วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 14, 2568

บทวิเคราะห์และสรุปประเด็น กนง.ปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย

by Trust News, 14 สิงหาคม 2568

บทวิเคราะห์และสรุปประเด็น กนง.ปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย

สรุปประเด็น กนง. มีมติเอกฉันท์ลดดอกเบี้ยนโยบาย จาก 1.75% เป็น 1.50%  และความเป็นไปได้ ที่จะลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป รวมถึงในอนาคต

กนง. มีมติเอกฉันท์ลดดอกเบี้ยนโยบายจาก 1.75% เป็น 1.50% เหตุเศรษฐกิจครึ่งหลังปี 2568 มีแนวโน้มชะลอจากผลกระทบตรง–อ้อมของมาตรการภาษีสหรัฐฯ การแข่งขันด้านท่องเที่ยวที่รุนแรงขึ้น และความเชื่อมั่น–รายได้ภาคครัวเรือนที่ชะลอ โดย SMEs และแรงงานอิสระเป็นกลุ่มเปราะบางหลัก

กนง. เห็นว่าเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำจากราคาพลังงานและอาหารสดที่ลดลงตามปัจจัยด้านอุปทาน แม้ราคาสินค้า–บริการอื่นไม่ปรับลงชัดเจน ส่งผลให้เงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัว ขณะที่สินเชื่อหดตัวต่อเนื่องและคุณภาพสินเชื่อ SMEs–ที่อยู่อาศัยด้อยลง

กนง. เห็นว่านโยบายการเงินสามารถผ่อนคลายเพิ่มเติมเพื่อเอื้อต่อการปรับตัวของธุรกิจ ลดต้นทุนทางการเงิน และบรรเทาภาระหนี้กลุ่มรายได้ต่ำ พร้อมติดตามใกล้ชิดการขยายตัวสินเชื่อ ค่าเงินบาท และเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะปานกลาง

ทั้งนี้ จากการแถลงข่าวของเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) สรุปได้ว่า (1) ภาพเศรษฐกิจโดยรวมใกล้เคียงกับที่ กนง. เคยคาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะในครึ่งปีแรก แต่ความเสี่ยงในครึ่งปีหลังมีมากขึ้น (2) สิ่งที่ กนง. กังวลได้แก่ ภาคส่งออกที่จะชะลอลงมาก ภาคท่องเที่ยวที่ปัจจุบันชะลอกว่าคาด และสินเชื่อที่หดตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะรายย่อยและกลุ่มเปราะบาง

เบื้องต้น มองว่า ความเป็นไปได้ที่จะลดดอกเบี้ยอีก 0.25% (p.p.) ในการประชุมครั้งถัดไป (8 ตุลาคม 2568) มีอยู่ในระดับสูงราว 70–80% หากเศรษฐกิจชะลอตามคาด ผลกระทบจากมาตรการภาษีสหรัฐฯ ชัดเจนขึ้น เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ และปัญหาการหดตัวของสินเชื่อ

นอกจากนั้น เริ่มเปิดโอกาสที่จะลดในการประชุมเดือน ธ.ค. 2568 และเป็นไปได้ที่ ธปท. จะลดดอกเบี้ยจะต่อเนื่องไปยังปี 2569 หากเศรษฐกิจมีทิศทางชะลอต่อเนื่อง

สำหรับปัจจัยสนับสนุนการลดดอกเบี้ยในช่วงต่อไป

1. เศรษฐกิจครึ่งหลังปี 2568 มีแนวโน้มชะลอตัวจากแรงกดดันมาตรการภาษีสหรัฐฯ และการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว โดยการบริโภคภาคเอกชนและภาคการผลิตอ่อนแรงลง สะท้อนจากการใช้จ่ายหมวดบริการและสินค้าคงทนที่ลดลง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง และการผลิตในอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น อิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์เริ่มชะลอ

2. ภาวะการเงินของไทยยังคงตึงตัวจากเงินบาทที่แข็งค่าและการเติบโตของสินเชื่อที่อยู่ในระดับต่ำ

3. สินเชื่อ SMEs หดตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 10 โดยหดตัวรุนแรงในกลุ่มโรงแรมและร้านอาหาร

4. เงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในระดับต่ำกว่ากรอบเป้าหมายอย่างชัดเจน และไม่มีแรงกดดันด้านอุปสงค์ ปัจจัยหลักมาจากราคาพลังงานโลกที่อยู่ในระดับต่ำ Domestic demand ของที่อ่อนแอ ทำให้ผู้ผลิตไม่มี Pricing power ต้นทุนการผลิตที่ลดลงจากสินค้าจีนที่ไหลเข้ามา ราคาผักผลไม้ที่ปรับลดลงจากผลผลิตมาก รวมถึงเงินเฟ้อพื้นฐานเริ่มชะลอลงสะท้อนอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอลง


อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์


You might be intertested in this news.

Mostview

รีวิว “Weapons” หนังฉีกแนว กับสาเหตุเด็กหายที่คิดไม่ถึง..

“Weapons” เป็นหนังที่ผิดจากที่คาดไว้ นึกว่าเป็น “หนังผี” แต่ปรากฎว่าหนังเรื่องนี้ มีสิ่งที่เหนือความคาดหมาย อยากให้ใครที่คิดจะชมเรื่องนี้ เข้าไปดูเอง…

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (7ส.ค.68) ขายทํากําไร

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (7ส.ค.68) ขายทํากําไร

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (14ส.ค.68) ดีดตัวระยะสั้น

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (14ส.ค.68) ดีดตัวระยะสั้น

แนวโน้มSETวันนี้(7ส.ค.68) เริ่มมีโอกาสชะลอที่แนวต้าน

แนวโน้มSETวันนี้(7ส.ค.68) เริ่มมีโอกาสชะลอที่แนวต้าน

15 วีรชนทหารกล้าผู้พลีชีพในสมรภูมิ การสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ปี 2568

กองทัพบก ยกย่องและประกาศชื่อ15 วีรชนทหารกล้า ผู้สละชีพ ปกป้อง พิทักษ์แผ่นดินไทย จากเหตุการณ์สู้รบที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จากทุกแนวรบ ตลอดแนวรบ ทุกสมรภูมิ เพื่อให้เป้นที่จดจำและระลึกถึงความกล้าหาญครั้งนี้สืบไป

TrustNEws Line