วันพุธ, มิถุนายน 18, 2568

เปิดคำแถลงศาล คดีม.157พิรงรอง

by Trust News, 6 กุมภาพันธ์ 2568

วันนี้ (6 ก.พ.) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกข่าวแจกสื่อมวลชน ฉบับที่ 1/2568 กรณีอ่านคําพิพากษาคดี บริษัททรู ดิจิทัล กรุ๊ป จํากัด เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.พิรงรอง รามสูต กรณี กสทช. มีหนังสือแจ้ง ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์มิให้นําช่องรายการไปให้บริการบนแพลตฟอร์ม True ID ระบุว่า....

วันนี้เวลา 09.30 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนัดฟังคําพิพากษา ในคดีหมายเลขดําที่ อท 147, 71/2566 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ อท 164/2566, 26/2568 ระหว่าง บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จํากัด โจทก์ น.ส.พิรงรอง รามสูต จําเลย เรื่อง เจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน True ID ประเภท Over The Top หรือ OTT (โอทีที) ผ่านอินเทอร์เน็ตสาธารณะที่ไม่มีการบริหารจัดการโครงข่ายเป็นการเฉพาะ ซึ่งคณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ไม่เคยกําหนดให้ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มดังกล่าว ต้องขอรับใบอนุญาตจาก กสทช. จําเลยเป็นกรรมการใน กสทช. และได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ ใช้อํานาจหน้าที่โดยมิชอบ

โดยกระทําการเร่งรัดสั่งการหรือดําเนินการให้สํานักงาน กสทช. ทําหนังสือแจ้งไปยังผู้ให้บริการประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ในนามสํานักงาน กสทช. ภายหลังจากการประชุมคณะกรรมการทันที โดยที่ กสทช. ยังไม่ได้มีการพิจารณา มีมติ หรือมีคําสั่งการในเรื่องดังกล่าว โดยจําเลยได้กล่าวในที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ ครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2566 ที่แสดงให้เห็นถึงเจตนาที่จะล้มกิจการของโจทก์

โดยกล่าวทํานองว่า วิธีการที่เราจะจัดการเรื่องนี้ไม่ได้ไปทําที่โจทก์โดยตรง แต่ไปทําที่ช่องรายการที่รับใบอนุญาตจาก กสทช. เป็นการใช้วิธีตลบหลัง โดยในที่ประชุมมีผู้เข้าประชุมไม่เห็นด้วยกับวิธีการของจําเลย เนื่องจากเป็นการกระทําเฉพาะการให้บริการแอปพลิเคชัน True ID ของโจทก์ แต่จําเลยพยายามโน้มน้าวและรวบรัดการพิจารณา และก่อนจบการประชุมของคณะอนุกรรมการฯ จําเลยให้เตรียมความพร้อมที่จะล้มหรือระงับการให้บริการแอปพลิเคชัน True ID ของโจทก์ โดยใช้คําพูดว่า “ต้องเตรียมตัวจะ จะล้มยักษ์”

และต่อมาจําเลยได้ให้สํานักงาน กสทช. แจ้งไปยังผู้ได้รับอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ทุกรายทราบเกี่ยวกับการให้บริการแอปพลิเคชัน True ID ของโจทก์เพียงรายเดียวว่า ยังไม่ได้เป็นผู้รับอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์และยังมิได้แสดงความประสงค์ขอรับใบอนุญาตตามขอบเขตการได้รับบริการประเภทโครงข่ายไอพีทีวี

โดยการกระทําของจําเลยดังกล่าว ทําให้ผู้ที่ได้รับหนังสือแจ้งของจําเลยมีความเข้าใจว่า โจทก์จงใจกระทําผิดกฎหมายไม่แสดงความประสงค์ขอรับใบอนุญาต ทั้งที่จําเลยทราบข้อเท็จจริงว่า การให้บริการแพลตฟอร์มโอทีที ในรูปแบบแอปพลิเคชัน True ID กสทช. ยังมิได้กําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้บริการโครงข่ายกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ เป็นการเจตนาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์อันเป็นการกระทําความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า โจทก์เป็นผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน True ID มาตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน โดยแอปพลิเคชัน True ID เป็นการให้บริการประเภทผ่านอินเทอร์เน็ตสาธารณะหรือโอทีที และเป็นการให้บริการผ่านอินเทอร์เน็ตสาธารณะของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วไปซึ่งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ไม่เคยกําหนดให้ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มดังกล่าวต้องขอรับใบอนุญาตแต่อย่างใด

จําเลยเป็นกรรมการใน กสทช. มีอํานาจหน้าที่จัดทําแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ระหว่างกําหนดการจัดสรรคลื่นความถี่ระหว่างคลื่นความถี่ที่ใช้ในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคม กําหนดลักษณะและประเภทของกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และจําเลยยังได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ มีอํานาจหน้าที่ให้ข้อเสนอแนะ ข้อพิจารณา กลั่นกรอง และให้ความเห็นเกี่ยวกับการอนุญาตและกํากับดูแลการประกอบกิจการโทรทัศน์ รวมทั้งปฏิบัติหน้าที่อื่นใดตามที่ กสทช. มอบหมาย

จําเลย จึงเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกํากับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุ โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 มาตรา 25 ในการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาต ด้านกิจการโทรทัศน์ ครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2566 จําเลยทําหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม โดยมีวาระที่ต้องพิจารณาเกี่ยวกับการตรวจสอบการแพร่เสียงแพร่ภาพผ่านการให้บริการกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และแอปพลิเคชัน True ID

โดยในที่ประชุมได้มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับลักษณะหรือพฤติการณ์ในการให้บริการของ True ID แต่ที่ประชุมยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ประกอบกับที่ประชุมเห็นว่า ปัจจุบันมีผู้ให้บริการในลักษณะโอทีที เช่นเดียวกับ True ID จํานวนมาก ซึ่งไม่ได้เป็นผู้รับใบอนุญาตและไม่ได้รับการกํากับดูแลจาก กสทช.

การนําเอาประเด็นลักษณะของการให้บริการของ True ID มาพิจารณาเพียงรายเดียว อาจส่งผลต่อการพิจารณาในประเด็นต่าง ๆ ในอนาคตได้ แสดงให้เห็นว่า ในการประชุมของคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์คราวดังกล่าว ยังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการให้บริการ True ID ของโจทก์ว่าจะต้องขอรับใบอนุญาตจาก กสทช. หรือไม่ อย่างไร

อีกทั้ง ก่อนที่จําเลย จะได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการ กสทช. มีข้อมูลระบุว่า บริการ True ID ของโจทก์เป็นบริการโอทีที และยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับกฎหมายในการกํากับดูแลการประกอบกิจการดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับคําชี้แจงข้อเท็จจริงของสํานักงาน กสทช. ที่ยื่นต่อศาลในคดีนี้ว่า กสทช. ยังไม่ได้มีการประกาศกําหนดนิยามของคําว่า โอทีที่ ไว้เป็นการเฉพาะ

ต่อมา ได้มีหนังสือไปยังผู้ได้รับอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ แต่ปรากฏว่าในวันที่ 28 ก.พ. 2566 เจ้าหน้าที่ฝ่ายเลขานุการของคณะอนุกรรมการได้จัดทําบันทึก และร่างหนังสือของสํานักงาน กสทช. ตาม เสนอเข้าสู่ระบบงานสารบัญทางคอมพิวเตอร์ของสํานักงาน กสทช. ให้ผู้เกี่ยวข้องพิจารณาตามขั้นตอน นาง ก. ซึ่งทําหน้าที่กลั่นกรองงานให้แก่รองเลขาธิการ กสทช. ทําให้นาง ก. ได้สอบถามเหตุผลและความจําเป็นในการทําบันทึกและร่างหนังสือของสํานักงาน กสทช. จะต้องระบุชื่อการให้บริการ True ID ของโจทก์เป็นการเฉพาะ ซึ่งได้รับแจ้งว่า จําเลยเป็นผู้สั่งการและเร่งรัดให้จัดทําบันทึก และร่างหนังสือดังกล่าว และ กสทช. ได้มีหนังสือไปยังผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ รวม 127 ราย

ต่อมาวันที่ 2 มี.ค. 2566 มีการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ ครั้งที่ 4/2566 ซึ่งจําเลยได้ทําหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม จําเลยได้มีการต่อว่าและตําหนิฝ่ายเลขานุการที่มีการจัดทําหนังสือ โดยไม่ได้ระบุหรือเจาะจงถึงการให้บริการ True ID ของโจทก์ และในรายงานการประชุม ของคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ ครั้งที่ 3/2566 ไม่ได้มีมติให้สํานักงาน กสทช. จะต้องมีหนังสือแจ้งไปยังผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ โดยระบุเจาะจงถึงบริการ True ID ของโจทก์

แต่ตามบันทึกรายงานการประชุม กลับมีการระบุว่า ที่ประชุมมีมติรับรองรายงานการประชุม ครั้งที่ 3/2566 และเห็นควรมีหนังสือแจ้งผู้ให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ ทั้งที่ในความเป็นจริงการประชุมคณะอนุกรรมการ ครั้งที่ 4/2566 ไม่ได้มีมติดังกล่าวแต่อย่างใด อันเป็นการทําเอกสารรายงานการประชุมอันเป็นเท็จ เมื่อพิจารณาประกอบกับถ้อยคําที่จําเลยได้กล่าว ในการประชุมคณะอนุกรรมการ ดังกล่าว ครั้งที่ 3/2566 ที่ใช้ถ้อยคําทํานองพยายามโน้มน้าวและรวบรัดการพิจารณา

อีกทั้ง ก่อนจบการประชุมของคณะอนุกรรมการ จําเลยให้เตรียมความพร้อมที่จะล้มหรือระงับการให้บริการแอปพลิเคชัน True ID ของโจทก์ โดยใช้คําพูดว่า “ต้องเตรียมตัวจะ จะล้มยักษ์” และจําเลยก็ยอมรับว่า คําว่า “ยักษ์” หมายถึงโจทก์

ถ้อยคํา ดังกล่าวเป็นการสื่อความหมายชัดเจนว่า ประสงค์ให้กิจการของโจทก์ได้รับความเสียหาย พฤติการณ์ของจําเลยดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ เจตนามุ่งประสงค์กลั่นแกล้งโจทก์ และใช้อํานาจหน้าที่ของตนไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนที่กฎหมายกําหนด ทําให้โจทก์ได้รับความเสียหาย

เพราะภายหลังจากมีหนังสือดังกล่าวแจ้งไปยังผู้ประกอบการรวม 127 รายแล้ว มีผู้ประกอบกิจการหลายรายได้ชะลอหรือขยายระยะเวลาเข้าทํานิติกรรมกับโจทก์ การกระทําของจําเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ส่วนพยานหลักฐานของจําเลยไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้

พิพากษาว่า จําเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จําคุก 2 ปี


You might be intertested in this news.

Mostview

ย้อนรอย จลาจลเผาสถานทูตไทย บทเรียนข่าวเท็จ กัมพูชา (2546)

ย้อนรอยเหตุเผาสถานทูตไทยในกัมพูชา จากน้ำผึ้งหยดเดียว ปล่อยข่าวคลั่งชาติ กล่าวหา “กบ สุวนันท์” หมิ่นกัมพูชา ลุกลามลามบานปลาย ก่อเหตุจลาจล คนไทยถูกล่า เอาชีวิต ผู้หญิงถูกล่า ลากจะขืนใจ สุดท้าย หาคนเบื้องหลังไม่ได้ ลงโทษผู้ก่อเหตุเบาหวิว แต่ต้องชดใช้มากกว่า

พร้อมตั้งแต่เมื่อวาน ทอ.โชว์ติดระเบิดนำวิถี KGGB เขี้ยวเล็บ เอฟ-16 ฝูง 103 โคราช

กองทัพอากาศไทย เผย วิดีโอคลิปบนเฟซบุ๊ก โชว์การติดตั้งอาวุธให้กับเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 ฝูงบิน 103 นครราชสีมา ทั้งการโหลดกระสุนขนาด 20 มม.การติดตั้งมิสไซล์นำวิถีไซด์วายเดอร์ และ อาวุธใหม่ ระเบิดร่อนนำวิถีด้วย GPS แบบ KGGB ที่ซื้อจากเกาหลีใต้

โบอิ้ง 787 แอร์อินเดียแจ้ง "MAYDAY" ก่อนเครื่องตกใส่เขตชุมชนพร้อม 242 ชีวิต

เครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ส ของแอร์อินเดีย เที่ยวบิน AI 171 เส้นทางอาเมดาบัด-ลอนดอน แกตวิค ตกกระแทกพื้นกลางย่านชุมชน หลังเพิ่งออกจากสนามบินพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 242 คนบนเครื่อง ทั้งนี้ มีรายงานว่านักบินแจ้งฉุกเฉิน เมย์เดย์ ก่อนร่วงพื้น

AI พาปวดหัวภาพอิหร่านยิง F-35 อิสราเอลตกไม่ใช่ของจริง ยังไม่มีหลักฐานยืนยัน

สื่อต่างประเทศหลายสำนักวิเคราะห์ตรงกัน กรณีในโซเชียลมีการแชร์ภาพ เครื่องบินขับไล่เอฟ-35 ของ ทอ.อิสราเอลถูกอิหร่านยิงตกไม่มีหลักฐานยืนยันอย่างเป็นทางการ ส่วนมากเป้นภาพตัดต่อ และภาพสร้างโดยเอไอ เพื่อหวังผลเรียกยอดไลค์ และสร้างอคดีด้านลบ

เครื่องบิน 787 แอร์อินเดียตกทับหอพักแพทย์ พบร่างแล้ว 204 ศพ มีรอดชีวิต 1 ราย

ความคืบหน้าเหตุ โบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์สของแอร์อินเดีย เที่ยวบิน AI 171 เส้นทางอาเมดาบัด-ลอนดอน แกตวิค พร้อมคนบนเครื่อง 242 ชีวิตตกที่เมืองอาเมดาบัด โดยซากเครื่องทับหอพัก นศ.แพทย์ ล่าสุด พบผู้โดยสารรอดชีวิต 1 รายเป็นชายวัย 38 ปี ขณะที่พบศพแล้ว 204 ศพ

TrustNEws Line