วันจันทร์, ตุลาคม 6, 2568

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (6ต.ค.68) ทองยังอยู่ในช่วงขาขึ้น

by Trust News, 6 ตุลาคม 2568

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (6ต.ค.68) ทองยังอยู่ในช่วงขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองขาขึ้น ทองปรับตัวขึ้น +$30 ขานรับ PMI แผ่ว + สหรัฐฯยังชัตดาวน์ แต่แบงก์ GS คาดสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง

Gold spot : 


สูงสุด – 3,891 ดอลลาร์สหรัฐ
ต่ำสุด – 3,838 ดอลลาร์สหรัฐ

ราคาทองคำแท่ง :


สูงสุด – 59,450 บาท
ต่ำสุด – 58,450 บาท

ภาพการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา :

ทองโลกได้มีการปรับตัวขึ้น จากการที่เมื่อวันศุกร์ ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ทรงตัวในกรอบ 97.85-97.71 หน่วย สืบเนื่องมาจากสหรัฐฯ เผยดัชนี PMI ภาคการบริการ หดตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และมากกว่าครั้งก่อน ในขณะที่วุฒิสภาสหรัฐเตรียมลงมติต่อร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวครั้งใหม่เมื่อวันศุกร์

โดยหลายฝ่ายยังคงคาดว่าวุฒิสภาสหรัฐจะไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าว เนื่องจากยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างพรรคเดโมแครต – รีพับลิกัน หลังจากที่แต่ละฝ่ายต่างกล่าวโทษซึ่งกันและกันว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการชัตดาวน์

อย่างไรก็ตาม นายเดวิด โซโลมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ CEO ของ Goldman Sachs (GS) ได้กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเร่งตัวขึ้นไปจนถึงปี 2569 เนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐและการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ซึ่งหากมองโดยรวมแล้วเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในสภาพที่ดี แม้จะได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีและตลาดแรงงานที่ชะลอตัวในสหรัฐฯ ก็ตามที

ในขณะที่บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ได้ปรับตัวขึ้นในวันเดียวกัน สู่ระดับ 4.12% จากเดิมที่ 4.08%

ทางด้านกองทุน SPDR ขายทองคำ 0.86 ตัน รวมสุทธิ 1,014.88 ตัน

วิเคราะห์ราคาทอง :

ทองโลกกลับมาอยู่ในระยะขาขึ้นอีกครั้ง แต่ในระยะสั้นมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 3,920-3,930 ดอลลาร์สหรัฐ และมีการปรับตัวลงในภายหลัง จึงประเมินว่า ทองโลกอาจต่อตัวลงระยะสั้นทดสอบแนวรับที่ 3,870 ดอลลาร์สหรัฐ แต่หากทองโลกหลุดแนวรับถัดไปที่ 3,860 ดอลลาร์สหรัฐ ทองโลกอาจเข้าสู่ระยะขาลง

ราคาทองคำโลก :

แนวรับ : 3,870 และ 3,860 ดอลลาร์สหรัฐ


แนวต้าน : 3,920 และ 3,930 ดอลลาร์สหรัฐ

ทองโลกอยู่ในระยะขาขึ้น แต่ระยะสั้นยังไม่แนะนำซื้อ จึงแนะนำใช้กลยุทธ์ย่อเก็บสะสมจากแนวรับที่ระดับ 3,870 ดอลลาร์สหรัฐ และขายทำกำไรหากราคาขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 3,920 ดอลลาร์สหรัฐ แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 3,860 ดอลลาร์สหรัฐ แนะนำขายตัดขาดทุน

ราคาทองคำแท่ง 96.5% :

แนวรับ : 59,500 และ 59,400 บาท


แนวต้าน : 60,000 และ 60,100 บาท

ราคาทองในประเทศอยู่ในระยะขาขึ้นตามทองโลก ในขณะที่ค่าเงินบาท Sideway จึงแนะนำเข้าซื้อสะสมแนวรับที่ระดับ 59,500 บาท และขายทำกำไรหากราคาทดสอบแนวต้านที่ 60,000 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 59,400 บาท แนะนำขายตัดขาดทุน

ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 6-10 ต.ค. 68 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำ

13 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 6 ราย หรือเทียบเป็น 46% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น

ส่วนจำนวน 2 ราย หรือเทียบเป็น 15% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และจำนวน 5 ราย หรือเทียบเป็น 39% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 351 ราย ในจำนวนนี้มี 250 ราย หรือเทียบเป็น 71% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น

ส่วนจำนวน 56 ราย หรือเทียบเป็น 16% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 45 ราย หรือเทียบเป็น 13% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

สถานการณ์ราคาทองคำ : 

ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศ สมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 57,700 – 59,550 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 59,450 บาท ต่อบาททองคำ เพิ่มขึ้น  2,050 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 57,400 บาท) 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม : 

1. ความคืบหน้าการผ่านร่างงบประมาณของสหรัฐฯ ตลาดจับตาการดำเนินงานของสภาคองเกรสในการอนุมัติร่างงบประมาณชั่วคราว เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ “ชัตดาวน์” ของหน่วยงานรัฐบาลกลาง ซึ่งหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ภายในกำหนด จะสร้างแรงกดดันต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและค่าเงินดอลลาร์ฯ อย่างมีนัยสำคัญ

2. การประชุมโอเปกพลัส (OPEC+)  มีรายงานว่ากลุ่มโอเปกพลัสอาจพิจารณาปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันราว 137,000 บาร์เรลต่อวัน สำหรับเดือน พฤศจิกายน 2568 ซึ่งหากมีมติให้เพิ่มจริง อาจส่งผลต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก

3. การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (กนง.) คาดว่าจะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังสัญญาณการชะลอตัวชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งตลาดประเมินว่า กนง. อาจลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีกครั้งในเดือน ธันวาคม 2568 หากเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวตามคาด

4. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ บันทึกการประชุม FED เมื่อวันที่ 16-17 กันยายน 2568 รวมถึงถ้อยแถลงของประธาน FED และเจ้าหน้าที่ FED นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจอื่นของสหรัฐฯ ที่ไม่ถูกเลื่อนจากผลของ Government Shutdown ได้แก่ ตัวเลขการคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภครวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นและมุมมองต่อเงินเฟ้อของผู้บริโภค (เบื้องต้น) สำหรับเดือน กันยายน 2568

หมายเหตุ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

อ้างอิง : สมาคมค้าทองคำ , บทวิเคราะห์ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง


You might be intertested in this news.

Mostview

ลงมือทำย่อมดีกว่าเอาแต่พูด! จุดกำเนิดความสำเร็จ Walkman (ชมคลิป)

ลงมือทำย่อมดีกว่าเอาแต่พูด! จุดกำเนิดความสำเร็จ Walkman (ชมคลิป)

เคล็ดลับความสำเร็จกัปตันซึบาสะ ความคิดของคนเลือกอยู่หัวแถว

เคล็ดลับความสำเร็จกัปตันซึบาสะ ความคิดของคนเลือกอยู่หัวแถว ตอนที่ 1

แผนฟื้นฟู Back to Starbucks เพราะจิตวิญญาณคือกาแฟ (ชมคลิป)

แผนฟื้นฟู Back to Starbucks เพราะจิตวิญญาณคือกาแฟ (ชมคลิป)

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(1ต.ค.68) เก็งกําไรระยะสั้น

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(1ต.ค.68) เก็งกําไรระยะสั้น

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(30ก.ย.68) เก็งกําไรระยะสั้น

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(30ก.ย.68) เก็งกําไรระยะสั้น

TrustNEws Line