วันเสาร์, ธันวาคม 20, 2568

วิเคราะห์3สัญญาณบวก ดันท่องเที่ยวไทยฟื้นตัว

by Trust News, 22 สิงหาคม 2568

วิเคราะห์3สัญญาณบวก ดันท่องเที่ยวไทยฟื้นตัว

หลังจาก 2Q68 ที่อ่อนแอ เบื้องต้นพบ 3 สัญญาณบวกที่สะท้อนถึงความคืบหน้าในการฟื้นตัวอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

ประการแรก :

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรายสัปดาห์ลดลง YoY น้อยลง โดยในสัปดาห์ที่ 33 ของปี 2568 (วันที่ 11-17 ส.ค.) นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 9% YoY ฟื้นตัวอย่างชัดเจนจากช่วง 4 สัปดาห์ก่อนหน้า (ที่ลดลงราว 14% ถึง 18% YoY) การฟื้นตัวนำโดยตลาดนักท่องเที่ยวประเทศอื่นๆ (ที่ไม่ใช่ตลาดจีน) ซึ่งลดลงเพียง 1% YoY

ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังคงอ่อนแอ แต่ทรงตัวที่ -39% YoY

ประการที่สอง :

การดำเนินงานของผู้ประกอบการโรงแรมชี้ให้เห็นว่าผลประกอบการทำจุดต่ำสุดไปแล้วใน 2Q68 และมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น

ประการที่สาม :

กลุ่มท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง CENTEL และ ERW โดยปรับคำแนะนำขึ้นเป็น OUTPERFORM (จาก NEUTRAL) และเลือกเป็นหุ้นเด่น
 
สรุปผลประกอบการ 2Q68 :

ใน 2Q68 ผลประกอบการของ AWC และ ERW ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม กำไรปกติถูกฉุดรั้งโดยช่วงโลว์ซีซั่น ของ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มี.ค.

ในทางกลับกัน CENTEL มีผลประกอบการที่น่าผิดหวังอย่างมีนัยสำคัญ โดยผลประกอบการ 2Q68 แย่กว่าตลาดคาดซึ่งเป็นผลมาจากขาดทุน จากโรงแรมใหม่ 2 แห่งในมัลดีฟส์

ขณะที่ MINT มีผลประกอบการแข็งแกร่งตามคาด เนื่องจากกำไรปกติทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยได้แรงหนุนจากช่วงไฮซีซั่นในยุโรป
 
สำหรับ 3 สัญญาณบวกที่สะท้อนความคืบหน้าในการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ประกอบด้วย :

1) แนวโน้มการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเริ่มชัดเจนขึ้น ข้อมูลรายสัปดาห์แสดงสัญญาณการฟื้นตัว โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง YoY น้อยลง

ในสัปดาห์ที่ 33 ของปี 2568 (วันที่ 11–17 ส.ค.) มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจำนวน 613,372 คน ลดลง 9% YoY ฟื้นตัวอย่างชัดเจนจากช่วง 4 สัปดาห์ก่อนหน้าที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 14–18% YoY

โดยปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ คือ การฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ (ไม่รวมจีน) ซึ่งลดลงเพียง 1% YoY ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนยังคงลดลงต่อเนื่อง แต่ลดลงในระดับคงที่ที่ 39% YoY

2) ข้อมูลด้านการดำเนินงานจากผู้ประกอบการโรงแรมชี้ให้เห็นว่าผลประกอบการน่าจะทำจุดต่ำสุดไปแล้วใน 2Q68 และมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยมีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจนจากการลดลง YoY ของ RevPAR ที่ชะลอตัวลงในเดือนก.ค. สำหรับโรงแรมของ CENTEL ในกรุงเทพฯ และกลุ่มโรงแรมระดับ 3–5 ดาวของ ERW และ

3) ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มที่อ่อนแอใน 7M68 เบื้องต้น จึงปรับลดประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยลงมาอยู่ที่ 33.8 ล้านคน (จาก 35 ล้านคน) ในปี 2568 และคาดว่าจะอยู่ที่ 35 ล้านคนในปี 2569 หรือลดลง 5% ในปี 2568 และเพิ่มขึ้น 3% ในปี 2569

มาตรการล่าสุดของรัฐบาลไทย ในการกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ คือ การร่วมมือกับสายการบินไทย 6 สายการบินในการมอบตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ (ไป-กลับ) ฟรีแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 200,000 คน เพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยและท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงเดือนก.ย. ถึง พ.ย. 2568

สำหรับประมาณการดังกล่าว สะท้อนถึงการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจากฐานที่ต่ำ แทนที่จะเป็นการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว (V-shaped) ดังที่เห็นในอดีตเนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก...
 
ปรับคำแนะนำสำหรับ CENTEL และ ERW ขึ้นเป็น OUTPERFORM และเลือกเป็นหุ้นเด่น แม้ว่าหุ้นกลุ่มโรงแรมแสดงสัญญาณฟื้นตัวในระยะสั้น แต่ YTD ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 6-35% เทียบกับ SET ที่ลดลง 11% การปรับตัว underperform ตลาดส่วนใหญ่เป็นผลมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ถึงการฟื้นตัว ซึ่งน่าจะเป็นแรงหนุนหุ้นกลุ่มนี้ ด้วยแนวโน้มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้นและและโมเมนตัมผลประกอบการที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น เราจึงมองว่าเป็นโอกาสลงทุนที่น่าสนใจในหุ้นกลุ่มโรงแรม

จึงปรับคำแนะนำสำหรับ CENTEL และ ERW ขึ้นเป็น OUTPERFORM (จาก NEUTRAL) และเลือกเป็นหุ้นเด่น...

CENTEL : (ราคาเป้าหมาย 36 บาท) อยู่ในสถานะที่ดีสำหรับการฟื้นตัว โดยผลประกอบการน่าจะทำจุดต่ำสุดไปแล้วใน 2Q68 โดยได้รับการสนับสนุนจากผลขาดทุนที่ลดลงจากโรงแรมใหม่ 2 แห่งในมัลดีฟส์ จากการดำเนินงานที่เร่งตัวขึ้น และคาดว่าผลประกอบการจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 3Q68 ถึง 1Q69

นอกจากนี้ ยังมองเห็นโอกาสเก็งกำไรใน ERW : (ราคาเป้าหมาย 3.3 บาท) ราคาหุ้นได้รับแรงกดดันจากประเด็น overhang เกี่ยวกับการต่อสัญญาเช่าโรงแรม Grand Hyatt Erawan Bangkok

ในกรณีเลวร้ายที่สุด ซึ่งใช้สมมติฐานว่าโรงแรมแห่งนี้ จะไม่สามารถดำเนินงานได้ ราคาเป้าหมายของ เบื้องต้นจะปรับลดลงมาอยู่ 2.9 บาท/หุ้น สูงกว่าราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ 17% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาหุ้นสะท้อนมุมมองเชิงลบมากเกินไป ขณะที่ ERW ยังคงได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
 
ปัจจัยเสี่ยง :

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและความต้องการเดินทาง การขาดแคลนแรงงาน และต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไร ปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG คือ การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก พลังงาน น้ำเสีย และขยะ ที่มีประสิทธิภาพ (E)

อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์


You might be intertested in this news.

Mostview

ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น

ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ

6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)

6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)

TrustNEws Line