แนวโน้มSETวันนี้(25ก.ย.68) ค่าเงินบาท ยังเป็นจุดวัดใจ
by Trust News, 25 กันยายน 2568
แนวโน้มSETวันนี้(25ก.ย.68) ค่าเงินบาท ยังเป็นจุดวัดใจ
คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์/ปรับตัวขึ้น นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ วันนี้นายกฯ และคณะไปพบสภาธุรกิจตลาดทุน ซึ่งเคยเสนอให้รัฐออกมาตรการจูงใจ เช่น ยกเว้นภาษีเงินปันผล หากถือหุ้นเกิน 1 ปี และลดหย่อนภาษีสำหรับการลงทุนตรงในตลาดหุ้น 5 แสนบาทโดยลงทุนอย่างน้อย 3 ปี
หากทำได้จะช่วยหนุนตลาด ทางเทคนิค ตลาดรีบาวด์ที่แนวรับ 1270/1267 ระยะสั้นต้องกลับไปยืนเหนือ 1283/1293 ได้จะกลับมาเป็นบวก การปรับตัวลงไม่ควรหลุดแนวรับอีก
ประเด็นสำคัญ :
1. Fitch ลดมุมมอง Credit Rating ของไทยลงเป็น “ลบ” จาก “คงที่” แต่คงอันดับไว้ที่ “BBB+” เนื่องจากมีความเสี่ยงด้านการคลังเพิ่มขึ้น ความไม่แน่นอนทางการเมือง และ ศก. ที่อ่อนแรง
ทั้งนี้จากสถิติในอดีตบริษัทจัดอันดับฯ มักรอ 1–2 ปีเพื่อประเมินและหากปัจจัยเสี่ยงผ่อนคลายก็จะคงอันดับหรือปรับอันดับเครดิตเป็นบวกลบต่อไป
ขณะที่ SET โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารและพลังงานมักจะถูกกดดันด้าน Sentiment ระยะสั้น แต่ไม่กระทบฟื้นฐานทันที ส่วนค่าเงินบาทมักอ่อนค่าชั่วคราว
2. มูลค่าการส่งออกไทยใน ส.ค. 2568 ขยายตัว 5.8%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้และชะลอตัวจากเดือนก่อน ประเมินว่าเริ่มได้รับผลกระทบจากการเร่งส่งออกในช่วงก่อนเพื่อเลี่ยงนโยบายภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ทำให้ช่วง 8M68 ขยายตัว 13.3%YoY ส่วนการนำเข้าใน ส.ค. 2568 ขยายตัว 15.8% เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนที่ 5.1%YoY
3. ที่ประชุม ครม. นัดพิเศษได้สรุปร่างแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เดินหน้านโยบายเร่งด่วน 4 ด้าน เศรษฐกิจ, ความมั่นคง, ภัยธรรมชาติ และภัยสังคม ชูมาตรการคนละครึ่งเร่งฟื้นเศรษฐกิจ และลดค่าครองชีพ เช่น ค่าเดินทาง ค่าไฟฟ้า พร้อมย้ำกำหนดยุบสภาช่วงปลาย ม.ค. 2569 และคาดจะมีการเลือกตั้งทั่วไปช่วง มี.ค. - เม.ย. 2569
4. รฟม. สั่งผู้รับจ้างงานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้สัญญาที่ 1 มูลค่า 1.94 หมื่นลบ. เร่งถมดินปิดปากอุโมงค์บริเวณถนนสามเสน-รพ. วชิรพยาบาล เพื่อเพิ่มเสถียรภาพของดินโดยรอบ ก่อนเข้าดำเนินการก่อสร้างต่อไป ด้าน CK-STECON เผยกำลังอยู่ระหว่างประเมินความเสียหายและมีประกันภัยรองรับ
5. จีนประกาศในการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติจะหยุดรับสิทธิพิเศษในฐานะประเทศกำลังพัฒนาจากทั้งข้อตกลงปัจจุบันและข้อตกลงใหม่ของ WTO คาดจะลดความขัดแย้งกับกับสหรัฐฯ ในการเจรจาการค้า
กลยุทธ์การลงทุน :
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักฐานหรือแกว่งตัวในกรอบแคบ หลังขาดปัจจัยหนุนใหม่ ปัจจัยในประเทศยังอยู่ระหว่างรอติดตามแผนการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ซึ่งจะมีผลต่อการเรียกความเชื่อมั่นการลงทุนให้ฟื้นตัวและการไหลเข้าของ Fund Flow ในระยะถัดไป
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อาทิ PMI และ PCE ซึ่งหากออกมาแย่กว่าตลาดคาด จะมีผลต่อการพิจารณาตัดสินใจเร่งลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในระยะถัดไป
อย่างไรก็ดีมอง SET เริ่มมี Upside จำกัดและอาจชะลอการขึ้นสั้นบ้าง หลังดัชนีปรับขึ้น 19% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา แต่ Downside ยังจำกัดเช่นกัน หลังเริ่มเห็น Fund Flow ชะลอการขาย ประเมิน SET มีแนวต้านบริเวณ 1320 และมีแนวรับ 1270 ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :
ช่วงสั้นมอง SET จะพักฐานหลังตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่ ในประเทศติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลและมาตรการกระตุ้น ศก. ส่วนต่างประเทศติดตามตัวเลข ศก. สำคัญของสหรัฐฯ กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 2 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้...
1. หุ้น Earning Play ซึ่งคาด 2H68 ผลการดำเนินงานจะยังเติบโตดีทั้ง HoH และ YoY แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและจากปัจจัยบวกที่มีเฉพาะตัว ได้แก่ ADVANC BCPG GULF SCC
2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET100 ที่มี SETESG Rating A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Yield เกิน 2% แนะนำ PTT TTB
Trading Idea : สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ...
1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากสถานการณ์น้ำท่วมในไทย แนะนำ TASCO BJC HMPRO GLOBAL เนื่องจากจากสถิติระหว่างปี 2558-2567 (ยกเว้นปี 2563 ที่เกิดวิกฤตโควิด-19) พบว่าราคาหุ้นจะปรับขึ้นได้ดีเมื่อซื้อลงทุนช่วงกลาง ก.ย. และไปขายต้น พ.ย. โดยคาดหวังได้ผลตอบแทนสูงสุดเฉลี่ยราว 2.6%
2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภค ท่องเที่ยวและการลงทุน แนะนำ กลุ่มค้าปลีก (CPALL GLOBAL TNP) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG OSP HTC ICHI) กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL) กลุ่มนิคม (AMATA WHA) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (SCC)
Daily top picks :
HMPRO : มีปัจจัยกระตุ้นจากอานิสงส์การออกมาตรการกระตุ้นการบริโภคของรัฐบาลใหม่ และความต้องการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหลังสถานการณ์น้ำท่วม ใน 3Q68 คาดแนวโน้ม SSS หดตัวในอัตราที่ช้าลง ประเมินกำไรเติบโต 10%YoY ในปี 2569 จากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมและมาร์จิ้นที่ดีขึ้น ราคาเป้าหมายระยะสั้น 7.70 บาท
WHA : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากแนวโน้มกำไรปี 2568 ที่คาดว่าจะเติบโตแข็งแกร่ง ทำสถิติใหม่ที่ 4.8 พันล้านบาท +11.8%YoY โดยมีหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) ในมือรวม 1,464 ไร่ รองรับเป้าหมายการขายที่ดินปีนี้และคาดว่าจะมีการโอนที่แข็งแรงใน 4Q68 ด้วยมาร์จิ้นขั้นต้นที่ดี ราคาเป้าหมายระยะสั้น 3.70 บาท
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์
You might be intertested in this news.
Mostview
เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา
เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา (PART1)
อีนางคำดวง อาชีพ “นายฮ้อย” กับเรื่องจริงการค้าควาย สมัย ร.5
จากละคร สู่เรื่องจริง อาชีพ "นายฮ้อย" และการค้าขายควาย ในสมัย ร.5 สาเหตุที่เฟื่องฟู กับปัญหาการขโมยและปล้นควาย...
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(23ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากำไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(23ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากำไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(24ก.ย.68) ทยอยซื้อสะสม
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(24ก.ย.68) ทยอยซื้อสะสม
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(22ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากําไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(22ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากําไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
