วันพุธ, กันยายน 24, 2568

แนวโน้มSETวันนี้(24ก.ย.68) ชะลอลงสั้น รอประชุมครม.นัดพิเศษ

by Trust News, 24 กันยายน 2568

แนวโน้มSETวันนี้(24ก.ย.68) ชะลอลงสั้น รอประชุมครม.นัดพิเศษ

คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์/รีบาวด์สั้นที่แนวรับ นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อแม้ว่าจะเริ่มลดระดับลง ในขณะที่ค่าเงินบาททรงตัว ตลาดติดตามการประชุม ครม.นัดพิเศษที่อาจจะมีความชัดเจนของนโยบายกระตุ้นเศษฐกิจ คาดว่าเป็นเรื่องการลดค่าครองชีพและโครงการคนละครึ่ง

ทางเทคนิค ตลาดลงหลุดต่ำกว่าแนวรับหลัก 1280/1276 ทำให้เสียแนวโน้มพักสั้นเพื่อขึ้น ระยะสั้นแม้มีโอกาสรีบาวด์ที่ 1270/1267 แต่หากยังไม่สามารถยืนเหนือ 1283/1293 ให้ระวังเป็นเพียงชะลอการลงสั้น

ประเด็นสำคัญ :

1. ประธานเฟดพาวเวลหนุนเฟดลดดอกเบี้ย จากตลาดแรงงานอ่อนแรงกว่าความกังวลเงินเฟ้อ แม้เสี่ยง Stagflation แต่ยืนยันเฟดพร้อมผ่อนคลายเพิ่มหากจำเป็น มองความเสี่ยงด้านการจ้างงานชัดเจนขึ้น ขณะทิศทางเงินเฟ้อยังไม่แน่นอน สะท้อนโจทย์ท้าทายต่อการกำหนดนโยบายและกล่าวถึงราคาสินทรัพย์ต่างๆ รวมถึงราคาหุ้นอยู่ในระดับสูง


2. จำนวน นทท. ต่างชาติในสัปดาห์ก่อนชะลอตัวต่อเนื่อง โดยการลดลง YoY กว้างขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า กดดันจากทั้งกลุ่ม นทท. จีน และไม่รวมจีน มองเป็น Sentiment เชิงลบระยะสั้นต่อกลุ่มท่องเที่ยว แต่พิจารณาช่วง 3 สัปดาห์แรกของ ก.ย. พบว่าหดตัว YoY แคบลงเมื่อเทียบกับ ส.ค. และ ก.ค. ที่ผ่านมา มองได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว


3. ส.อ.ท. เผยยอดผลิตรถยนต์ใน ส.ค. 2568 ที่ 112,366 คัน เพิ่มขึ้น 1.6%MoM แต่ลดลง 6.1%YoY กดดันจากกฎระเบียบประเทศคู่ค้าที่เข้มงวดขึ้นและการส่งออกที่ลดลง ส่วนการผลิตสำหรับในประเทศเพิ่มขึ้น 4.1%YoY หนุนจากการผลิต EV เพื่อชดเชยโควตา และการขายในประเทศที่เติบโตต่อเนื่องที่ 9,246 คัน ขยายตัว 26.6%YoY


4. OECD ปรับเพิ่มคาดการณ์เติบโต ศก. โลกปี 2568 ขึ้นสู่ 3.2% จาก 2.9% เมื่อ มิ.ย. 2568 หนุนจากการเร่งผลิตและส่งออกก่อนมาตรการภาษีศุลกากรสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้ โดยปรับคาดการณ์ ศก. สหรัฐฯ, จีน และญี่ปุ่น ขึ้นเป็น 1.8% (+2pp), 4.9% (+2pp) และ 1.1% (+4pp) ตามลำดับ และเตือนถึงความเสี่ยงหลังจากนี้ที่การผลิต-ส่งออกได้เร่งตัวไปแล้ว ขณะที่การเก็บภาษีได้เริ่มบังคับใช้


5. วานนี้ (23 ก.ย.) ฮ่องกงยกระดับการเตือนภัยไต้ฝุ่น “รากาซา” ที่มีความรุนแรงมากที่สุดในรอบหลายปี งดเที่ยวบินในสนามบินฮ่องกงกว่า 700 เที่ยวถึงวันที่ 25 ก.ย. นี้ ส่วนทางการจีนได้ยกระดับการเตือนภัยสู่ระดับ 3 จากทั้งหมด 4 ระดับ ในมลฑณกวางตุ้งและไห่หนาน
 
กลยุทธ์การลงทุน :

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักฐานหรือแกว่งตัวในกรอบแคบ หลังขาดปัจจัยหนุนใหม่ ปัจจัยในประเทศยังอยู่ระหว่างรอติดตามแผนการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ซึ่งจะมีผลต่อการเรียกความเชื่อมั่นการลงทุนให้ฟื้นตัวและการไหลเข้าของ Fund Flow ในระยะถัดไป

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อาทิ PMI และ PCE ซึ่งหากออกมาแย่กว่าตลาดคาด จะมีผลต่อการพิจารณาตัดสินใจเร่งลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในระยะถัดไป อย่างไรก็ดีมอง SET เริ่มมี Upside จำกัดและอาจชะลอการขึ้นสั้นบ้าง

หลังดัชนีปรับขึ้น 19% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา แต่ Downside ยังจำกัดเช่นกัน หลังเริ่มเห็น Fund Flow ชะลอการขาย ประเมิน SET มีแนวต้านบริเวณ 1320 และมีแนวรับ 1280 ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”
 
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :

ช่วงสั้นมอง SET จะพักฐานหลังตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่ ในประเทศติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลและมาตรการกระตุ้น ศก. ส่วนต่างประเทศติดตามตัวเลข ศก. สำคัญของสหรัฐฯ กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 2 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้...

1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาด 2H68 ผลการดำเนินงานจะยังเติบโตดีทั้ง HoH และ YoY แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและจากปัจจัยบวกที่มีเฉพาะตัว ได้แก่ ADVANC BCPG GULF SCC


2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET100 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ PTT TTB

Trading Idea :

สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ...

1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากสถานการณ์น้ำท่วมในไทย แนะนำ TASCO BJC HMPRO GLOBAL เนื่องจากจากสถิติระหว่างปี 2558-2567 (ยกเว้นปี 2563 ที่เกิดวิกฤตโควิด-19) พบว่าราคาหุ้นจะปรับขึ้นได้ดีเมื่อซื้อลงทุนช่วงกลาง ก.ย. และไปขายต้น พ.ย. โดยคาดหวังได้ผลตอบแทนสูงสุดเฉลี่ยราว 2.6%  

2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภค ท่องเที่ยวและการลงทุน แนะนำ กลุ่มค้าปลีก (CPALL GLOBAL TNP) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG OSP HTC ICHI) กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL) กลุ่มนิคม (AMATA WHA) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (SCC)
 
Daily top picks :

PTT : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.90 บาท (XD 1 ต.ค.) คิดเป็น Div. Yield ใน 1H68 ราว 2.7% ขณะที่ 3Q68 คาดกำไรฟื้นตัวจากธุรกิจ P&R และ E&PPTT ดีขึ้น และมีแผนปลดล็อกเงินสด 1 แสนลบ. ผ่านการ Asset Monetization ใน 2H68 ถึงปี 2569 ประเมินราคาเป้าหมายระยะสั้น 33.75 บาท


BDMS : หุ้น Defensive ซึ่งราคาหุ้นยัง Laggard โดยยังถูกเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง BH ขณะที่ปี 2568 คาดกำไรปกติเติบโต 5%YoY และจะโตแข็งแกร่งขึ้นเป็น 9%YoY ในปี 2569 อีกทั้ง Valuation ยังถูก โดยซื้อขาย PER 2569F ที่ 18 เท่า (ต่ำกว่า -2SD ของค่าเฉลี่ยในอดีต) ช่วยจำกัด Downside ประเมินราคาเป้าหมายระยะสั้น 21 บาท

อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์


You might be intertested in this news.

Mostview

เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา

เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา (PART1)

อีนางคำดวง อาชีพ “นายฮ้อย” กับเรื่องจริงการค้าควาย สมัย ร.5

จากละคร สู่เรื่องจริง อาชีพ "นายฮ้อย" และการค้าขายควาย ในสมัย ร.5 สาเหตุที่เฟื่องฟู กับปัญหาการขโมยและปล้นควาย...

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(23ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากำไร

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(23ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากำไร

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(24ก.ย.68) ทยอยซื้อสะสม

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(24ก.ย.68) ทยอยซื้อสะสม

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(22ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากําไร

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(22ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากําไร

TrustNEws Line