วันเสาร์, พฤศจิกายน 8, 2568

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (23ก.ย.2025)


by Trust News, 23 กันยายน 2568

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (23ก.ย.2025)


1. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง นำโดยหุ้นกลุ่ม Tech

ดัชนีหลักของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง Dow Jones +0.14%, S&P 500 +0.44% และ Nasdaq +0.70% ปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องเป็นวันที่สาม นำโดยหุ้น Nvidia ที่พุ่งขึ้น 3.9% หลังประกาศลงทุน $100 พันล้านใน OpenAI และจะซัพพลายชิป data center ให้ OpenAI

ขณะที่หุ้น Apple ขยับขึ้น 4.3% จากนักวิเคราะห์ปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย (target price) ตามสัญญาณความต้องการ iPhone 17 ที่แข็งแกร่ง ส่วนเจ้าหน้าที่เฟดบางรายแสดงความสงสัยต่อความจำเป็นในการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยยังคงเน้นเป้าหมายควบคุมเงินเฟ้อเป็นหลัก ด้านนักลงทุนยังจับตาตัวเลข PCE ซึ่งเป็นตัววัดเงินเฟ้อสำคัญในสัปดาห์นี้

2. Nvidia เตรียมลงทุนสูงสุด $100 พันล้านใน OpenAI จับมือขยายอิทธิพล AI โลก

Nvidia ประกาศลงทุนสูงสุด $100 พันล้านใน OpenAI พร้อมจัดหาชิปสำหรับ data center เพื่อเสริมศักยภาพ AI โดยดีลนี้ Nvidia จะลงทุนผ่าน non-voting shares

ข้อตกลงนี้จะช่วยให้ OpenAI มีเงินทุนและเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการแข่งขัน ขณะที่ Nvidia ได้ประโยชน์จากการเป็นผู้ผลิตชิปหลัก ด้านนักวิเคราะห์มองว่าดีลนี้เป็นบวกต่อ Nvidia แต่กังวลเรื่อง circular investment และผลกระทบต่อคู่แข่ง เช่น AMD และผู้พัฒนา AI models รายอื่น ๆ

3. H-1B visa กระทบตลาดแรงงาน AI และเทคโนโลยีสหรัฐฯ

คำสั่งใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์กำหนดค่าธรรมเนียม $100,000 สำหรับการสมัคร H-1B visa ใหม่ ซึ่งเป็นวีซ่าสำหรับแรงงานทักษะสูงในบริษัทเทคโนโลยี เช่น Amazon, Microsoft, Meta, Apple แม้ผลกระทบทางการเงินระยะสั้นจะจำกัด

แต่บริษัทอาจเร่งปรับกลยุทธ์ เช่น เพิ่มการจ้างงาน (offshoring) ไปยังอินเดีย ฟิลิปปินส์ และเม็กซิโก หรือเร่งนำ AI มาใช้ทดแทนแรงงาน H-1B visa เพื่อปรับแรงงานให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม (optimize workforce) ขณะที่คำสั่งมีช่องโหว่ให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมหากเป็นประโยชน์ต่อชาติ และจำกัดระยะเวลา 12 เดือน หากไม่ขยายเวลา ทั้งนี้สหรัฐฯ อาจเสียเปรียบด้านการหาบุคลากรที่มีฝีมือ (talent) หากนโยบายกีดกันต่างชาติ (anti-immigration) ถูกใช้เป็นถาวร

4. ราคาทองคำพุ่งทำ All-time High รับเฟดเดินหน้าลดดอกเบี้ย

ราคาทองคำ (Spot gold) พุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ $3,728.22/oz หลังนักลงทุนคาดการณ์เฟดจะเดินหน้าลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง โดย CME FedWatch tool ชี้โอกาสลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้สูงถึง 92% และ 81% สำหรับเดือนตุลาคมและธันวาคม

นักลงทุนจับตาข้อมูล PCE วันศุกร์นี้เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน Gold ETF มีแรงซื้อจากนักลงทุนมากขึ้น ส่วนเงิน (Silver) ก็ทำสถิติสูงสุดรอบ 14 ปีที่ $43.76/oz โดยภาพรวมราคาทองคำขึ้นมากกว่า 42% ในปีนี้จากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์

5. ECB อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย (contingency cut) สกัดการแข็งค่าของค่าเงินยูโร

ตลาดการเงินมองว่า ECB อยู่ในจุดที่มีการใช้นโยบายการเงินอย่างเหมาะสมด้วย policy rate ที่ 2% แต่หากค่าเงินยูโรแข็งค่ามากเกินไป อาจบีบให้ ECB ต้องลดดอกเบี้ยแบบฉุกเฉิน (contingency cut) เพื่อสกัดแรงกดดันด้านเงินฝืดและรักษาเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2%

แม้ Fed จะเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่อ นักลงทุนส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าดอลลาร์จะอ่อนค่าต่อ แต่ ECB อาจใช้มาตรการตอบโต้หากการแข็งค่าของค่าเงินยูโรส่งผลลบต่อ GDP และเงินเฟ้อ โดยค่าเงินยูโรแข็งค่าทำสถิติสูงสุดเมื่อเทียบกับคู่ค้า 41 ประเทศ และอาจกระทบการค้าและเงินเฟ้อในช่วงที่เศรษฐกิจยุโรปยังเปราะบาง นักวิเคราะห์เตือนว่าการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรอาจรบกวนสมดุลนโยบายของ ECB ในระยะต่อไป

6. PBOC คงอัตราดอกเบี้ย นักวิเคราะห์คาดอาจลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในไตรมาสที่ 4

ธนาคารกลางจีน (PBOC) คงอัตราดอกเบี้ย Prime Rate (LPR) ทั้งระยะสั้น 1 ปี ที่ 3.0% และระยะยาว 5 ปี ที่ 3.5% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 แม้เศรษฐกิจภายในจะมีสัญญาณอ่อนแอ เช่น ยอดค้าปลีกและผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนสิงหาคมต่ำสุดในรอบปี และธนาคารกลางสหรัฐฯ เพิ่งลดดอกเบี้ย ธนาคารกลางจีนเลือกคงท่าทีระมัดระวัง

โดยให้น้ำหนักกับเสถียรภาพค่าเงินและความมั่นคงทางการเงิน นักวิเคราะห์ยังคาดว่าอาจมีปรับลดดอกเบี้ยและ RRR ในไตรมาส 4 หากเศรษฐกิจยังคงซบเซา

7. รัฐบาลไทยเตรียมเข้าดูแลค่าเงิน พร้อมแก้ปัญหาหนี้และเพิ่มสภาพคล่องกับระบบเศรษฐกิจ

นายกรัฐมนตรีและว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไทย เตรียมจัดตั้งทีมงานเฉพาะกิจเพื่อรับมือการแข็งค่าของเงินบาทที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี ซึ่งสร้างผลกระทบต่อภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง ตลอดจนเตรียมมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนและเร่งเพิ่มสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย

โดยมุ่งหวังฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยในระยะสั้นให้ทันต่อสถานการณ์ ภาคเอกชนและผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการแข็งค่าของเงินบาทและเงินทุนไหลเข้าจำนวนมากเป็นปัจจัยจากภายนอกและสะท้อนความไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในประเทศ รัฐบาลจึงต้องเร่งดำเนินนโยบายที่แม่นยำและบูรณาการข้อมูลทุกส่วนเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะจุด

ประเด็นที่ต้องติดตาม :

ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยุโรป เดือน ก.ย. คาดการณ์ที่ 50.7 จุดเท่ากับก่อนหน้า และดัชนี PMI ภาคการบริการของยุโรป เดือน ก.ย. คาดการณ์ที่ 50.6 จุด ก่อนหน้าที่ 50.5 จุด

อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์


You might be intertested in this news.

Mostview

ทำไมทีมไหนๆจึงเลือกใช้ บอล Direct โจมตี ลิเวอร์พูล (ชมคลิป)

ทำไมทีมไหนๆจึงเลือกใช้ บอล Direct โจมตี ลิเวอร์พูล (ชมคลิป)

เล่นเร็ว เน้นบอลยาวและฟรีคิก แท็กติกที่ทำให้แมนยูฯเริ่มดีขึ้น (ชมคลิป)

เล่นเร็ว เน้นบอลยาวและฟรีคิก แท็กติกที่ทำให้แมนยูฯเริ่มดีขึ้น (ชมคลิป)

แนวโน้มราคาทองวันนี้ (7พ.ย.68) Sideway ดีดตัวขึ้นกรอบบน

แนวโน้มราคาทองวันนี้ (7พ.ย.68) Sideway ดีดตัวขึ้นกรอบบน

“พระปรุหนัง” ของขลังมหาอุตม์ของ “เสือฝ้าย” และจุดจบที่แสนอดสู

เรื่องเล่า "ของขลัง" ขุนโจรฉายา "จอมพลฝ้าย" ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน 4 เสือสุพรรณ โดยมีของดี เป็น "พระเครื่องปรุหนัง" พระระดับตำนานที่สร้างในสมัยอยุธยา ขึ้นชื่อเรื่อง มหาอุตม์ แต่จุดจบของเสือฝ้ายกลับตายอย่างน่าอดสู....

แนวโน้มราคาทองวันนี้ (5พ.ย.68) ยังคงเป็น Sideway

แนวโน้มราคาทองวันนี้ (5พ.ย.68) ยังคงเป็น Sideway

TrustNEws Line