แนวโน้มSETวันนี้(7ส.ค.68) เริ่มมีโอกาสชะลอที่แนวต้าน
by Trust News, 7 สิงหาคม 2568
แนวโน้มSETวันนี้(7ส.ค.68) เริ่มมีโอกาสชะลอที่แนวต้าน
มองตลาดจะเแกว่งตัวไซด์เวย์/ผันผวนในกรอบ แม้มีแรงหนุนจาก Fund Flow ไหลเข้า (วานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิต่อ 1.97 พันลบ.) และวันนี้ติดตามการประกาศ MSCI ซึ่งไทยมีโอกาสได้รับน้ำหนักเพิ่ม แต่อาจมีแรงขายกดดันบ้างหลังดัชนีปรับขึ้นต่อเนื่อง 3 วันทำการกว่า 3.8%
ทั้งนี้ด้านเทคนิค มีแนวต้านที่ 1,270/1,282 จุด และแนวรับที่ 1,255/1,250 จุด หากยังเป็นบวกไม่ควรหลุดต่ำกว่าแนวรับ
ประเด็นสำคัญ :
1. กกร. ปรับเพิ่มประมาณการ GDP ไทยปี 2568 ขึ้นเป็น 1.8-2.2% จากเดิมที่ 1.5-2.0% และปรับเพิ่มคาดการณ์ส่งออกขึ้นเป็น 2% ถึง 3% จากเดิมที่ -0.5% ถึง 0.3% หนุนจากความสำเร็จการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ที่ไม่เสียเปรียบต่อประเทศเพื่อนบ้าน และมองว่าควรใช้โอกาสนี้ปรับตัวเพื่อความสามารถการแข่งขันในระยะยาว
2. ปลัดคลังแนะ ธปท. พิจารณาดำเนินนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายขึ้นผ่านเครื่องมือทางการเงินต่างๆ ซึ่งไม่จำกัดเพียงการลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม กนง. วันที่ 13 ส.ค. นี้เท่านั้น เพื่อผลักดันให้เงินเฟ้อไทยกลับเข้าสู่ระดับเป้าหมาย โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปใน ก.ค. 2568 หดตัว 0.7%YoY หดตัวสูงกว่าที่เราและตลาดคาดไว้
3. FETCO เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่น นลท. ใน ก.ค. 2568 อยู่ในระดับ “ทรงตัว” มองการไหลเข้าของเงินทุนเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด ตามด้วย การฟื้นตัวของ ศก. และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น จำแนกประเภท นลท. บัญชี บล., สถาบันในประเทศ และรายย่อยมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น ขณะที่ นลท. ต่างชาติยังทรงตัว
4. การประชุม GBC ไทย-กัมพูชาระดับเลขานุการได้ข้อสรุปเบื้องต้นวานนี้ โดยทั้งสองฝ่ายได้เตรียมเอกสารสำหรับประธาน (รัฐมนตรี) ทั้งสองฝ่ายเพื่อพิจารณาก่อนการประชุม GBC ชุดใหญ่ในวันนี้เพื่อหาข้อตกลงร่วม
6. ม. หอการค้าไทยประเมินภาษีศุลกากรสหรัฐฯ จะทำให้ GDP ปี 2568 (5 เดือนที่เหลือของปี) และปี 2569 หดตัวลง 0.62% และ 1.48% ตามลำดับ โดยสินค้าที่ได้รับผลกระทบ คือ อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และยางและผลิตภัณฑ์ยาง
7. ปธน. ทรัมป์ประกาศปรับขึ้นอัตราภาษีศุลกากรต่ออินเดียขึ้นเป็น 50% จาก 25% ที่คงนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซีย และเตรียมเก็บภาษีสำหรับเซมิคอนดักเตอร์ 100% แต่จะยกเว้นบริษัทที่ย้ายฐานผลิตกลับสหรัฐฯ
กลยุทธ์การลงทุน :
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาส Sideway หลังไทยได้ข้อสรุปการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ แม้ระยะสั้นอาจมีแรงขาย Sell on Fact จากการฟื้นตัวของ SET ขึ้นมาที่ระดับ 1230-1250 (PER ราว 14 เท่า) สะท้อนถึงความหวังว่าสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากไทยในระดับใกล้เคียงประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคไประดับหนึ่งแล้ว
อย่างไรก็ดี มองอัตราดังกล่าวในอัตรา 19% ยังต่ำกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งสำคัญอย่างเวียดนาม ทำให้มองไทยยังคงมีศักยภาพในการแข่งขันที่ดีในตลาดสหรัฐฯ และอาจจะช่วยหนุนให้ Fund Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยได้ต่อเนื่อง และส่งผลให้ SET มีโอกาสกลับขึ้นไปซื้อขายกรอบที่ระดับ 14-16 เท่า หรือ 1242-1419 จุด กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :
มอง SET มีโอกาส Sideways หลังถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ในอัตราต่ำกว่าคู่แข่งสำคัญ Fund Flow ที่อาจหนุนเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 4 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้...
1. หุ้น Earnings Play โมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ 3Q68 คาดกำไรยังเติบโต YoY แนะนำ ADVANC BCH CBG CPALL SCCC
2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SETESG Rating A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT
Trading Idea :
สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ...
1) หุ้น Laggard Play ซึ่งคาดได้อานิสงส์หาก Fund Flow ไหลเข้าต่อเนื่อง โดยเลือกหุ้น SET50 ซึ่งราคาหุ้นปรับขึ้น MTD ต่ำกว่า SET และ Valuation ถูก โดยมี PBV และ PER 2568F < -1SD อีกทั้งมีพื้นฐานดี (กำไรเติบโต, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง และมี SETESG Rating A-AAA) แนะนำ BDMS CPALL MINT MTC PTT
2) กลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้างที่ได้ประโยชน์หลังจากน้ำท่วม และยอดขายสาขาเดิมมีสัญญาณฟื้นตัว โดยลดในอัตราที่น้อยลง แนะนำ GLOBAL HMPRO
3) หุ้นที่ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาลง แนะนำ TIDLOR MTC SIRI ก่อนการประชุม กนง. ในวันที่ 13 ส.ค. นี้
4) หุ้นฟื้นตัวเร็วหลังปลดล็อกปัญหาภาษีสหรัฐฯ ได้แก่ AMATA GPSC WHA DELTA
Daily top picks :
MINT : มองเป็นหุ้น Laggard ที่มีปัจจัยกระตุ้นจาก Fund Flow ไหลเข้า โมเมนตัมกำไรยังแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มท่องเที่ยว โดย 2Q68 ทำกำไรปกติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.4 พันลบ. ส่วน 2H68 คาดกำไรจะเติบโต YoY อีกทั้งล่าสุดยังกำลังศึกษาโครงการซื้อหุ้นคืน
TTB : มองเป็นหุ้น Laggard และผลประกอบการ 2Q68 สะท้อนคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นและ NPL ลดลง QoQ อีกทั้งมีจุดเด่นเรื่องปันผลสูง โดยคาดจ่ายเงินปันผลปี 2568 ที่ 0.13 บาท/หุ้น (ปันผลระหว่างกาล 0.065 บาท/หุ้น) คิดเป็น Div. Yield ปีละ 7% (Div. Yield ระหว่างกาล 3.4%) จำกัดความเสี่ยงขาลง
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำวัน :
Economic release :
GE – ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม มิ.ย., การส่งออก มิ.ย.
CN – ทุนสํารองระหว่างประเทศ ก.ค., ดุลการค้า ก.ค., การส่งออกและนําเข้า
US – จํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก, จํานวนผู้ขอรับต่อเนื่อง, คลังสินค้าส่งออก มิ.ย. (ตัวเลขสุดท้าย)
Event : การประชุม BoE
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์
You might be intertested in this news.
Mostview
เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา
เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา (PART1)
อีนางคำดวง อาชีพ “นายฮ้อย” กับเรื่องจริงการค้าควาย สมัย ร.5
จากละคร สู่เรื่องจริง อาชีพ "นายฮ้อย" และการค้าขายควาย ในสมัย ร.5 สาเหตุที่เฟื่องฟู กับปัญหาการขโมยและปล้นควาย...
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(23ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากำไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(23ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากำไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(22ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากําไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(22ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากําไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(17ก.ย.68) เก็งกําไรในกรอบ
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(17ก.ย.68) เก็งกําไรในกรอบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
