วันจันทร์, พฤศจิกายน 3, 2568

แนวโน้มSETวันนี้(12ก.ย.68) รอนโยบายศก.ใหม่ ลุ้นทดสอบ 1300

by Trust News, 12 กันยายน 2568

แนวโน้มSETวันนี้(12ก.ย.68) รอนโยบายศก.ใหม่ ลุ้นทดสอบ 1300
 
คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์/แกว่งขึ้น ยังติดตามความคืบหน้าในการจัดตั้ง ครม. และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่เพิ่มเติมเป็นความหวังของตลาด ส่วนนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันกลับมาซื้อสุทธิพร้อมกันในระดับพันลบ. ตัวเลขขอรับสวัสดิการรายสัปดาห์สหรัฐฯ เพิ่มสูงสุดในรอบ 4 ปี หนุนให้เฟดลดดอกเบี้ย

ตลาดรอดู DotPlot ทางเทคนิคยังเป็นการแกว่งตัวขึ้น หากยังไม่หลุด 1280/1270 ยังไม่เสียแนวโน้มการแกว่งขึ้น แนวต้านประเมินที่ 1295/1300 มีโอกาสทดสอบ

ประเด็นสำคัญ :

1. ว่าที่ รมช. คลัง เสนอ ธปท. ดูแลค่าเงินบาทแบบ Smoothing Operation หรือการซื้อ-ขายเงินตราต่างประเทศในตลาดเพื่อลดความผันผวนและชะลอการแข็ง/อ่อนจนเกินไป แต่หลีกเลี่ยงการตรึงหรือกดค่าเงินให้ต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน เพื่อหลีกเลี่ยงถูกตีความเป็นการ “แทรกแซง” ค่าเงินตามกฎ FX Manipulation โดยสหรัฐฯ


2. ผู้ว่าฯ ททท. เสนอ “ทัวร์ไทยคนละครึ่ง” กระตุ้นการท่องเที่ยวไทย เพื่อรับมือภาวะบาทแข็งค่าซึ่งกระทบต่อจำนวน นทท. ต่างชาติ โดยใช้งบประมาณที่เหลือจาก “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” และจะเร่งเสนอต่อรัฐบาลใหม่และหนุนให้เกิดขึ้นภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้รอติดตามความชัดเจนอีกครั้ง เบื้องต้นมองเป็นบวกเล็กน้อยต่อกลุ่มโรงแรม


3. CPI สหรัฐฯ ใน ส.ค. 2568 ขยายตัว 2.9%YoY ตามที่ตลาดคาดไว้และ 0.4%MoM สูงกว่าที่ตลาดคาดและเร่งตัวจากเดือนก่อน จากราคาพลังงาน, อาหาร และที่อยู่อาศัย แต่ตลาดประเมินว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า หลังจากจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี ตลาดแรงงานอ่อนแอหนุนเฟดลดดอกเบี้ย


4. IEA ปรับขึ้นคาดการณ์เติบโตอุปสงค์น้ำมันโลกปี 2568 ขึ้นเล็กน้อยสู่ +740kBD จากอุปสงค์กลุ่ม OECD ที่ทนทานต่อภาวะ ศก. ที่ไม่แน่นอน และจีนคงเพิ่มสต็อกน้ำมันดิบอย่างต่อเนื่องซึ่งช่วยประคองราคาน้ำมันและรองรับภาวะอุปทานล้นเกินมากขึ้น  โดยล่าสุด OPEC+ ได้เริ่มกลับมาตรการลดการผลิตแบบสมัครใจ 1.66MBD


5. ม. หอการค้าไทยประเมิน “คนละครึ่ง” หากนำกลับมาใช้ใน 4Q68 ภายใต้งบ 2.5 หมื่นลบ. คาดจะทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ ศก. ได้อย่างน้อย 5 หมื่นลบ. และประกอบกับการเร่งเบิกจ่ายงบปี 2569 ประเมินจะช่วยหนุน GDP ทั้งปี 2568 เติบโตกว่า 2.5%

กลยุทธ์การลงทุน :

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสแกว่งตัวขึ้น หลังสถานการณ์การเมืองไทยมีความชัดเจนขึ้น รอติดตามการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งจะทำให้ความเชื่อมั่นการลงทุนฟื้นตัว โดยคาด Fund Flow จะทยอยไหลเข้าและประเมินแนวต้านที่ 1300

ส่วนเงินเฟ้อสหรัฐ CPI ออกมาตามคาด หนุนให้เฟดจะลดดอกเบี้ยต่อในสัปดาห์หน้า ขณะที่การประชุมนโยบายการเงินของ ECB ยังคงดอกเบี้ยไว้ที่เดิมตามที่ตลาดคาด กลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”
 
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :

ช่วงสั้นมอง SET มีแนวโน้มจะปรับขึ้น หลังสถานการณ์การเมืองไทยมีความชัดเจน คาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้...

1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาด 2H68 ผลการดำเนินงานจะยังเติบโตดีทั้ง HoH และ YoY แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและจากปัจจัยบวกที่มีเฉพาะตัว ได้แก่ ADVANC BCPG GULF SCC

2. หุ้นปันผลคุณภาพดี (SET100 ที่มี SETESG Rating A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตในระยะสั้น คาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ PTT TTB 

Trading Idea :

สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ...

1)  หุ้น Laggard Play คาดได้อานิสงส์หาก Fund Flow ไหลเข้าต่อ โดยเลือกหุ้น SET50 ราคาหุ้นปรับขึ้น QTD ต่ำกว่า SET และ Valuation ถูก มี PBV และ PER 2568F < -1SD มีพื้นฐานดี (กำไรเติบโต ฐานะการเงินแข็งแกร่งและมี ESG Rating A-AAA) แนะนำ BDMS CPALL CRC MTC PTT WHA

2)  หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลงและ/หรือดอลลาร์อ่อนค่า(บาทแข็ง) แนะนำ กลุ่ม REITs (DIF) กลุ่มอสังหาฯ (AP SIRI) กลุ่มเช่าซื้อ (MTC) และกลุ่มโรงไฟฟ้า (GPSC BCPG GULF)

3)  หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก (CPALL GLOBAL TNP) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG OSP HTC ICHI) กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL) กลุ่มนิคม (AMATA) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (SCC)
 
Daily top picks :

GPSC : มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากราคาก๊าซ และ Bond Yield ลดลง และเงินบาทแข็งค่า คาดว่ามีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มจาก Data Center ในไทยและมีความเป็นไปได้ในการร่วมลงทุนในธุรกิจ Data Center คาดกำไรปกติปี 2568 จะเติบโต 12%YoY จากการเพิ่มกำลังการผลิต, ต้นทุนเชื้อเพลิงลดลง ราคาเป้าหมายระยะสั้นที่ 43.50 บาท
 
CENTEL : มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากความหวังมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคท่องเที่ยว เช่น “ทัวร์ไทยคนละครึ่ง” นักท่องเที่ยวต่างชาติรายสัปดาห์หดตัว YoY ที่แคบลง กำไรมีแนวโน้มผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ขาดทุนจากโรงแรมใหม่ในมัลดีฟส์เริ่มแคบลงและคาดเห็นการเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ 3Q68 ราคาเป้าหมายระยะสั้นที่ 33.25 บาท

อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์


You might be intertested in this news.

Mostview

รีวิวหนัง Curious Tales of a Temple เรื่องพิศวงตำนานลึกลับ

Curious Tales of a Temple แอนิเมชั่น ตำนานเรื่องเล่าปรัมปรา ของ จีน ที่หยิบมา 5 เรื่อง มาเล่าเป็นตอนๆ ให้ดูกัน โดยการผลัดกันเล่า ระหว่าง คางคก เต่า และ ชายหนุ่ม ที่เผลอตกลงไปใน บ่อน้ำโบราณ ....

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้(29ต.ค.68) ฟื้นตัวในกรอบจำกัด

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้(29ต.ค.68) ฟื้นตัวในกรอบจำกัด

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (30ต.ค.68) ฟื้นตัวในกรอบจำกัด

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (30ต.ค.68) ฟื้นตัวในกรอบจำกัด

8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (29ต.ค.2068)

8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (29ต.ค.2068)

8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (30ต.ค.2568)

8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (30ต.ค.2568)

TrustNEws Line