แนวโน้มSETวันนี้(6ส.ค.68) Fund Flow ยังไหลเข้า
by Trust News, 6 สิงหาคม 2568
แนวโน้มSETวันนี้(6ส.ค.68) Fund Flow ยังไหลเข้า
คาดตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์ แม้ DELTA เริ่มชะลอตัวลง แต่ Fund Flow ยังมีแนวโน้มไหลเข้าต่อเนื่อง (วานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิต่อ 2.0 พันลบ.) ซึ่งถือเป็นพัฒนาการเชิงบวก
โดยทางเทคนิคระยะสั้น มีแนวต้านถัดไปที่ 1255/1265 และแนวรับประเมินไว้ที่ 1240/1230-1228 หากยังเป็นบวกไม่ควรหลุดต่ำกว่าแนวรับดังกล่าวเพื่อรักษาโมเมนตัมขาขึ้น อย่างไรก็ตาม การชะลอขึ้นในระยะสั้นอาจเกิดขึ้นได้เพื่อสะสมแรงซื้อใหม่
ประเด็นสำคัญ :
1. ปธน. ทรัมป์ประกาศจะเริ่มเก็บภาษีนำเข้ายาในอัตราเล็กน้อยและอาจเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดที่ 250% ภายในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า เพื่อจูงใจให้บริษัทยากลับมาดำเนินธุรกิจผลิตยาในสหรัฐฯ ส่วนมาตรการเก็บภาษีนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์และชิปจะมีการประกาศในสัปดาห์หน้า
2. วันนี้รัฐบาลจะหารือกับบริษัทชั้นนำระดับโลกกว่า 30 บริษัทใน 4 อุตฯ (เซมิคอนดักเตอร์, EV, Data Center และ BCG) ที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและทิศทางดำเนินนโยบาย และเปิดโอกาสให้นักลงทุนแลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นดำเนินธุรกิจ
3. คลังเตรียมพิจารณารายกลุ่มอุตฯ ที่ได้รับผลกระทบจากภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ที่ 19% เพื่อหาแนวทางบรรเทาผลกระทบ ก่อนเสนอให้ คกก. นโยบายกระตุ้น ศก. และ ครม. พิจารณาต่อไป ภายใต้วงเงินกระตุ้น ศก. จากงบปี 68 ที่เหลืออยู่ 2.4 หมื่นลบ. และอีก 2.5 หมื่นลบ. จากงบปี 69
4. ม.หอค้าไทยเผยผลสำรวจการใช้จ่ายช่วงหยุดยาววันแม่บรรยากาศเงียบ คาดปี 2568 มีเงินสะพัดเพียง 1.1 หมื่นลบ. เติบโตต่ำเพียง 1.9%YoY จากกังวล ศก. ฝืด, เสถียรภาพการเมือง, มาตรการภาษีศุลกากรสหรัฐฯ และเที่ยวไทยคนละครึ่งไม่ดีอย่างคาด
5. ม. หอการค้าไทยประเมินภาษีศุลกากรสหรัฐฯ จะทำให้ GDP ปี 68 (5 เดือนที่เหลือของปี) และปี 69 หดตัวลง 0.62% และ 1.48% ตามลำดับ โดยสินค้าที่ได้รับผลกระทบ คือ อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และยางและผลิตภัณฑ์ยาง
6. จำนวน นทท. ต่างชาติมาไทยในสัปดาห์ก่อนลดลง 5.3%WoW โดยกลุ่มระยะใกล้ชะลอ 7.2%WoW จากกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา นำโดย อินเดีย, มาเลเซีย และจีน ขณะที่ นทท. จาก ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ยังเพิ่มขึ้น ทำให้จำนวนสะสมปี 68 ที่ 19.57 ล้านคน ลดลง 6.6%YoY
กลยุทธ์การลงทุน :
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาส Sideway หลังไทยได้ข้อสรุปการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ แม้ระยะสั้นอาจมีแรงขาย Sell on Fact จากการฟื้นตัวของ SET ขึ้นมาที่ระดับ 1230-1250 (PER ราว 14 เท่า) สะท้อนถึงความหวังว่าสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากไทยในระดับใกล้เคียงประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคไประดับหนึ่งแล้ว
อย่างไรก็ดี มองอัตราดังกล่าวในอัตรา 19% ยังต่ำกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งสำคัญอย่างเวียดนาม ทำให้มองไทยยังคงมีศักยภาพในการแข่งขันที่ดีในตลาดสหรัฐฯ และอาจจะช่วยหนุนให้ Fund Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยได้ต่อเนื่อง และส่งผลให้ SET มีโอกาสกลับขึ้นไปซื้อขายกรอบที่ระดับ 14-16 เท่า หรือ 1242-1419 จุด กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :
มอง SET มีโอกาส Sideways หลังถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ในอัตราต่ำกว่าคู่แข่งสำคัญ Fund Flow ที่อาจหนุนเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 4 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้...
1. หุ้น Earnings Play โมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ 3Q68 คาดกำไรยังเติบโต YoY แนะนำ ADVANC BCH CBG CPALL SCCC
2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SETESG Rating A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT
Trading Idea :
สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ...
1) หุ้น Laggard Play ซึ่งคาดได้อานิสงส์หาก Fund Flow ไหลเข้าต่อเนื่อง โดยเลือกหุ้น SET50 ซึ่งราคาหุ้นปรับขึ้น MTD ต่ำกว่า SET และ Valuation ถูก โดยมี PBV และ PER 2568F < -1SD อีกทั้งมีพื้นฐานดี (กำไรเติบโต, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง และมี SETESG Rating A-AAA) แนะนำ BDMS CPALL MINT MTC PTT
2) กลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้างที่ได้ประโยชน์หลังจากน้ำท่วม และยอดขายสาขาเดิมมีสัญญาณฟื้นตัว โดยลดในอัตราที่น้อยลง แนะนำ GLOBAL HMPRO
3) หุ้นที่ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาลง แนะนำ TIDLOR MTC SIRI ก่อนการประชุม กนง. ในวันที่ 13 ส.ค. นี้
4) หุ้นฟื้นตัวเร็วหลังปลดล็อกปัญหาภาษีสหรัฐฯ ได้แก่ AMATA GPSC WHA DELTA
Daily top picks :
SCC : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากเป็นหุ้น China Play ซึ่งคาดจะตอบรับเจรจาการค้า-สหรัฐฯ ดีขึ้น ขณะที่ 2Q68 เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว QoQ จากส่วนต่างราคาดีขึ้น และ 2H68 คาดจะดีขึ้นจากครึ่งปีแรกจาก 1) โครงการลดต้นทุน 2) เริ่มเห็นผลของการปรับราคาปูนซีเมนต์ 20% มากขึ้น และ 3) ไม่ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจาก CAP
CPALL : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากเป็นหุ้น Laggard ซึ่งคาดได้อานิสงส์เงินทุนไหลเข้า และอากาศร้อนจัดจะหนุนยอดขายเครื่องดื่ม คาดกำไร 2Q68 จะเติบโต 8%YoY และจะเป็นไตรมาสที่ต่ำสุดของปีนี้ ก่อนจะปรับตัวดีขึ้นใน 2H68 โดยปี 2568 คาดกำไรโตดีที่สุดในกลุ่มที่ 15%YoY ส่วนโครงการซื้อหุ้นคืนช่วยจำกัด Downside
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำวัน :
Economic release :
EU – ยอดค้าปลีก มิ.ย.
US – MBA Mortgage Applications สัปดาห์สิ้นสุด 1 ส.ค.
TH – CPI ก.ค.
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์
You might be intertested in this news.
Mostview
จับ กริพเพน เทียบ F-35 และแนวคิดพึ่งตัวเองของสวีเดน (ชมคลิป)
จับ กริพเพน เทียบ F-35 และแนวคิดพึ่งตัวเองของสวีเดน (ชมคลิป)
รีวิวหนัง “อ่านชะตาวันสิ้นโลก” CG อลังก์ หนังมันส์แบบ nonstop
ดูมาแล้ว สำหรับ หนังฟอร์มยักของเกาหลี “อ่านชะตาวันสิ้นโลก” หรือ Omniscient Reader: The Prophecy หนังที่ใช้ทุนสร้างมหาศาล โดยดัดแปลงเนื้อหามาจาก “มังฮวา” ชื่อดัง ที่มีการเขียนลงในเว็บโนเวล
กองทัพอากาศ แจงข่าวสวีเดนปฏิเสธขาย Gripen ให้ไทย เป็นเฟคนิวส์ฝั่งกัมพูชา
กองทัพอากาศ ยืนยัน ข่าวกรณี สื่อของกัมพูชารายงานอ้างว่า สวีเดนระงับการขายเครื่องบินขับไล่ Gripen เพิ่มเติม ให้กับไทยทั้งหมด “ข่าวบิดเบือนความจริง” โครงการดังกล่าว ยังคงอยู่ในระหว่างกระบวนการจัดซื้อ
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (1ส.ค.2025)
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (1ส.ค.2025)
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (4ส.ค.68) มีโอกาสดีดตัวระยะสั้น
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (4ส.ค.68) มีโอกาสดีดตัวระยะสั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
