วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 18, 2568

บทวิเคราะห์ "กรณ์ จาติกวณิช" อดีตรัฐมนตรีคลัง หลังไทยได้รับภาษีทรัมป์ 19% เท่ากับ กัมพูชา

by Trust News, 1 สิงหาคม 2568

"กรณ์ จาติกวณิช" อดีตรัฐมนตรีคลัง โพสต์เฟซบุ๊ก วิเคราะห์ หลังไทยได้รับภาษีทรัมป์ 19% เท่ากับ กัมพูชา

19% จะส่งผลอย่างไร?

ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับ Team Thailand ที่สุดท้ายช่วยทำให้เราได้อัตราใกล้เคียงกับประเทศในกลุ่ม ASEAN ด้วยกัน

อย่างที่ผมได้แสดงความเห็นไว้เมื่อ 2-3 วันก่อน อัตราภาษีนี้ถือว่าแลกมาด้วยเลือดเนื้อของคนไทย

ในขณะที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีความชัดเจนว่าเรามีข้อเสนอที่เข้าตาทรัมป์ จนกระทั่งทรัมป์เห็นโอกาสที่จะได้เล่นบทพระเอกในการเจรจาหย่าศึก การเจรจาจึงสรุปได้ตามที่หลายคนเปรียบเสมือนเป็น “Peace Dividend”

ที่น่าสังเกตคืออเมริกาไม่ได้แยกแยะว่าใครผิดใครถูกระหว่างเรากับกัมพูชา ทั้งสองประเทศได้อัตราภาษีเดียวกัน (ทั้งๆที่เดิมอัตราภาษีที่กัมพูชาถูกกำหนดสูงกว่าเราอยู่ที่ 49%)

เรายังมีการบ้านต้องทำอีกมากในการทำความเข้าใจกับชาวโลก อย่างน้อยก็ถือว่าเรายังสามารถยันไว้ไม่ให้กัมพูชาตบตาชาวโลกได้ว่าไทยเราเป็นผู้รุกราน

อย่างไรก็ตาม อัตราภาษี 19% จะทำให้กำไรผู้ส่งออกลดลงแน่นอน เพราะต้องแบกรับภาระภาษีไว้ไม่มากก็น้อย บวกกับปริมาณการบริโภคโดยชาวอเมริกันที่อาจจะลดลงเพราะของแพงขึ้น

จีนน่าจะเหนื่อยที่สุด เพราะจะหนีด้วย transshipment ก็ยากขึ้น ดังนั้นผลต่อไทยเราคือสินค้าราคาถูกจากจีนจะทะลักเข้ามามากขึ้น เตรียมรับมือให้ดี

เราจะเห็นว่าวันสองวันที่ผ่านมาดอลล่าร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับบาท ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแนวโน้ม Fed จะลดดอกเบี้ยลดลง (เตรียมรับผลเงินเฟ้อจากราคาสินค้านำเข้าที่ะสูงขึ้น) อีกส่วนเป็นเพราะการคาดการว่าอเมริกาจะมีดุลการค้าที่ติดลบน้อยลงจาก tariff ที่เริ่มมีผลวันนี่ และสุดท้ายคือไทยเองมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยชัดเจนมากขึ้นด้วย โดยสรุปผมคาดว่าจากนี้แนวโน้มดอลล่าร์จะแข็งค่าขึ้นได้ อย่างน้อยชั่วคราว

รายละเอียดอื่นๆคงต้องรอดูการชี้แจงโดยรัฐบาลว่าเราได้เสนอเงื่อนไขอะไรให้สหรัฐบ้าง (ควรจะต้องมีการนำเสนอต่อรัฐสภาตามมาตรา 178 รัฐธรรมนูญ)

แต่สำหรับวันนี้ สรุปได้ว่าเราไม่ได้เสียเปรียบเพิ่มเติมจากเรื่อง tariff และท่านรองนายกฯ พิชัย ได้พูดในสิ่งที่ถูกต้องทั้งในเรื่องการเร่งเตรียมมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการด้วยวงเงินสินเชื่อ และความจำเป็นที่เราต้องเร่งพัฒนาตัวเองให้แข่งขันได้ในอนาคต

ส่วนทรัมป์เป็นผู้ชนะชัดเจนที่สุด ประสบความสำเร็จในการรีดภาษีได้ปีละ 300,000-500,000 ล้านดอลล่าร์จากคู่ค้าทั่วโลก และทำให้โลกเข้าใจแจ่มชัดว่าในยุคนี้คำว่ามิตรภาพไม่สำคัญ มีแต่ผลประโยชน์ที่แลกกัน

ในบริบทนี้ เราอย่าหวังพึ่งใคร ถ้าเรายังไม่พัฒนาตัวเอง เราจะเสียเปรียบมากขึ้นเรื่อยๆ
ขอบคุณ chart จากเพจ Pipat Luengnaruemitchai


You might be intertested in this news.

Mostview

ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น

ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ

6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)

6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)

TrustNEws Line