วันศุกร์, ธันวาคม 19, 2568

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (6ต.ค.68) ทองยังอยู่ในช่วงขาขึ้น

by Trust News, 6 ตุลาคม 2568

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (6ต.ค.68) ทองยังอยู่ในช่วงขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองขาขึ้น ทองปรับตัวขึ้น +$30 ขานรับ PMI แผ่ว + สหรัฐฯยังชัตดาวน์ แต่แบงก์ GS คาดสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง

Gold spot : 


สูงสุด – 3,891 ดอลลาร์สหรัฐ
ต่ำสุด – 3,838 ดอลลาร์สหรัฐ

ราคาทองคำแท่ง :


สูงสุด – 59,450 บาท
ต่ำสุด – 58,450 บาท

ภาพการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา :

ทองโลกได้มีการปรับตัวขึ้น จากการที่เมื่อวันศุกร์ ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ทรงตัวในกรอบ 97.85-97.71 หน่วย สืบเนื่องมาจากสหรัฐฯ เผยดัชนี PMI ภาคการบริการ หดตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และมากกว่าครั้งก่อน ในขณะที่วุฒิสภาสหรัฐเตรียมลงมติต่อร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวครั้งใหม่เมื่อวันศุกร์

โดยหลายฝ่ายยังคงคาดว่าวุฒิสภาสหรัฐจะไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าว เนื่องจากยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างพรรคเดโมแครต – รีพับลิกัน หลังจากที่แต่ละฝ่ายต่างกล่าวโทษซึ่งกันและกันว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการชัตดาวน์

อย่างไรก็ตาม นายเดวิด โซโลมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ CEO ของ Goldman Sachs (GS) ได้กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเร่งตัวขึ้นไปจนถึงปี 2569 เนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐและการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ซึ่งหากมองโดยรวมแล้วเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในสภาพที่ดี แม้จะได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีและตลาดแรงงานที่ชะลอตัวในสหรัฐฯ ก็ตามที

ในขณะที่บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ได้ปรับตัวขึ้นในวันเดียวกัน สู่ระดับ 4.12% จากเดิมที่ 4.08%

ทางด้านกองทุน SPDR ขายทองคำ 0.86 ตัน รวมสุทธิ 1,014.88 ตัน

วิเคราะห์ราคาทอง :

ทองโลกกลับมาอยู่ในระยะขาขึ้นอีกครั้ง แต่ในระยะสั้นมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 3,920-3,930 ดอลลาร์สหรัฐ และมีการปรับตัวลงในภายหลัง จึงประเมินว่า ทองโลกอาจต่อตัวลงระยะสั้นทดสอบแนวรับที่ 3,870 ดอลลาร์สหรัฐ แต่หากทองโลกหลุดแนวรับถัดไปที่ 3,860 ดอลลาร์สหรัฐ ทองโลกอาจเข้าสู่ระยะขาลง

ราคาทองคำโลก :

แนวรับ : 3,870 และ 3,860 ดอลลาร์สหรัฐ


แนวต้าน : 3,920 และ 3,930 ดอลลาร์สหรัฐ

ทองโลกอยู่ในระยะขาขึ้น แต่ระยะสั้นยังไม่แนะนำซื้อ จึงแนะนำใช้กลยุทธ์ย่อเก็บสะสมจากแนวรับที่ระดับ 3,870 ดอลลาร์สหรัฐ และขายทำกำไรหากราคาขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 3,920 ดอลลาร์สหรัฐ แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 3,860 ดอลลาร์สหรัฐ แนะนำขายตัดขาดทุน

ราคาทองคำแท่ง 96.5% :

แนวรับ : 59,500 และ 59,400 บาท


แนวต้าน : 60,000 และ 60,100 บาท

ราคาทองในประเทศอยู่ในระยะขาขึ้นตามทองโลก ในขณะที่ค่าเงินบาท Sideway จึงแนะนำเข้าซื้อสะสมแนวรับที่ระดับ 59,500 บาท และขายทำกำไรหากราคาทดสอบแนวต้านที่ 60,000 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 59,400 บาท แนะนำขายตัดขาดทุน

ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 6-10 ต.ค. 68 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำ

13 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 6 ราย หรือเทียบเป็น 46% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น

ส่วนจำนวน 2 ราย หรือเทียบเป็น 15% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และจำนวน 5 ราย หรือเทียบเป็น 39% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 351 ราย ในจำนวนนี้มี 250 ราย หรือเทียบเป็น 71% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น

ส่วนจำนวน 56 ราย หรือเทียบเป็น 16% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 45 ราย หรือเทียบเป็น 13% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

สถานการณ์ราคาทองคำ : 

ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศ สมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 57,700 – 59,550 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 59,450 บาท ต่อบาททองคำ เพิ่มขึ้น  2,050 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 57,400 บาท) 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม : 

1. ความคืบหน้าการผ่านร่างงบประมาณของสหรัฐฯ ตลาดจับตาการดำเนินงานของสภาคองเกรสในการอนุมัติร่างงบประมาณชั่วคราว เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ “ชัตดาวน์” ของหน่วยงานรัฐบาลกลาง ซึ่งหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ภายในกำหนด จะสร้างแรงกดดันต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและค่าเงินดอลลาร์ฯ อย่างมีนัยสำคัญ

2. การประชุมโอเปกพลัส (OPEC+)  มีรายงานว่ากลุ่มโอเปกพลัสอาจพิจารณาปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันราว 137,000 บาร์เรลต่อวัน สำหรับเดือน พฤศจิกายน 2568 ซึ่งหากมีมติให้เพิ่มจริง อาจส่งผลต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก

3. การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (กนง.) คาดว่าจะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังสัญญาณการชะลอตัวชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งตลาดประเมินว่า กนง. อาจลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีกครั้งในเดือน ธันวาคม 2568 หากเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวตามคาด

4. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ บันทึกการประชุม FED เมื่อวันที่ 16-17 กันยายน 2568 รวมถึงถ้อยแถลงของประธาน FED และเจ้าหน้าที่ FED นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจอื่นของสหรัฐฯ ที่ไม่ถูกเลื่อนจากผลของ Government Shutdown ได้แก่ ตัวเลขการคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภครวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นและมุมมองต่อเงินเฟ้อของผู้บริโภค (เบื้องต้น) สำหรับเดือน กันยายน 2568

หมายเหตุ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

อ้างอิง : สมาคมค้าทองคำ , บทวิเคราะห์ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง


You might be intertested in this news.

Mostview

ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น

ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ

6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)

6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)

TrustNEws Line