วันพุธ, ตุลาคม 8, 2568

แนวโน้มSETวันนี้(8ต.ค.68) รอการประชุม กนง.

by Trust News, 8 ตุลาคม 2568

แนวโน้มSETวันนี้(8ต.ค.68) รอการประชุม กนง. 

คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์ ตลาดมายืนเหนือ 1300 แรงซื้อหลักมาจาก DELTA หนุนตลาด 10 จุด หนุนจิตวิทยาก่อนทราบผลประชุม กนง. วันนี้

ตลาดส่วนหนึ่งคาดว่า กนง. จะลดดอกเบี้ย แต่เบื้องต้นคาดว่า การปรับลดมีแนวโน้มเกิดขึ้นใน ธ.ค. มากกว่า หากออกมาตามที่เราคาดไว้อาจทำให้ตลาดมีช่วงผันผวนได้

ทางเทคนิคตลาดกลับมายืนเหนือ 1300 ได้ ทำให้จิตวิทยาเป็นบวกอีกครั้ง มีแนวต้านถัดไปที่ 1313/1320 ที่จะทำให้ชะลอตัว ส่วนแนวรับหากยังบวกแกว่งไม่ควรลงหลุด 1300/1290  

ประเด็นสำคัญ :

1. ครม. อนุมัติงบฯ 4.4 หมื่นลบ. สำหรับ “คนละครึ่งพลัส” ซึ่งมีการลดอายุเข้าร่วมโครงการขั้นต่ำเหลือ 16 ปี, เพิ่มวงเงินสำหรับผู้ยื่นภาษีเงินได้ และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าร่วมโครงการ และกำหนดกรอบเวลาชัดเจน เริ่มลงทะเบียน 20-26 ต.ค. และเริ่มใช้จ่าย 29 ต.ค. ถึงสิ้นปี 2568

มองเป็น  Sentiment บวกต่อ CPAXT และ BJC ซึ่งมีฐานลูกค้าโชห่วยและร้านอาหาร และ TNP ซึ่งเป็นร้านธงฟ้า


2. กกพ. จะเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างหลักเกณฑ์โครงการนำร่องการซื้อขายไฟฟ้าหมุนเวียน Direct PPA สำหรับ Data Center จำนวน 2,000MW ซึ่งจะสามารถกำหนดราคาซื้อขายเองได้ มองเป็นบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า GULF, BGRIM และ GPSC และกลุ่มนิคม WHA AMATA


3. นทท. ต่างชาติในสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้น 16%WoW และมีช่วงลบ YoY แคบลงต่อเนื่อง เป็นสัญญาณฟื้นตัว หนุนจาก นทท. จีนที่เพิ่มขึ้น 67%WoW ในช่วง Golden Week และกลุ่มอื่นๆ เพิ่มขึ้น 7%WoW ส่วนจำนวน นทท. ต่างชาติสะสมทั้งปี 2568 ที่ 24,574,177 คน ลดลง 7.5%YoY


4. รมว. คลังเตรียม 3 มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ผ่านสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสำหรับการท่องเที่ยวในเมืองรอง, เร่งรัดภาครัฐเบิกจ่ายงบอบรม-สัมมนาราว 1 หมื่นลบ. เข้าสู่ระบบ ศก. และสิทธิ์ลดหย่อนภาษี 1.5-2 เท่าสำหรับการซ่อมแซมที่พักของผู้ประกอบการ มองเป็นบวกต่อกลุ่มโรงแรม ERW และ CENTEL


5. WorldBank เพิ่มคาดการณ์ GDP ไทยปี 2568 ขึ้นเป็น 2.0% จาก 1.6% แต่คาดชะลอเหลือ 1.8% ในปี 2569 จากความไม่แน่นอนด้านการเมืองและแรงหนุน ศก. ที่อ่อนแรง รายได้ต่อหัวของไทยที่ฟื้นตัวช้ากว่าภูมิภาค


6. FTSE Russell ประกาศยกระดับตลาดหุ้นเวียดนาม เป็น Emerging Market จาก Frontier Market มีผลวันที่ 21 ก.ย. 2569 ทั้งนี้จะมีการทบทวนระหว่างกาลใน มี.ค. 2569


กลยุทธ์การลงทุน :

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักฐานหรือไซด์เวย์ในกรอบแคบ เนื่องจากขาดปัจจัยหนุนใหม่มากระตุ้นบรรยากาศลงทุน ปัจจัยในประเทศติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ ก.ย. ติดลบมากกว่าที่ตลาดคาดและติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่หก อาจหนุนให้ตลาดคาดหวังการลดดอกเบี้ยนโยบาย

อย่างไรก็ดีเราคาด กนง. จะมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ในการประชุมวันที่ 8 ต.ค. นี้ก่อน แต่มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้งในวันที่ 17 ธ.ค. นี้แทน ส่วนปัจจัยต่างประเทศติดตาม FOMC Minutes เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

ขณะที่การชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ คาดไม่มีผลกระทบต่อการลงทุน โดยในอดีตการชัตดาวน์ยาวนานที่สุดเกิดขึ้นในปี 2018-2019 ใช้ระยะเวลา 35 วัน ซึ่งทั้ง S&P500 และ SET ให้ผลตอบแทนเป็นบวก สะท้อนว่าตลาดไม่ได้ให้น้ำหนักต่อประเด็นนี้ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”
 
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักฐาน เนื่องขาดปัจจัยหนุนใหม่ ติดตามการประชุม กนง. และทิศทางดอกเบี้ยจากรายงานการประชุม FOMC กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 2 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้...

1. หุ้น Earnings Play คาดผลการดำเนินงาน 3Q68 จะยังเติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY และเราแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดีและราคาหุ้นยังมี Upside ได้แก่ ADVANC BCP KTB LHSC OR PTT TRUE


2. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้ง และปีหน้า 2 ครั้ง อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC TIDLOR


Trading Idea : 

สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ...

1) หุ้นที่เคยได้ประโยชน์จากเกิดโครงการคนละครึ่งในอดีต ซึ่งมียอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น แนะนำ CPAXT (มีฐานลูกค้าโชห่วยและร้านอาหาร), TNP (เป็นร้านธงฟ้า), BJC, CPALL, CBG, OSP, HTC, ICHI, SAPPE

2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆและเราแนะนำ Outperform แนะนำ ค้าปลีก (CPALL  BJC TNP GLOBAL) ท่องเที่ยว (CENTEL ERW) ไฟแนนซ์ (MTC TIDLOR) นิคม (WHA AMATA) และโรงไฟฟ้า (GULF BGRIM BCPG CKP)
 
Daily top picks :

CPALL : คาดได้อานิสงส์รัฐเร่งดำเนินนโยบายสร้างรายได้และลดค่าครองชีพซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อ 2H68 คาดกําไรจะโตเด่นกว่ากลุ่ม หนุนจาก SSS ที่แข็งแกร่งและอัตรากำไรขั้นต้นที่กว้างขึ้น ส่วนแบ่งกำไรที่เป็นบวกจาก CPAXTด้าน Valuation น่าสนใจ เทรด PER 2568F ที่ 14 เท่า ต่ำสุดในกลุ่ม ราคาเป้าหมายระยะสั้น 49.50 บาท

ERW :  คาดได้อานิสงค์จากมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับการท่องเที่ยวเมืองรองและสิทธิ์ลดหย่อนภาษี 1.5-2 เท่าสำหรับการซ่อมแซมที่พัก ราคาหุ้นลงสะท้อนความเสี่ยงการต่อสัญญาเช่าเอราวัณกรุงเทพฯ ระดับหนึ่งแล้ว ประเมิน 2H68 ผลการดำเนินงานฟื้นตัว บริษัทตั้งเป้า HOP INN เติบโตสูง เป้าหมายระยะสั้น 2.90 บาท   

อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์


You might be intertested in this news.

Mostview

เคล็ดลับความสำเร็จกัปตันซึบาสะ ความคิดของคนเลือกอยู่หัวแถว

เคล็ดลับความสำเร็จกัปตันซึบาสะ ความคิดของคนเลือกอยู่หัวแถว ตอนที่ 1

แนวโน้มราคาทองวันนี้(8ต.ค.68) ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองวันนี้(8ต.ค.68) ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น

8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (2ต.ค.2025)

8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (2ต.ค.2025)

8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (3ต.ค.2025)


8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (3ต.ค.2025)


7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (8ต.ค.2025)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (8ต.ค.2025)

TrustNEws Line