วันอังคาร, ตุลาคม 21, 2568

แนวโน้มSETวันนี้(21ต.ค.68) ยังผันผวนสูงในกรอบ

by Trust News, 21 ตุลาคม 2568

แนวโน้มSETวันนี้(21ต.ค.68) ยังผันผวนสูงในกรอบ

คาดตลาดไซด์เวย์ การขึ้นยังติด 1290/1300 ในขณะที่การลงมีแนวรับหลัก 1270-1266 ยังแกว่งตัวผันผวนสูงในกรอบ รอเบรก ติดตามการพบกันระหว่างสก็อตต์ เบสเซนต์ รมว.คลังสหรัฐฯ กับ เหอ ลี่เฟิง รองนายกฯ จีน

ขณะที่โอกาสในการลดดอกเบี้ยเฟดปลายเดือนหนุน วันนี้ ครม. พิจารณามาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นผลที่เกิดจากการประชุมครั้งที่แล้ว ส่วน ครม. เศรษฐกิจวานนี้อนุมัติโครงการโซลาร์ ติดตามการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน 4th Plenum ต่อ 

ประเด็นสำคัญ :

1. ประชาชนใช้สิทธิ์ลงทะเบียน “คนละครึ่งพลัส” ครบ 20 ล้านเสียงในวันเปิดลงทะเบียนวันแรก รมว. คลังกำลังพิจารณาขยายสิทธิ์เพิ่มเติม หากมีผู้รับสิทธิ์ไม่ใช้จ่ายภายในวันที่ 11 พ.ย. นี้ สิทธิ์ดังกล่าวจะถูกโอนไปให้ประชาชนรายใหม่ในเฟสต่อไปใน ม.ค. 2569


2. รมว. พลังงานประกาศลดราคาเบนซินและดีเซลเพิ่มเติมอีก 30 และ 50 สต./ลิตร ตามลำดับ มีผลในวันนี้ และได้เสนอให้ที่ประชุม ครม. เศรษฐกิจและมีมติเห็นชอบ 3 มาตรการลดค่าครองชีพผ่านการลดค่าไฟฟ้า คือ โครงการประมูล Direct PPA, 4 โครงการโซลาร์ และการสร้างความยั่งยืนรองรับ Net Zero 2050 ซึ่งรวมถึงการเร่งปรับปรุงแผน PDP ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย Quick Big Win


3. จีนเผยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญใน ก.ย. 2568 ส่วนใหญ่สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ ได้แก่ 3Q68 GDP ของจีนขยายตัว 4.8%YoY, ยอดค้าปลีกใน ก.ย. 2568 ขยายตัว 3.0%YoY และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมใน ก.ย. 2568 ขยายตัว 6.5%YoY แต่การลงทุนสินทรัพย์ถาวรช่วง 9M68 พลิกหดตัว 0.5%YoY ผิดจากที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 0.1%YoY


4. การประชุม รมต. พลังงานของ EU มีมติเห็นชอบข้อเสนอการยุติการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียโดยสมบูรณ์ก่อนวันที่ 1 ม.ค. 2571 โดยข้อเสนอดังกล่าวจะถูกนำเสนอต่อที่ประชุมสภาสหภาพยุโรปเพื่อเห็นชอบอีกครั้ง ปัจจุบัน EU นำเข้าก๊าซฯ จากรัสเซียเพียง 12% ของการนำเข้าทั้งหมด จากในปี 2565 ที่เคยนำเข้าในสัดส่วน 45%


5. ผู้ให้บริการระบบ Cloud AWS ของ Amazon (AMZN.US) เกิดเหตุขัดข้องครั้งใหญ่ ทำให้เว็ปไซด์และแอปฯ หลายพันแห่งทั่วโลก รวมถึง Snapchat และ Reddit ได้รับผลกระทบ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนที่ระบบต่างๆ กลับมาใช้งานได้ เป็นเหตุชะงักทางอินเตอร์เน็ตครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์ CrowdStrike ในปี 2567

กลยุทธ์การลงทุน :

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1270-1320 ประเมินความเสี่ยงหลัก คือ สงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีนจะมีต่อเนื่องจนกว่าทั้งสองฝ่ายจะเจรจาในช่วงก่อนประชุม APEC ปลายเดือน ต.ค. นี้, การประชุม คกก. พรรคคอมมิวนิสต์จีน (20–23 ต.ค.) คาดจะส่งสัญญาณสนับสนุนด้านเทคโนโลยี, การบริโภค และจำกัดการเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตใหม่, เงินเฟ้อ ก.ย. ของสหรัฐฯ (24 ต.ค.) อาจมีผลต่อตลาดไม่มากนัก

โดยมองเฟดมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้ และงบ 3Q68 ของ บจ. สหรัฐฯ มีแนวโน้มออกมาดีกว่าตลาดคาด โดย 6 ใน 11 กลุ่มอุตสาหกรรมคาดจะปรับตัวขึ้น YoY ได้

ด้านปัจจัยในประเทศติดตามแผนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มของรัฐบาล, ตัวเลขส่งออกไทย ก.ย. 2568 ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง และงบ 3Q68 ของ บจ. ไทย โดยกลุ่มธนาคารใหญ่จะประกาศงบสัปดาห์หน้าและถัดไปจะเป็นกลุ่ม Real Sector
 
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :

ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวผันผวนจากความเสี่ยงภายนอกเป็นหลัก กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีมหลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้...

1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาดผลการดำเนินงาน 3Q68 จะยังเติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY และเราแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดีและราคาหุ้นยังมี Upside ได้แก่ ADVANC BCP KTB LHSC OR PTT TRUE


2. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง คาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งในช่วง 1H69 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC TIDLOR

Trading Idea : 

นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ...

1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อนค่าในช่วงที่ผ่านมา แนะนำ TU GFPT KCE HANA

2) หุ้นที่มีโอกาสได้ประโยชน์จากสงครามการค้าจีน-สหรัฐมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้น แนะนำ WHA AMATA FTREIT

3) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากกำลังซื้อที่จะดีขึ้น จากรัฐผลักดันนโยบายสร้างรายได้ ลดค่าครองชีพ แนะนำ CPALL CPAXT และ BJC
 
Daily Top Picks :

KTB :  มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากโมเมนตัมกำไรสุทธิ 3Q68 คาดจะเติบโตสูงที่สุดในกลุ่ม เนื่องจากประเมินกําไร FVTPL จากเงินลงทุนใน THAI 1.4 หมื่นลบ. (1 บาท/หุ้น) KTB มีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ตํ่ากว่าธนาคารใหญ่อื่นๆ มี ROE ที่ดีกว่า Valuation ถูก และคาด Div. Yield ปี 2568 ที่ราว 6.3% เป้าหมายระยะสั้น 26.50 บาท

HANA :  มีปัจจัยกระตุ้นสั้นจากการฟื้นตัวของหุ้นอิเล็กทรอนิคส์ในต่างประเทศ ความหวังต่อสินค้าใหม่ด้าน AI อย่าง Solid-state Cooling Device ที่บริษัทจะติดตั้งสายการผลิตใน 4Q68 และเริ่มผลิตใน 1H69 เป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ AI ที่มีโอกาสหนุนผลประกอบการในอนาคตและมีศักยภาพในการเติบโต เป้าหมายระยะสั้นที่ 24.60 บาท

อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์


You might be intertested in this news.

Mostview

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (17ต.ค.68) ยังคงเป็นขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (17ต.ค.68) ยังคงเป็นขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองวันนี้(16ต.ค.68) ยังเป็นขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองวันนี้(16ต.ค.68) ยังเป็นขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (15ต.ค.68) ยังเป็นขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (15ต.ค.68) ยังเป็นขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (21ต.ค.68) ยังเป็นขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (21ต.ค.68) ยังเป็นขาขึ้น

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ต.ค.2025)


7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ต.ค.2025)


TrustNEws Line