แนวโน้มSETวันนี้(22ก.ย.68) บาทยังกดดัน รอนโยบายเศรษฐกิจ
by Trust News, 22 กันยายน 2568
แนวโน้มSETวันนี้(22ก.ย.68) บาทยังกดดัน รอนโยบายเศรษฐกิจ
คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์ นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิสูงพร้อมกับค่าเงินบาทที่มีช่วงอ่อนค่า เป็นสัญญาณกดดันจิตวิทยาต่อตลาด อย่างไรก็ตาม ตลาดติดตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่คาดว่าจะทยอยมีรายละเอียดออกมา ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุน
โดย ครม. จะเข้าถวายสัตย์วันที่ 24 ก.ย.นี้ และคาดว่าจะมีการแถลงต่อสภาฯ วันถัดไป ทางเทคนิค ยังคงให้ดูที่แนวต้าน 1300/1303 ยืนเหนือได้กลับเป็นขึ้น หากยืนไม่ได้คาดยังพักตัวต่อมีแนวรับอยู่ที่ 1287/1280 ที่จะทำให้มีช่วงดีดกลับได้
ประเด็นสำคัญ :
1. ครม. อนุทินทั้งหมด 36 ท่านได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งในวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา คาดจะเริ่มการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาราวช่วงวันที่ 29 ก.ย. – 1 ต.ค. นี้ หลังการเข้าพิธีถวายสัตย์ของ ครม. ในวันที่ 24 ก.ย. 2568 ติดตามกำหนดการที่ชัดเจนหลังจากการประชุมวิป 3 ฝ่ายในหลังการถวายสัตย์ช่วงวันที่ 25-26 ก.ย. นี้
2. ธปท. เผยยังไม่เห็นสัญญาณการเก็งกำไรค่าเงินบาทที่ผิดปกติ ปัจจัยหลักเกิดจากดอลลาร์อ่อนค่า และในตอนนี้ ธปท. ดูแลไม่ให้บาทผันผวนเร็วและแรงเกินไปและกำลังหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ค้าทองคำ เนื่องจากทองคำมีความเชื่อมโยงกับค่าเงินสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเฉลี่ย 0.7%
3. สนพ. เผยยอดใช้ไฟฟ้าช่วง 6M68 ลดลง 5.5%YoY และคาดว่าการใช้ไฟฟ้าทั้งปี 2568 จะลดลง 4.6%YoY จากฐานการใช้ไฟฟ้าที่สูง, อุณหภูมิไม่สูงเทียบกับในปีก่อนและปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้น ส่วนการบริโภคน้ำมันสำเร็จรูปในปี 2568 คาดขยายตัว 0.7%YoY นำโดยการใช้น้ำมันอากาศยานตามจำนวนผู้เยี่ยมเยือนที่ฟื้นตัว ยกเว้นดีเซลที่คาดจะลดลง 1.5%YoY ชะลอตามกิจกรรมในภาคขนส่ง
4. ปธน. ทรัมป์เผยว่าได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับ TikTok และมีความคืบหน้าในหลายประเด็น เช่น การค้า, การควบคุมยาเฟนทานิล และการยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน และทั้งสอง ปธน. จะพบปะกันในที่ประชุม APEC ที่เกาหลีใต้ใน ต.ค. และปธน. ทรัมป์มีแผนเยือนจีนในช่วงต้นปี 2569
5. BoJ คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% ตามตลาดคาด และประกาศแผนทยอยขาย ETF และ J-REITs ที่ถือครองอยู่มูลค่ารวม 74.5 ล้านล้านเยน โดยจะทยอยขายปีละราว 6.2 แสนล้านเยน ทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเผชิญแรงขายในวันดังกล่าวและผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 10 ปี ปรับขึ้นสู่ 1.64%
กลยุทธ์การลงทุน :
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักฐานหรือแกว่งตัวในกรอบแคบ หลังขาดปัจจัยหนุนใหม่ ปัจจัยในประเทศยังอยู่ระหว่างรอติดตามแผนการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ซึ่งจะมีผลต่อการเรียกความเชื่อมั่นการลงทุนให้ฟื้นตัวและการไหลเข้าของ Fund Flow ในระยะถัดไป
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อาทิ PMI และ PCE ซึ่งหากออกมาแย่กว่าตลาดคาด จะมีผลต่อการพิจารณาตัดสินใจเร่งลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในระยะถัดไป
อย่างไรก็ดีมอง SET เริ่มมี Upside จำกัดและอาจชะลอการขึ้นสั้นบ้าง หลังดัชนีปรับขึ้น 19% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา แต่ Downside ยังจำกัดเช่นกัน หลังเริ่มเห็น Fund Flow ชะลอการขาย ประเมิน SET มีแนวต้านบริเวณ 1320 และมีแนวรับ 1280 ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :
ช่วงสั้นมอง SET จะพักฐานหลังตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่ ในประเทศติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลและมาตรการกระตุ้น ศก. ส่วนต่างประเทศติดตามตัวเลข ศก. สำคัญของสหรัฐฯ กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 2 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้...
1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาด 2H68 ผลการดำเนินงานจะยังเติบโตดีทั้ง HoH และ YoY แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและจากปัจจัยบวกที่มีเฉพาะตัว ได้แก่ ADVANC BCPG GULF SCC
2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET100 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ PTT TTB
Trading Idea :
สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ...
1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากสถานการณ์น้ำท่วมในไทย แนะนำ TASCO BJC HMPRO GLOBAL เนื่องจากจากสถิติระหว่างปี 2558-2567 (ยกเว้นปี 2563 ที่เกิดวิกฤตโควิด-19) พบว่าราคาหุ้นจะปรับขึ้นได้ดีเมื่อซื้อลงทุนช่วงกลาง ก.ย. และไปขายต้น พ.ย. โดยคาดหวังได้ผลตอบแทนสูงสุดเฉลี่ยราว 2.6%
2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภค ท่องเที่ยวและการลงทุน แนะนำ กลุ่มค้าปลีก (CPALL GLOBAL TNP) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG OSP HTC ICHI) กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL) กลุ่มนิคม (AMATA WHA) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (SCC)
Daily top picks :
CENTEL : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว โรงแรมมัลดีฟส์คาดได้แรงหนุนจาก High Season ใน 4Q68 และธุรกิจร้านอาหารในไทย (สัดส่วน 52% ของรายได้ใน 1H68) มีโอกาสได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นการบริโภคของรัฐบาล Valuation ไม่แพง เทรดต่ำกว่า -0.5SD ราคาเป้าหมายระยะสั้นที่ 34 บาท
GPSC : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากราคาก๊าซฯ ที่ปรับตัวลงและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยลงหนุน บริษัทมีหนี้ลอยตัว 42% ดอกเบี้ยที่ลดลงทุก 50bps จะหนุนกำไรปี 2569 ที่ 0.4% คาดกำไรปกติปีนี้จะเติบโต 3.9%YoY จากการเพิ่มกำลังการผลิต และต้นทุนเชื้อเพลิงและผลตอบแทนพันธบัตรลดลง ราคาเป้าหมายระยะสั้นที่ 42 บาท
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์
You might be intertested in this news.
Mostview
เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา
เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา (PART1)
อีนางคำดวง อาชีพ “นายฮ้อย” กับเรื่องจริงการค้าควาย สมัย ร.5
จากละคร สู่เรื่องจริง อาชีพ "นายฮ้อย" และการค้าขายควาย ในสมัย ร.5 สาเหตุที่เฟื่องฟู กับปัญหาการขโมยและปล้นควาย...
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(22ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากําไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(22ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากําไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(23ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากำไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(23ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากำไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(17ก.ย.68) เก็งกําไรในกรอบ
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(17ก.ย.68) เก็งกําไรในกรอบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
