้อมูลที่ไม่ได้รับการตรวจสอบยืนยันจากทางการ
2. ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีกระสุนปืนใหญ่หรือวัตถุระเบิดตกค้าง อย่าเข้าใกล้หรือเก็บไป เพราะเป็นอันตราย และเป็นหลักฐานสำคัญในกระบวนการยุติธรรมระดับนานาชาติ.


You might be intertested in this news.

Mostview

ทหารเตือน ระวังอันตราย ขีปนาวุธ PHL-03 ระยะยิงกว่า 130 กม.จากแนวชายแดน

กองทัพภาคที่ 2 เตือนพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระวังอันตรายจาก PHL-03 ขีปนาวุธ พื้นสู่พื้นหลายท่อยิงของฝ่ายกัมพูชา ชี้พิสัยไกล 130 กม. อาจตกใส่เขตชุมชนแบบไม่พึงประสงค์ ทั้งนี้ พยายามอยู่ห่างจากที่ตั้งหน่วยงานราชการไว้ก่อน

ชี้ชัด กัมพูชาเริ่มยิงใส่ไทยก่อน ข้อมูลดาวเทียมบิดไม่ได้

นักวิเคราะห์ดาวเทียม ออสเตรเลีย เปิดภาพดาวเทียม ชี้ กัมพูชาเริ่มใส่ไทยก่อน พร้อมแนบภาพเหตุวันที่ 28 พ.ค. ชี้ข้อมูลดาวเทียมไม่สามารถบิดได้...

รีวิวหนัง “โอชิ อสูรขี้อ้อน พา น้อน กลับบ้าน”

รีวิวหนัง “โอชิ อสูรขี้อ้อน พา น้อน กลับบ้าน” หนังเด็ก ที่ดูได้เรื่อยๆ

กัมพูชายิงเข้ามาฝั่งไทยตลอดเแนว ทัพภาค 2 อนุมัติยิงปืนใหญ่ปกป้องอธิปไตย

กองทัพภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์ล่าสุด ชายแดนไทย-กัมพูชา เกิดการปะทะทุกพื้นที่ จ.สุรินทร์ จ.อุบลราชธานี จ.ศรีสะเกษ หลังกำลังทหารฝ่ายกัมพูชายิงอาวุธหนักข้ามมาฝั่งไทย ด้านกองทัพภาคที่ 2 ตรึงกำลัง อนุมัติยิงปืนใหญ่ได้ทันทีเพื่อปกป้องอธิปไตย

8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (24ก.ค.2025)

8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (24ก.ค.2025)

TrustNEws Line