วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 9, 2568

แนวโน้มSETวันนี้(7ต.ค.68) ติดตามการแก้ปัญหาค่าเงินบาท

by Trust News, 7 ตุลาคม 2568

แนวโน้มSETวันนี้(7ต.ค.68) ติดตามการแก้ปัญหาค่าเงินบาท

คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์/พักตัว การแถลงมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดทุนไทยยังไม่ได้ช่วยหนุนตลาดได้นัก ส่วนการประชุม ครม. วันนี้จะมีการเสนอโครงการคนละครึ่งพลัสที่จะช่วยกระตุ้นการบริโภค ติดตามมาตรการแก้ปัญหาค่าเงินบาทว่าจะส่งผลกระทบให้ค่าเงินบาทกลับไปอ่อนค่าและมีผลกระทบทางอ้อมต่อตลาดหุ้นเพียงใด

ทางเทคนิคตลาดไม่ผ่าน 1300 ที่ให้ไว้ กลับมาอ่อนตัวลงหลุดต่ำกว่า 1287 ทำให้มีโอกาสพักตัวมีแนวรับถัดไปที่ 1280/1272 ที่จะทำให้ชะลอการลง

ประเด็นสำคัญ :

1. รมว. คลังเตรียมเสนอ “คนละครึ่งพลัส” เข้าที่ประชุม ครม. ในวันนี้ เพื่อให้เห็นชอบหลักการและอนุมัติงบฯ 4.4 หมื่นลบ. คาดว่าจะเปิดให้ร้านค้าเริ่มลงทะเบียนได้ในวันที่ 15 ต.ค. ประชาชนเริ่มในวันที่ 20 ต.ค. และเริ่มใช้จ่ายได้ระหว่างวันที่ 29 ต.ค. ถึงสิ้นเดือน ธ.ค. 2568 ด้าน สศค. คาดโครงการจะหนุน GDP ได้ราว 0.3-0.4%


2. กระทรวงพาณิชย์เผย CPI ใน ก.ย. 2568 ลดลง 0.72%YoY ลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ กดดันจากหมวดพลังงานตามราคาในตลาดโลกและนโยบายลดราคาพลังงานของรัฐบาล และอาหารสด ทำให้ CPI ช่วง 9M68 หดตัว 0.01%YoY ส่วน CPI พื้นฐานขยายตัว 0.65%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดและชะลอตัวลงจากเดือนก่อน


3. รมว. คลังเตรียมเสนอที่ประชุม ครม. เศรษฐกิจซึ่งจะมีการตั้งขึ้นในการประชุม ครม. วันนี้ เพื่อจัดตั้ง คกก. สืบสาเหตุที่ทำให้เงินบาทปั่นป่วน หลังพบค่าความคลาดเคลื่อนสุทธิ (NEO) ในบัญชีดุลการชำระเงิน (BOP) สูงขึ้นผิดปกติ และจะร่วมมือกับหลายภาคส่วน เช่น ปปง., ก.ล.ต. เป็นต้น


4. สศค. ร่วมกับ ก.ล.ต., ตลท. และ FETCO แถลงชุดมาตรการ “สร้างเสน่ห์ตลาดทุนไทย” เพื่อฟื้นความเชื่อมั่น นลท., ยกระดับคุณภาพ บจ. และขยายฐาน นลท. ในประเทศ ผ่าน 4 แนวทาง – Quality Demand, Attractive Supply, Trusted Market และ Supportive Ecosystem คาดว่าเป็นนโยบายที่จะช่วยหนุนตลาดในระยะกลาง-ยาว แต่ยังไม่ได้ส่งผลในระยะสั้นเท่าใดนัก


5. AMD บรรลุข้อตกลงกับ OpenAI ในการส่งมอบชิป AI ระยะยาว มูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ และเสนอ Warrant แก่ Sam Altman ให้สิทธิ์การแปลงสภาพเป็นการถือครองหุ้นราว 160 ล้านหุ้นหรือสัดส่วน 10% ซึ่งหนุนราคาหุ้น AMD.US ปรับขึ้นสูงสุดถึง 38% คาดจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กฯ ในวันนี้


กลยุทธ์การลงทุน :

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักฐานหรือไซด์เวย์ในกรอบแคบ เนื่องจากขาดปัจจัยหนุนใหม่มากระตุ้นบรรยากาศลงทุน ปัจจัยในประเทศติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ ก.ย. ซึ่งหากยังติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 อาจหนุนให้ตลาดคาดหวังการลดดอกเบี้ยนโยบาย อย่างไรก็ดีเราคาด กนง. จะมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ในการประชุมวันที่ 8 ต.ค. นี้ก่อน

แต่มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้งในวันที่ 17 ธ.ค. นี้แทน ส่วนปัจจัยต่างประเทศติดตาม FOMC Minutes เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ขณะที่การชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ คาดไม่มีผลกระทบต่อการลงทุน

โดยในอดีตการชัตดาวน์ยาวนานที่สุดเกิดขึ้นในปี 2018-2019 ใช้ระยะเวลา 35 วัน ซึ่งทั้ง S&P500 และ SET ให้ผลตอบแทนเป็นบวก สะท้อนว่าตลาดไม่ได้ให้น้ำหนักต่อประเด็นนี้ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”
 
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักฐาน เนื่องขาดปัจจัยหนุนใหม่ ติดตามเงินเฟ้อไทย, การประชุม กนง. และทิศทางดอกเบี้ยจากรายงานการประชุม FOMC กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 2 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้...

1. หุ้น Earnings Play คาดผลการดำเนินงาน 3Q68 จะยังเติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY และเราแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดีและราคาหุ้นยังมี Upside ได้แก่ ADVANC BCP KTB LHSC OR PTT TRUE

2. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้ง และปีหน้า 2 ครั้ง อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC TIDLOR


Trading Idea : 

สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ...

1) หุ้นที่เคยได้ประโยชน์จากเกิดโครงการคนละครึ่งในอดีต ซึ่งมียอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น แนะนำ CPAXT (มีฐานลูกค้าโชห่วยและร้านอาหาร), TNP (เป็นร้านธงฟ้า), BJC, CPALL, CBG, OSP, HTC, ICHI, SAPPE

2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆและเราแนะนำ Outperform แนะนำ ค้าปลีก (CPALL  BJC TNP GLOBAL) ท่องเที่ยว (CENTEL ERW) ไฟแนนซ์ (MTC TIDLOR) นิคม (WHA AMATA) และโรงไฟฟ้า (GULF BGRIM BCPG CKP)
 
Daily top picks :

PTTEP :  ปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากแนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่ 3Q68 คาดกำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นจากการปิดซอมบำรุงน้อยลงและสินทรัพย์ที่ซื้อมาใหม่ในอ่าวไทยช่วยชดเชย ASP ที่ลดลงได้บางส่วน ส่วน Valuation ไม่แพง เทรด PBV  69F ที่ 0.8 เท่า ราคาเป้าหมายระยะสั้นที่ 116 บาท

CPAXT :  เป็นหุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากข่าว รมว. คลังเตรียมเสนอคนละครึ่งพลัสเข้าที่ประชุม ครม. ในวันนี้ ขณะที่ 3Q68 คาดกำไรจะดีขึ้น YoY จากอัตรากำไรขั้นต้นที่กว้างขึ้น หลังมีสัดส่วนยอดขายสินค้ามาร์จิ้นสูงที่เพิ่มขึ้นและคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น หนุนให้ปี 2568 คาดกำไรปกติยังเติบโต 5%YoY ราคาเป้าหมายระยะสั้นที่ 23.40 บาท

อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์


You might be intertested in this news.

Mostview

เคล็ดลับความสำเร็จกัปตันซึบาสะ ความคิดของคนเลือกอยู่หัวแถว

เคล็ดลับความสำเร็จกัปตันซึบาสะ ความคิดของคนเลือกอยู่หัวแถว ตอนที่ 1

แนวโน้มราคาทองวันนี้(8ต.ค.68) ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองวันนี้(8ต.ค.68) ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น

8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (2ต.ค.2025)

8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (2ต.ค.2025)

8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (3ต.ค.2025)


8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (3ต.ค.2025)


7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (8ต.ค.2025)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (8ต.ค.2025)

TrustNEws Line