7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (1ก.ย.2025)
by Trust News, 1 กันยายน 2568
7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (1ก.ย.2025)
1. หุ้นทั่วโลกปรับตัวลงนำโดยกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าจากความคาดหวังการลดดอกเบี้ย Fed
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงในวันศุกร์ โดยหุ้นเทคโนโลยีนำการปรับตัวลง Dell Technologies ดิ่ง 8.9% หลังรายงานผลประกอบการที่มีต้นทุนการผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI สูง ส่งผลให้หุ้น AI อื่นๆ อย่าง Nvidia และ Broadcom ปรับตัวลงตาม
ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบกับยูโรหลังข้อมูลเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนกรกฎาคม สอดคล้องกับคาดการณ์ ทำให้ตลาดคาดการณ์โอกาส 89% ที่ Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน สำหรับทั้งเดือนสิงหาคม S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.9% Dow เพิ่มขึ้น 3.2% และ Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.6%
2. การใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐฯ แข็งแกร่งในเดือนกรกฎาคม ขณะที่ Core Inflation เพิ่มขึ้น
การใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนกรกฎาคม หลังจากปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนมิถุนายน โดยได้รับแรงหนุนจากอัตราการเลิกจ้างที่ต่ำและการเติบโตของค่าจ้าง อย่างไรก็ตาม ภาษีนำเข้าของทรัมป์ส่งผลให้ต้นทุนธุรกิจสูงขึ้น ทำให้การจ้างงานชะลอตัว โดยการจ้างงานเฉลี่ยเพียง 35,000 ตำแหน่งต่อเดือนในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
ด้าน PCE Price Index เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนกรกฎาคม และ 2.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ Core PCE เพิ่มขึ้น 0.3% และ 2.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน ข้อมูลนี้อาจไม่เปลี่ยนแปลงแผนการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในเดือนกันยายน
3. กิจกรรมภาคการผลิตของจีนหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ในเดือนสิงหาคม
ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนอยู่ที่ 49.4 ในเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 49.3 ในเดือนกรกฎาคม แต่ยังคงต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ขณะที่ดัชนี PMI นอกภาคการผลิตขยายตัวเร็วขึ้นที่ 50.3
เศรษฐกิจจีน กำลังเผชิญความท้าทายจากการส่งออกที่อ่อนแอ เนื่องจากภาษีสหรัฐฯ ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซา ความไม่มั่นคงด้านการจ้างงาน หนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่น และสภาพอากาศรุนแรง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเป้าหมายการเติบโต 5% ในปี 2025
แม้สหรัฐฯ และจีนจะขยายข้อตกลงพักรบภาษีออกไปอีก 90 วัน แต่ความไม่แน่นอนยังคงบั่นทอนความเชื่อมั่น นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ารัฐบาลจีนมีแนวโน้มที่จะออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมในไตรมาส 4 เพื่อประคองการเติบโตทางเศรษฐกิจ
4. ยูเครนเตรียมตอบโต้หลังรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน
รัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในยูเครนตอนเหนือและตอนใต้ด้วยโดรน ส่งผลให้มีผู้ใช้ไฟฟ้าเกือบ 60,000 ราย ไม่มีไฟฟ้าใช้ ประธานาธิบดี Volodymyr Zelenskiy ประกาศจะตอบโต้ด้วยการสั่งโจมตีลึกเข้าไปในรัสเซีย
ทั้งสองฝ่ายเพิ่มความเข้มข้นในการโจมตีทางอากาศในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยรัสเซียมุ่งเป้าที่ระบบพลังงานและการขนส่งของยูเครน ขณะที่ยูเครนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันและท่อส่งน้ำมันของรัสเซีย การสู้รบที่เข้มข้นขึ้นเกิดขึ้นในช่วงที่ประธานาธิบดี Trump ผลักดันให้ยุติสงคราม
5. ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ ตัดสินว่า Reciprocal Tariff ของ ทรัมป์ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ มีมติ 7-4 ตัดสินว่ามาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ของ ปธน. ทรัมป์ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ภายใต้ International Emergency Economic Powers Act (IEEPA)ให้เป็นโมฆะ เนื่องจากเป็นอำนาจของสภาคองเกรสไม่ใช่ฝ่ายบริหาร
6. สี–โมดี จับมือฟื้นสัมพันธ์ ท่ามกลางแรงกดดันสงครามการค้าสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี พบกันครั้งแรกนับจากทรัมป์หวนคืนอำนาจ โดยต่างฝ่ายให้คำมั่นจะกระชับความร่วมมือ หลังทั้งสองชาติเผชิญผลกระทบจากภาษีการค้าสหรัฐฯ โมดีประกาศเดินหน้าเปิดเที่ยวบินตรงจีน–อินเดียอีกครั้ง
ขณะที่ สี เน้นย้ำว่า ความสัมพันธ์ไม่ควรถูกนิยามด้วยปัญหาพรมแดน การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นเคียงข้างเวที SCO ที่เมืองเทียนจิน ซึ่งสะท้อนแรงกดดันให้ปักกิ่งและนิวเดลีหาทางกระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ หลังสหรัฐฯ เพิ่งขึ้นภาษี 50% ต่อสินค้าส่งออกอินเดีย
7. อินโด–ไทยเผชิญแรงกดดันการเมือง กดดันตลาดหุ้น–ค่าเงิน
ตลาดหุ้นอินโดนีเซียร่วง 1.5% และไทยลดลง 1.1% วันศุกร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมือง ประธานาธิบดีปราโบโวประกาศยกเลิกเดินทางไปจีน หลังเหตุประท้วงรุนแรงจากค่าครองชีพพุ่ง
ขณะที่ไทยกำลังอยู่ระหว่างการจัดตั้งรัฐบาลใหม่หลังศาลตัดสิทธิ์นายกฯ แพทองธาร นักลงทุนกังวลความเสี่ยงเงินทุนไหลออกและแรงกดดันต่อค่าเงิน แม้ Valuation ถูกและมีโอกาสลดดอกเบี้ยหนุนการฟื้นตัว ความปั่นป่วนทางการเมืองเพิ่ม risk premium ในภูมิภาค สำหรับไทยหากการเปลี่ยนผ่านในไทยราบรื่นและมีสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน อาจสร้างโอกาสเข้าลงทุนในราคาที่น่าสนใจ
ประเด็นที่ต้องติดตาม :
Caixin Manufacturing PMI ของจีน เดือน ส.ค. คาดว่าจะออกมาที่ 49.7 จากก่อนหน้าที่ 49.5 และ Unemployment Rate ของยุโรป เดือน ก.ค. คาดว่าจะออกมาที่ 6.2% จากก่อนหน้าที่ 6.2%
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์
You might be intertested in this news.
Mostview
ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น
ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ
6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)
6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)
7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)
7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง